xs
xsm
sm
md
lg

โลกตะวันตก...กำลังถึงกาล“ล่มสลาย”!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท



ผ่านไปแล้ว...สำหรับการประชุมกลุ่มประเทศ “G20” ที่ประเทศอินตะระเดีย เมื่อช่วงวันอาทิตย์ (10 ก.ย.) ที่ผ่านมา และแม้จะเป็นการประชุมที่ออกจะเน้นหนักในเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการเงิน-การทอง ดังที่ประเทศ “พัฒนาแล้ว” เขาพยายามฉุดกระชากลากถูให้บรรดาประเทศ “กำลังพัฒนา” ทั้งหลาย มาช่วยแก้ปัญหาของตัวกูเอง หลังการล้มคว่ำ คะมำหงายของบริษัทธุรกิจอเมริกัน อย่าง “Lehman Brothers” เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2008 หรือช่วงที่คุณพ่ออเมริการับบทเป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่มประเทศดังกล่าวเมื่อครั้งกระโน้น...

แต่การที่ “ประมุขโลก” อย่างอเมริกา...ไม่อาจใช้ “เวที” แห่งนี้เป็นเครื่องตอบสนองความปรารถนาและต้องการของตัวกูเองในอันที่จะชี้แนะ ชี้นำ เพื่อให้โลกทั้งโลกร่วมมือ ร่วมตีน ร่วมสหบาทารุมกระทืบมหาอำนาจคู่แข่ง อย่างหมีขาวรัสเซียและพญามังกรจีน ได้แบบเต็มมือ เต็มเท้า ย่อมต้องถือเป็นการเสียหน้า เสียรังวัด และเสียมวยมิใช่น้อย หรืออย่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย “นายSergey Lavrov” เขาออกมาแสดงความปลาบปลื้ม ยินดี หลังจาก “แถลงการณ์ร่วม” ของกลุ่มประเทศดังกล่าว ไม่ได้คิดจะหยิบเอาเรื่องความขัดแย้ง “รัสเซีย-ยูเครน” มาพูดถึงไว้เลยแม้แต่น้อย เลี่ยงไปพูดถึงเรื่องการยึดครอง ครอบครองดินแดนแบบเลื่อนๆ ลอยๆ กันแทนที่ ด้วยเหตุนี้...ถ้าดูจากการประชุมในเวทีสำคัญๆ แต่ละเวที คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า นับวันจะเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึง “ความเสื่อม” ของคุณพ่ออเมริกาและบรรดาพวกพรมเช็ดเท้า หรือบรรดาโลกตะวันตกทั้งหลาย อย่างเห็นได้ถนัดชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

ชนิดที่ทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียท่านกล้าฟันธง-ฟันเฟิร์มแบบเต็มผืน เต็มด้าม ว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกไม่คิดจะเอาด้วยกับการ “แซงชั่นรัสเซีย” ของอเมริกาและโลกตะวันตกอีกต่อไปแล้ว ไม่ต่างไปจากผู้นำรัสเซียประธานาธิบดี “ปูติน” ที่ได้ฟันธง-ฟันเฟิร์มไปในทิศทางเดียวกัน ในเวทีประชุม “The Eastern Economic Forum” ณ กรุงวลาดิวอสต็อกเมื่อช่วงวันอังคาร (12 ก.ย.) ที่ผ่านมา ว่าด้วยเหตุเพราะ “ความเสื่อม” หรือ “ความประมาทเลินเล่อ” ในการระวัง รักษา อำนาจและอิทธิพลของตัวเอง ของอเมริกาและโลกตะวันตกนั่นเอง ที่ทำให้สิ่งที่ตัวเองคิดจะเล่นงานฝ่ายตรงกันข้าม เลยมีอัน “ย้อนศร” กลับมาเล่นงานตัวเอง โดยเห็นได้จากหลักฐาน ข้อพิสูจน์ อย่างเช่นเรื่องการประกอบธุรกิจ ธุรกรรม ด้วยเงิน “ยูเอสดอลลาร์” ที่ทุกวันนี้แทบไม่มีใครกระหายใคร่อยากต่อไปอีกแล้ว มีแต่จะครุ่นคิด ใคร่ครวญ ว่าจะหาช่อง หาโอกาส ที่จะละทิ้งสกุลเงินชนิดนี้ (De-Dollarization) แล้วหันไปหาสกุลเงินใหม่ๆ หรือสกุลเงินของตัวเอง ในการแลกเปลี่ยน ค้าขายประกอบธุรกิจ ธุรกรรม กันแทนที่หรือไม่? อย่างไร?...

หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน-การทองแห่งประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศที่ยอมเปิดช่อง เปิดโอกาส ให้ฐานทัพอเมริกันเข้ามาตั้งอยู่ในประเทศได้แบบเดิม ตามเดิม อย่าง “นายCarlos Tabunda” อธิการบดี “The Faculty of International Relations” แห่งมหาวิทยาลัย “New Era” ประเทศฟิลิปปินส์ ก็ยังต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้อีกต่อไปว่ากระบวนการละทิ้งเงินดอลลาร์ในระดับโลกนั้น แม้ว่าจะไม่รวดเร็วและไม่ง่าย แต่สุดท้ายแล้ว...ย่อมเป็นสิ่งที่ต้องอุบัติขึ้นมาในอนาคตอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย ด้วยเหตุเพราะความ “อันตราย” ของตัวเงินดอลลาร์เองนั่นแหละ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ถูกแปรสภาพให้กลายเป็น “อาวุธ” ของอเมริกา แต่เพราะโดยแนวโน้มของ “เศรษฐกิจอเมริกา” เอง ไม่ว่าภาวะเงินเฟ้อที่กดยังไงก็กดไม่ลง ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหา “หนี้สิน” ที่ปาเข้าไปถึง 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ เกินกว่าตัวเลขจีดีพีไปถึง 129 เปอร์เซ็นต์ แถมปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกไม่น้อยกว่า 7.6 ล้านล้านดอลลาร์ เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!

ด้วยเหตุนี้...จึงถือเป็นเรื่องไม่แปลก ที่ประมุขทางจิตวิญญาณแห่งประเทศคู่กัด-คู่อาฆาตของอเมริกาอย่างอิหร่าน หรือท่าน “Ayatollah Syed Ali Khamenei” ท่านเลยต้องออกมาแสดงความปลาบปลื้ม ยินดี ด้วยคำพูด คำจา ที่แสดงออกถึงความมั่นอก-มั่นใจแบบสุดขีด โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า...“โลกกำลังอยู่ริมขอบแห่งการเปลี่ยนแปลง พลังอำนาจของตะวันตกที่นำโดยอเมริกาและประเทศยุโรป ไม่ได้มีอำนาจเหมือนแต่ก่อนต่อไปอีกแล้วในทุกวันนี้ พวกเขากำลังอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ และจะอ่อนแอยิ่งๆ ขึ้นไปในแต่ละวัน ขณะที่พลังอำนาจใหม่ๆ กำลังก่อเกิด นี่คือ...การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระดับโลก และหนึ่งในเครื่องบ่งชี้ถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ก็คือเศรษฐกิจอเมริกา ที่กำลังเสื่อมโทรมอย่างเห็นได้ชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที...” นี่...จริง-ไม่จริง เชื่อ-ไม่เชื่อ ลองหันไปกระซิบถามกุนซือสมองเพชร ที่คุณน้อง “สุรวิชช์ วีรวรรณ” ของหมู่เฮาดันเปลี่ยนชื่อเป็น “ลุงเต้า” ซะดื้อๆ ในฐานะที่เคยไปเทียวไล้-เทียวขื่ออยู่แถวๆ สถานทูตอิหร่านลองดูก็ได้...

แต่เอาเป็นว่า...เชื่อ-ไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่าประเทศที่ถูกรุมเหยียบ รุมกระทืบ โดยคุณพ่ออเมริกาและชาติพันธมิตร “NATO” ถึง 30 ชาติด้วยกัน นับเป็นปีๆ เข้าไปแล้ว อย่างหมีขาวรัสเซียนั้น...มาถึงทุกวันนี้ยังคงเบิร์ดๆ-สบายๆ ไม่ได้ล้มคว่ำคะมำหงาย ไม่ได้ถึงกับเศรษฐกิจถดถอย เงินเฟ้อ ชนิดกดยังไงก็กดไม่ลงเหมือนอย่างอเมริกาหรือประเทศพันธมิตรยุโรปแต่อย่างใด หรือถึงแม้จะขาดแคลนอาวุธ อย่างที่โฆษกทำเนียบขาว “นายMatthew Miller” ออกมาเยาะเย้ย ถากถาง ว่ากำลังต้องหันไปพึ่งพาบริการจากเกาหลีเหนือ จากการนั่งรถไฟกันกระสุนของประธานาธิบดี “Kim Jong Un” ไปเยือนรัสเซียกันถึงที่ ชนิดที่อาจถึงขั้นทำให้ “ความฝันที่จะคืนชีพความรุ่งโรจน์แห่งจักรวรรดิรัสเซียกำลังประสบความล้มเหลว” เอาเลยถึงขั้นนั้น แต่ถ้าหากเทียบกับโลกตะวันตกที่ต้องระดมมือ ระดมตีน กันถึงกว่า 30 ชาติในการเล่นงานรัสเซียเพียงประเทศเดียว การพบปะระหว่างประธานาธิบดี “ปูติน” กับผู้นำเกาหลีเหนือ ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดแต่อย่างใด กลับเป็นคุณพ่ออเมริกาและพวกพรมเช็ดเท้าทั้งหลายต่างหาก ที่ไม่ว่าระดมมือ ระดมตีน กันไปถึงขั้นไหน ก็ยังกินหมีขาวไม่ลง จนตราบเท่าทุกวันนี้...

