สงครามรอบใหม่ระหว่างกองกำลังฮามาส กลุ่มติดอาวุธของปาเลสไตน์และกองทัพอิสราเอลคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตอีกหลายพันคน หรืออาจเป็นหมื่นๆ ถ้ากองทัพอิสราเอลภาคพื้นดินรุกเข้าไปในพื้นที่ฉนวนกาซา
ช่วงนี้ทหารอิสราเอลซึ่งระดมกองหนุน 300,000 คน อยู่ในภาวะสงครามตามคำประกาศของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และรัฐมนตรีกลาโหมจอมห้าว Yoav Gallant ซึ่งประกาศว่าจะถล่มฉนวนกาซาให้ราบคาบ
หลังจากกลุ่มกองกำลังฮามาสกว่า 1 พันนายบุกเข้าไปในพื้นที่ของอิสราเอลและสังหารหมู่ชาวบ้าน ทหาร ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,200 นายตามคำประกาศของฝ่ายอิสราเอล
อิสราเอลตอบโต้รุนแรงโดยการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ฉนวนกาซาสร้างความพินาศย่อยยับให้กับอาคารบ้านเรือนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่า 5,000 ราย
การโจมตีของอิสราเอลทางเครื่องบินรบไม่เลือกเป้าหมาย ว่าจะมีพลเรือนปะปนอยู่หรือไม่เพราะอ้างว่าจุดโจมตีเป็นที่ตั้งของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมหัวรุนแรง
ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โจ ไบเดน ออกแถลงการณ์พร้อมที่ปรึกษาด้านความมั่นคงว่าจะให้การสนับสนุนอิสราเอลทุกรูปแบบเพราะมีคนอเมริกันเสียชีวิตด้วยอย่างน้อย 14 รายและส่วนหนึ่งถูกจับเป็นตัวประกันด้วย
โจ ไบเดนไม่แสวงหาสันติภาพหรือเรียกร้องให้มีการหยุดจริงเพื่อเจรจาทางการทูตแต่มีวัตถุประสงค์ตรงกับอิสราเอลที่ต้องการทำลายกองกำลังของปาเลสไตน์ ซึ่งอ้างว่าได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
กลุ่มปาเลสไตน์เสียเปรียบในสงครามข่าวสารเพราะสื่อตะวันตกโดยเฉพาะ CNN เป็นกระบอกเสียงของสหรัฐฯ และอิสราเอลประโคมข่าวความเสียหายของฝ่ายอิสราเอลและแสดงให้เห็นความกระหายเลือดของผู้นำทำเนียบขาว
โจ ไบเดนมีชีวิตทางการเมืองเกี่ยวพันกับการมีส่วนในการสังหารประชาชนโดยกองกำลังสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุคสงครามเวียดนาม คาบสมุทรบอลข่าน อิรัก ลิเบีย ซีเรีย และอัฟกานิสถานเป็นผู้ที่มีมือเปื้อนเลือดและตอนนี้ถูกกล่าวหาว่าคอร์รัปชันโดยการสอบสวนของสภาคองเกรส
ณ บัดนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการเจรจาสงบศึกระหว่างกองกำลังฮามาส และอิสราเอลซึ่งฝ่ายหลังย่อมจะใช้โอกาสนี้ทำลายกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซาให้สิ้นซาก โดยอ้างสิทธิ์ว่าถูกโจมตีก่อน แต่ไม่อธิบายว่าผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตายพวกการใช้เครื่องบินโจมตี
อิสราเอลใช้กองทัพอากาศยิงถล่มหนทางเข้าออกระหว่างฉนวนกาซากับอียิปต์ และด้านตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนโดยหวังจับปิดประตูตีแมวให้สำเร็จ
รัฐบาลอิสราเอลสั่งตัดน้ำ ไฟฟ้าเส้นทางส่งอาหารและพลังงานทำให้ฝั่งฉนวนกาซาขาดแคลนและมีประชาชนประมาณ 500,000 คนอาจจะต้องขาดแคลนอาหารในไม่ช้านี้
ฉนวนกาซามีพื้นที่ประมาณ 260 ตารางกิโลเมตรแต่มีประชากรแออัดถึง 2.3 ล้านคน และกว่า 170,000 คนต้องอพยพจากบ้านไปอยู่ที่ปลอดภัยเพราะคาดได้เลยว่ากองทัพอิสราเอลภาคพื้นดินจะเข้ากวาดล้างในไม่ช้านี้
จะต้องเป็นการหลั่งเลือดและมีผู้เสียชีวิตอย่างมากมายถ้ากองทัพอิสราเอลบุกเข้าไปในฉนวนกาซาจริง ซึ่งมีพื้นที่ซับซ้อนเหมาะสำหรับทำสงครามจรยุทธ์แบบกองโจรโดยพื้นที่ฉนวนกาซามีแต่โพรงและอุโมงค์ซับซ้อน เหมาะสำหรับการซุ่มโจมตี
กองกำลังฮามาสประมาณ 30,000 คนแต่ทหารอิสราเอลและระดมพลกว่า 300,000 นายและสามารถเพิ่มได้อีก 60,000 ถึง 100,000 นายภายในเวลาอันสั้นซึ่งมีจำนวนมากกว่ากองกำลังติดอาวุธในปาเลสไตน์ แถมยังมีอาวุธเหนือกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้
อิสราเอล มองว่า ความจำเป็นที่จะต้องทำสงครามต่อเนื่องเพราะการเสียหน้าที่ถูกจู่โจมข้ามพรมแดนโดยไม่รู้ตัวหรือมีคำเตือนมาก่อน และถือว่าเป็นความเจ็บปวดอย่างมากที่ต้องเอาคืนให้เต็มที่
นั่นหมายถึงการฆ่าทำลายล้างกลุ่มต่อต้านอิสราเอลในพื้นที่ปาเลสไตน์ โดยไม่ต้องคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนหรือมนุษยธรรมไร้ความเมตตาปรานี
สมาชิกสภาหญิงของอิสราเอลเรียกร้องให้ใช้จรวดติดหัวรบนิวเคลียร์ชื่อเจริโก้ทำลายล้างปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาให้สิ้นซาก โดยไม่ต้องฟังเสียงเรียกร้องต่อประชาคมโลกทั้งสิ้น
มีการประมาณว่าอิสราเอลมีจรวดหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 100 ถึง 200 ลูกแต่ไม่มีการยอมรับอย่างเป็นทางการเพราะสหรัฐฯ และยุโรปให้ท้ายมาโดยตลอด
ต้องดูว่าถ้ากองทัพอิสราเอลบุกเข้าไปในฉนวนกาซาเพื่อทำสงครามปิดเกมจะส่งผลอย่างไรเมื่อสงครามขยายตัวในพื้นที่ตะวันออกกลางและประเทศอาหรับรอบข้างจะแสดงออกอย่างไรโดยเฉพาะอิหร่าน ซึ่งถูกโลกตะวันตก กล่าวหาว่าให้การสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธฮามาส และฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
ผู้นำของตุรกีอยากจะเป็นตัวกลางให้มีการหยุดยิงและเจรจาสันติภาพแต่คงจะเป็นการยากที่จะให้สหรัฐฯ และอิสราเอลยินยอมเพราะไม่ต้องการอยู่ร่วมโลกกับชาวปาเลสไตน์อีกต่อไปเพราะจะถูกมองว่าเป็นหอกข้างแคร่
ถ้าสงครามยืดเยื้อและนองเลือดจะนำไปสู่การขยายตัว โดยชาติมหาอำนาจอื่นๆ ยื่นมือเข้ามาหรือไม่แม้จะมีคำเตือนจากผู้นำทำเนียบขาวว่าอย่าให้มายุ่งทั้งที่ตัวเองก็สนับสนุนอิสราเอล
สหประชาชาติคงไม่มีน้ำยาตามแบบเสือกระดาษอย่างที่เคยเป็นมาและอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ไม่มีใครมีพลังมากพอที่จะหยุดสงครามได้
แน่นอนจะต้องส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศรวมทั้งดุลยภาพด้านกำลังทหารในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะราคาน้ำมันและอาหารที่จะต้องเพิ่มขึ้น
ประชาคมโลกคงได้แต่หวังว่า จะมีการหยุดยิงและเจรจาสันติภาพเพื่อหยุดยั้งการ สูญเสียชีวิตของประชาชนที่ไม่มีส่วนร่วมในสงคราม ผู้ตัดสินใจแท้จริงคือสหรัฐฯ เท่านั้น