‘ตำรวจโลกอันธพาล’

สหรัฐฯ เร่งมือรุกหนักขยายอิทธิพล กดดันคู่แข่งประเทศที่สหรัฐฯ มองว่าเป็นศัตรู ขยายแผนปิดล้อมจีนใช้มาตรการสารพัดเพื่อก่อปัญหาทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าสหรัฐฯ จะรบกับจีนในอีก 2 ปีข้างหน้าตามคำประเมินของนายพลอเมริกันรายหนึ่ง

อเมริกาตาร้อนทนไม่ได้ที่จีนได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา จนเศรษฐกิจจะแซงหน้าสหรัฐฯ พร้อมด้านแสนยานุภาพด้านอาวุธและด้านอวกาศ

สหรัฐฯ หาเรื่องจีนอย่างเต็มที่เปิดเผยในช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้นำทำเนียบขาวด้วยมาตรการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ผลักดันให้บริษัทอเมริกันออกจากจีนปลุกกระแสชาตินิยมและมาตรการข่มขู่บริษัทที่ไม่ให้ความร่วมมือ

สิ่งที่โดนัลด์ ทรัมป์ทำอย่างแรงคือเล่นงานบริษัทโทรคมมนาคมและไฮเทคของจีนอ้างว่าเป็นเครือข่ายของการสอดแนมจารกรรมเริ่มต้นจากบริษัทหัวเว่ย สั่งให้รัฐบาลแคนาดาจับลูกสาวประธานบริษัทหัวเว่ย ด้วยคดีอาญาเป็นเรื่องกว่าหนึ่งปี

เมื่อเข้าถึงยุค โจ ไบเดน ซึ่งเปิดฉากสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย ส่งให้ทั้งอาวุธและเงินช่วยเหลือไม่อั้นพร้อมมาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซีย แต่ส่งผลให้กลุ่มพันธมิตรในยุโรปได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตพลังงาน

สหรัฐฯ รู้ดีว่ายูเครนไม่มีวันชนะรัสเซียได้ แต่ยังต้องการให้รัสเซียอ่อนแอทุกด้านโดยใช้ยูเครนเป็นตัวแทนแม้ยูเครนพินาศหายนะเกือบจะสิ้นชาติทุกวันนี้ก็ตาม

โจ ไบเดนเปิดศึกอีกด้านหนึ่งกับจีน หาเรื่องเพื่อหักเหข้อกล่าวหาว่าตัวเองสั่งระเบิดท่อก๊าซใต้ทะเลบอลติก ด้วยกันสั่งยิงบอลลูนอ้างว่าเป็นเครื่องมือทำการสอดแนมจารกรรมเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ ปิดกั้นการตลาดของโทรศัพท์มือถือ

กล่าวหาว่าตู้เย็นของจีนมีกล้องถ่ายภาพซ่อนอยู่ภายในใครที่เปิดตู้เย็นก็จะถูกถ่ายภาพไว้เป็นกระแสต่อต้านสินค้าจีนนั่นเอง อ้างว่าโครนจีนเป็นอันตราย

กล่าวหาว่ากล้องวงจรปิดในสถานที่ต่างๆ ของสำนักงาน และจับภาพการจราจรในสหรัฐฯ เป็นเครื่องมือสอดแนมรับรู้ความเคลื่อนไหวของคนอเมริกัน

ห้ามบริษัทอเมริกันค้าขายสินค้าที่เกี่ยวกับความมั่นคงเช่นเซมิคอนดักเตอร์ และคว่ำบาตรบริษัทอิเล็กทรอนิกส์และโทรศัพท์มือถือการสื่อสารของจีน

ล่าสุดปิดกั้น TikTok และกล่าวหาว่าเครนยกสินค้าของจีนตามท่าเรือต่างๆ มีกล้องสอดแนมให้รู้ว่าสินค้าเรือเข้าออกอย่างไร มีจำนวนสินค้ามากน้อยแค่ไหน

สนับสนุนไต้หวันให้แข็งข้อกับจีนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้อนุมัติขายอาวุธมูลค่า 619 ล้านดอลลาร์ให้ไต้หวันเพียงแต่รอการอนุมัติจากสภาคองเกรส