ไม่ต่างไปจาก “ตัวตลก-ตัวแทน” ของโลกตะวันตกอย่างยูเครน ที่แม้ยังไม่ถึงกับหลงเหลือ “ชาวยูเครนคนสุดท้าย” แต่การคิดทวงดินแดนคืนจากรัสเซีย ยิ่งนับวันยิ่ง “เหี่ยวปลาย” อย่างเห็นได้ชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที แถมถ้าดูจากความคิด-ความเห็นของบรรดาชาวยูเครนที่ยังคงหลงเหลือติดประเทศ และสำนัก “Ilko Kucheriv Democratic Initiative Charitable Foundation” และ “Kiev International Institute of Sociology” เขาไปทำโพลนำมาเปิดเผยให้เห็นเมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 ก.ย.) ต้องเรียกว่า...แทบทั้งประเทศ หรือกว่า 78 เปอร์เซ็นต์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ผู้นำของตัวเองอย่างประธานาธิบดี “Vladimir Zelensky” นั้น ประสบ “ความล้มเหลว” โดยสิ้นเชิงในการขจัดกวาดล้างการทุจริตประพฤติมิชอบในขณะที่ต้องใช้เม็ดเงินประมาณวันละ 100 ล้านดอลลาร์ในการสู้กับรัสเซีย ตามที่อดีตรัฐมนตรีกลาโหมคนเก่าได้ออกมาแจกแจง เอาไว้เมื่อไม่นานมานี้...

ต่างไปจากหมีขาวรัสเซีย ที่ไม่ว่าทำโพลวันไหน? โดยใคร? คะแนนนิยมของผู้นำประเทศ ปาเข้าไประดับ 70-80 เปอร์เซ็นต์มาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อ “เศรษฐกิจรัสเซีย” ไม่เพียงแต่แทบไม่ได้รับผลกระทบจากการต้องสู้กับโลกตะวันตกทั้งมวล แถมยังโตกว่าเศรษฐกิจยุคก่อนไม่น้อยกว่า 5 เท่าตัว ยิ่งมี “พันธมิตรที่ไร้ขีดจำกัด” อย่างคุณพี่จีนอยู่เคียงข้าง...โอกาสที่โลกตะวันตกจะเล่นงานมหาอำนาจคู่แข่งทั้งสองให้ต้องฉิบหาย วายวอด ลงไปต่อหน้า-ต่อตา ยิ่งเป็นไปไม่ได้เอาเลย เพราะแค่การทำมา-ค้าขาย ระหว่างประเทศทั้งสอง เพียงแค่ช่วง 7 เดือนแรกของปี ค.ศ. 2023 เท่านั้น ปริมาณการค้าก็ปาเข้าไปถึง 134,100 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่เคยเป็นมาถึง 36.5 เปอร์เซ็นต์ แถมยังไม่ต้องเสียเวลาพึ่งพาเงินยูเอสดอลลาร์หรือเงินยูโรอีกด้วยต่างหาก โอกาสที่ “จักรวรรดิรัสเซียกำลังล้มเหลว” อย่างที่โฆษกทำเนียบขาวคิดเอง เออเอง หรือ “มโน” ไปตามเรื่อง ตามราว จึงแทบเป็นไปไม่ได้เอาเลยก็ว่าได้ ยิ่งถ้าคิด “ลากยาวว์ว์ว์” สงครามออกไปนานขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะ “ย้อนศร” หวนกลับมาเล่นงานตัวเอง ให้ต้อง “ล่มสลาย” ลงไปทั้งสิ้น ทั้งพวง ชนิดไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี-หนีไม่พ้น กุสะลา ธัมมา-อะกุสะลา ธัมมา ต้องใช้น้ำมะพร้าวล้างหน้า ก่อนแบกขึ้นเมรุ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น