"พี่อร..ป้าสิน" พี่น้องสองแม่ค้าที่ขยัน บ้านของเธออยู่ที่บ้านดอนยูง หมู่ 9 ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์
ผมเองสนใจอาหารของเธอที่วางขายในตลาดใกล้บ้านในตลาดนัดใกล้บ้าน ผมชอบเดินและสนทนากับพี่อร-ป้าสิน เธอหาอาหารของแผ่นดินจากชนบทมีทั้ง "หอยโข่งนา" "จิ้งหรีด" "จิ้งโกร่ง" "ผักหนาม""ผักลืมผัว"" บัวบกนา" "ปูนา" สารพัดอาหารบ้านนอกที่ลูกหลานอีสาน กินแล้วมีแฮงสู้ชีวิต
อาหารที่เธอนำมาขาย เป็นอาหารที่มนุษย์ไม่ปลูกไม่ได้เลี้ยงไม่มีในฟาร์ม ผู้ผลิตผู้สร้างอาหารที่เธอขายวางขาย คือเทวดาแสงจันทร์ พระพิรุณ และพระอาทิตย์
เธอต้องใช้ทักษะลูกชาวนาทำให้หอยโข่งนา"สดมีชีวิต" "ลูกอึ่ง ลูกฮวก ยังมีลมหายใจอยู่เสมอเวลาวางขาย"
คำถามคือเธอเอาอาหารเหล่านี้มาจากไหน?
เธอบอกผมว่า เธอต้องเดินทางไปกลับจากบ้านดอนยูง อ.กมลาไสย วันเว้นวัน เช่าบ้านในกรุงเทพฯ ไว้นอนพัก และต้องกลับไปชนบทในหมู่บ้านขนอาหารที่เทวดาเป็นผู้ผลิตเหล่านี้ เข้าเมืองหลวงมาขาย
บางครั้งก็ใช้วิธีโทรสั่งล่วงหน้าบอกตายายในหมู่บ้านว่า ต้องการหอยโข่งนา จิ้งหรีด จิ้งโกร่ง หน้าฝนก็มีลูกอึ่งลูกฮวก คนที่อยู่ตามชนบทก็ไปหาตามห้วยหนองลำคลอง ไปขุดไปหาตามทุ่งนา ผักก็ไปเก็บตามป่าข้างบ้าน
สิ่งเหล่านี้เป็นอาหารที่หล่อเลี้ยงพี่น้องภาคอีสานมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ
มากไปกว่านั้นในทางเศรษฐศาสตร์การเมือง "เงินสด" ที่ขายได้จากผู้บริโภคลูกหลานแรงงานอีสานในกรุงเทพได้บริโภค เงินเล็กๆ น้อยๆ ที่มีคุณค่าเหล่านี้ก็กระจายไปถึงบ้านดอนยูง ภายในสองวัน
"หอยโข่งนา" "อึ่งฮวก" "ผักหนาม" "ผักเสี้ยน" "ปูนา" จากสินค้าธรรมชาติที่เทวดาผลิต ก็แปรเปลี่ยนเป็นเงินสดกระจายไปถึงหมู่บ้าน ให้คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านได้ซื้อหาอาหารจับจ่ายใช้สอยกันต่อ
นี่คือห่วงโซ่เศรษฐกิจชาวบ้านเล็กๆ ของประเทศไทย
ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที