xs
xsm
sm
md
lg

ซีอีโอ Swatch จวกนาโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์


นิก ฮาเยก ซีอีโอ Swatch Group
ใครจะนึกว่าผู้บริหารสูงสุดของบริษัทผลิตนาฬิกาข้อมือชื่อดัง เป็นยักษ์ใหญ่ชาวสวิส จะพูดการเมืองวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มประเทศตะวันตกด้วยกันได้แสบเข้าไส้อย่างนี้

ซัดสหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตกว่าเป็นพวก “มือถือสาก ปากถือศีล” “พูดอย่างทำอย่าง” และมี 2 มาตรฐาน โดยเฉพาะกรณีสงครามยูเครนกับรัสเซีย

ซีอีโอของบริษัทนาฬิกา Swatch Group มีชื่อเสียงทั่วโลก นายนิก ฮาเยก Nick Hayek ให้สัมภาษณ์สื่อสวิส SonntagsBlick วันอาทิตย์ที่ผ่านมา และใส่ไม่ยั้ง

ผิดธรรมเนียมของชาวสวิสที่ต้องเป็นกลางทางการเมือง แต่นายนิกคงเห็นว่าที่ผ่านมาประเทศของตัวเองไม่เป็นกลาง เข้าข้างสหรัฐฯ และประชาคมยุโรปเต็มตัว

เห็นชัดคือร่วมมือกับสถาบันการเงินตะวันตกอายัดเงินฝากทรัพย์สินของรัฐบาลรัสเซียและนักธุรกิจรัสเซียตามคำบงการของสหรัฐฯ ทำให้เสียหายมาก

พวกเศรษฐีมีทรัพย์จึงคิดหลายตลบว่าจะเอาเงินไปฝากธนาคารสวิสหรือไม่

นายนิกบอกว่า “ทั้งโลกกำลังมองอะไรบนพื้นฐานของอุดมการณ์ไปหมด ดูสงครามยูเครนเป็นตัวอย่าง พวกเราต้องการให้วิกฤตของการเป็นปฏิปักษ์ต่อกันให้จบสิ้น มีคนตายทุกวัน ไม่ว่าคนตายจะเป็นฝ่ายไหน”

“ในอดีตนั้นเราพยายามหาทางออกของปัญหาด้วยวิธีการทูต ปัจจุบันนี้ เราทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว ไม่อย่างนั้นจะโดนกล่าวหาว่าทรยศต่อความมีสิทธิเสรีภาพและหลักการประชาธิปไตย” นายนิกชี้ให้เห็นภาพชัด

นายนิกดูเหมือนจะใส่ไม่ยั้งเพราะความอัดอั้นตันใจกับปัญหาการเมือง

สงครามยูเครนและมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้ธุรกิจการขายนาฬิกามีปัญหาโดยเฉพาะแบรนด์หรู ทั้งยังต้องพึ่งพาตลาดจีนซึ่งโดนสหรัฐฯ เล่นงานด้วย

นายนิกยังย้ำอีกว่า “ความก้าวหน้าจะต้องมีทางออกที่ปฏิบัติได้จริง ลองคิดดูซิว่ามันจะเป็นการดีหรือไม่ที่รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนีกล่าวหาผู้นำจีน นายสี จิ้นผิงว่าเป็นเผด็จการ”

ก่อนหน้านี้นางแอนนาลีนา แบร์บ็อก พูดว่า สี จิ้นผิงเป็นเผด็จการในการให้สัมภาษณ์สื่อ จากนั้นโดนโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนออกมาโต้ตอบ

นางแบร์บ็อก มาจากพรรคกรีน เป็นคนปากไว การเมืองด้อยประสบการณ์ด้วยอายุเพียง 42 ปี ในรัฐบาลผสมของนายกฯ โอลาฟ โชลซ์ ซึ่งมีปัญหาความนิยมตกต่ำ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายตะวันตกมีความ “ยโสโอหัง” หรือไม่ นายนิกยังชี้ว่าเป็นพวกปากว่าตาขยิบอีกด้วย ถ้าดูก็เห็นชัดในกรณีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย

พวกประเทศตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซีย แต่ก็ยังทำมาค้าขายกับรัสเซียหลังฉาก พวกอเมริกันได้ประโยชน์เพราะได้ขายก๊าซให้ยุโรป ซาอุฯ ก็เป็นคนดีเมื่อเป็นผู้ขายพลังงาน หลังจากสหรัฐฯ ประกาศว่าจะไม่คบกรณีฆ่านักข่าว