ประธานสภาผู้แทนฯ นายเควิน แมคคาร์ธี ได้เชิญประธานาธิบดีไต้หวัน นางไช่ อิงเหวิน ไปสหรัฐฯ แทนที่ตัวเองจะไปไต้หวันเกรงว่าจะส่งผลกระทบไต้หวันโดนจีนปิดล้อมเมื่อนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาฯ คนก่อนไปไต้หวันเดือนสิงหาคมปี 2022

ทำการซ้อมรบกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ส่งเสริมให้ออสเตรเลียมีเรือดำน้ำ ใช้พลังงานนิวเคลียร์และกระชับความสัมพันธ์กับฟิลิปปินส์เพื่อให้เข้าแผนปิดล้อมจีน

กระพือข้อกล่าวหาว่าจีนแพร่ไวรัสโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่น เรียกร้องค่าเสียหาย

สหรัฐฯ หาเรื่องจีน เตือนว่าจะต้องไม่ส่งอาวุธให้รัสเซียไม่อย่างนั้นจะโดนมาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจอย่างรุนแรงเหมือนกับที่เคยขู่รัสเซีย

ล่าสุดผู้นำจีนนายสี จิ้นผิง และรัฐมนตรีต่างประเทศ ฉิน กัง ได้ออกมาโจมตีสหรัฐฯ ว่าเป็นตัวการจะทำให้เกิดสภาวะปฏิปักษ์รุนแรง และเตือนว่าจีนมีอธิปไตยและเอกราชที่เป็นมิตรกับประเทศใดก็ได้ไม่มีใครสั่งจีนว่าให้ทำหรือไม่ทำอะไร

สหรัฐฯ ออกกฎหมายในปี 2017 ซึ่งสามารถใช้มาตรการคว่ำบาตรเล่นงานประเทศอื่น ที่ผ่านมากฎหมายนี้ใช้เล่นงานอิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย

สหรัฐฯ เป็นประเทศเดียวที่ออกกฎหมายบังคับใช้กับประเทศอื่น ตั้งผู้นำให้เวเนซุเอลาเป็นอันธพาลโลก สร้างความพินาศให้หลายประเทศ ทำสงครามที่ไม่ชนะ

สหรัฐฯ ฆ่าคนเวียดนามไปอย่างน้อย 2 ล้านคน ทำคนพิการอีกมากด้วยสารพิษฝนเหลืองที่ใช้โรยให้ใบไม้ร่วง ในการค้นหาที่ซ่อนตัวของทหารเวียดนามเหนือและกองกำลังเวียดกง ในเวียดนามใต้ ทำให้มีสารพิษตกค้างเด็กเกิดมาพิการจนทุกวันนี้

สหรัฐฯ ทำสงครามกับอิรัก 2 ครั้งฆ่าชาวอิรัก 1 ล้านคน ครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก บ้านเมืองพินาศย่อยยับมีสงครามกลางเมืองทิ้งระเบิดในเซอร์เบียในศึกบอลข่าน

สหรัฐฯ ยกกำลังนาโตไปทำลายลิเบียส่งทหารไปยึดพื้นที่ตอนเหนือของซีเรียขโมยน้ำมันดิบอ้างว่าทหารสหรัฐฯ อยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องกบฏซีเรียต่อต้านรัฐบาล

นักการเมืองสหรัฐฯ มีเป้าหมายหลักคือประเทศต้องเป็นเจ้าโลกต้องหาเรื่องรัสเซียกับจีนว่าเป็นศัตรูคู่แข่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ทั้งที่ 2 ประเทศไม่ได้ส่งกำลังไปรุกรานประเทศใดเหมือนสหรัฐฯ ที่มีค่ายทหารกว่า 740 แห่งทั่วโลก

มีการต่อต้านอิทธิพลสหรัฐฯ หลายภูมิภาคเริ่มด้วยการเลี่ยงใช้เงินดอลลาร์สหรัฐค้าขายมีความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มและยุ่งกับสหรัฐฯ ให้น้อยที่สุด

ชาวยุโรปที่ลำบากกับวิกฤตเศรษฐกิจเนื่องจากการคว่ำบาตรรัสเซียได้เดินขบวนต่อต้านสงครามในยูเครน เรียกร้องให้มีการเจรจา แต่สื่อหลักของโลกตะวันตกไม่รายงานข่าว เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลสหรัฐฯ

การผลักดันรัสเซียกับจีนให้มีความสัมพันธ์แนบแน่นไร้ขอบเขตจะนำไปสู่การเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ทั่วโลกเผชิญวิกฤตชนิดหายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้ง