นายนิกชี้ให้เห็นอีกว่ามาตรการคว่ำบาตรเป็นเพียงปาหี่ เว้นแต่ว่าทุกประเทศจะร่วมมือกันทำอย่างจริงจัง ที่ผ่านมามีหลายประเทศแอบค้าขายกับรัสเซีย

มีข่าวว่าเยอรมนีเองก็ซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียโดยซื้อต่อจากอินเดีย เพราะไม่มีทางเลือกอื่น ก่อนที่ฤดูหนาวจะมา และเยอรมนีต้องเตรียมตัวให้พร้อม

สวิตเซอร์แลนด์เคยเป็นที่ยอมรับถึงความเป็นกลางด้านการเมือง แต่ปัจจุบันไม่สามารถเล่นบทเชิงบวกอีกแล้วในความพยายามคลี่คลายวิกฤตความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย นั่นเป็นเพราะรัฐบาลสวิสไม่ได้เน้นงานด้านการทูต

หลังจากรัสเซียปฏิบัติการพิเศษ ส่งทหารบุกเข้ายูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา กลุ่มประเทศสมาชิกองค์การนาโตได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยไม่ซื้อพลังงาน ส่งผลให้ราคาพลังงานในยุโรปแพงขึ้นทั้งยังขาดแคลนอีกด้วย

เมื่อท่อก๊าซส่งจากรัสเซียไปเยอรมนีโดนระเบิดในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ยุโรปไม่มีก๊าซจากรัสเซีย มีหลักฐานอ้างได้ว่าสหรัฐฯ อยู่เบื้องหลังการก่อการร้าย

ผลที่ตามมาคือเศรษฐกิจของยุโรปลำบาก บริษัทต่างๆ ไม่สามารถสู้ราคาพลังงานแพงต้องปิดตัว ล้มละลาย บริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ต้องลดการผลิต

เยอรมนีไม่มีทางเลือกอื่น ต้องซื้อก๊าซจากสหรัฐฯ และหาแหล่งจากตะวันออกกลาง แต่ปัญหายังไม่จบสิ้น ต้องหันไปใช้พลังงานถ่านหิน สร้างมลพิษในอากาศ

หลายประเทศต้องดิ้นรนให้อยู่รอด ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย นางไคยา คาลลาส ต้องโดนเรื่องฉาวโฉ่เมื่อมีข่าวว่าสามีของนางได้มีหุ้นในบริษัทโลจิสติกส์ซึ่งยังทำธุรกิจกับรัสเซียหลังจากเกิดสงครามยูเครน

การให้สัมภาษณ์ของนายนิกยังไม่รู้ว่าจะมีปัญหาตามมาหรือไม่ คำพูดเช่นนั้นย่อมสร้างความไม่พอใจให้ผู้นำกลุ่มประเทศนาโตแม้จะเป็นความจริงก็ตาม

มีเค้าลางว่ากลุ่มนาโตเริ่มระอากับสงครามเพราะต้องใช้จ่ายเงินและให้อาวุธกับยูเครนไม่สิ้นสุด ไม่มีวี่แววว่ายูเครนจะสามารถยึดพื้นที่คืนจากการครอบครองโดยรัสเซีย ซึ่งมี 4 แคว้น ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ของยูเครน และโดนผนวกไปแล้ว

ยูเครนอ้างว่าจะรุกตีโต้รัสเซียอีกไม่นาน และจะต่อเนื่องในฤดูหนาว ซึ่งจะทำให้ยูเครนพินาศ ทหารจะตายมากขึ้น การรุกหนักในเดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบันทำให้ทหารยูเครนเสียชีวิตอย่างน้อย 71,000 นาย และบ้านเมืองเสียหายอย่างหนัก

โอกาสที่จะเจรจาสงบศึกไม่มีความเป็นไปได้ ผู้นำยูเครนออกกฎหมายห้ามการเจรจาดังนั้นสงครามจะต้องยืดเยื้ออีก โดยทหารยูเครนและรัสเซียต้องตายอีกมาก

เริ่มมีการพูดถึงเรื่องการล้มผู้นำยูเครนเพราะคนไม่พอใจที่บ้านเมืองใกล้ล่มสลาย ยูเครนเหลือประชากรอีก 20 กว่าล้านคน จากที่เคยมีมากกว่า 50 ล้านคน


กำลังโหลดความคิดเห็น