: สะท้อนรากเหง้าเพื่อไทย

“จะดูนิสัยต้องอยู่ร่วมกันนานๆ จะดูความสะอาดให้ดูที่การงาน จะดูความกล้าหาญให้ดูเมื่ออันตรายมาถึง” นี่คือ พุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสเกี่ยวกับพฤติกรรมของคน

โดยนัยแห่งคำสอนข้างต้น สามารถนำมาอธิบายขยายความได้ว่า ถ้าเราต้องการรู้ว่าคนไหนมีนิสัยเป็นอย่างไร ดีหรือเลวประการใด เราจะต้องอยู่ร่วมกับเขาคนนั้น โดยการร่วมคิด และร่วมทำงานด้วยกันเป็นเวลานาน จึงจะรู้ได้ว่าเขามีนิสัยเป็นอย่างไร ถ้าเราต้องการรู้ว่าคนไหนมีความสะอาด โปร่งใสมากน้อยเพียงใด ก็ให้ดูการทำงานของเขา

ถ้าเราต้องการรู้ว่าคนไหนมีความกล้าหาญหรือไม่ มากน้อยเพียงใด ก็ให้ดูเมื่อเขาเผชิญกับอันตราย ถ้าเขาสู้ก็แปลว่ากล้าหาญ แต่ถ้าเขาหนีก็แปลว่า ขี้ขลาดตาขาว

ตัวอย่างหนึ่งที่ท่านผู้อ่านสามารถนำมาศึกษาเปรียบเทียบกับพุทธพจน์ข้างต้น ก็คือ พฤติกรรมทางการเมืองของอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช.ซึ่งมีความใกล้ชิดกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ได้นำมาเปิดเผยทางโซเชียล มีเดีย และกลายเป็นความสะท้อนรากเหง้าของพรรคเพื่อไทยอยู่ในขณะนี้

จากการติดตามอ่านข้อความที่จตุพรเปิดเผย ผู้เขียนเห็นว่าเป็นสัจธรรมทางการเมือง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเมืองในระบอบทักษิณ ได้ค่อนข้างชัดเจนและน่าเชื่อถือ ทั้งนี้อนุมานจากเหตุปัจจัยในเชิงตรรกะดังต่อไปนี้

1. จตุพร เคยทำงานร่วมกับพรรคการเมืองภายใต้การชี้นำของอดีตนายกฯ ทักษิณ มานานพอที่จะรู้และเข้าใจพฤติกรรมทางการเมืองในระบอบทักษิณเป็นอย่างดี จึงสามารถนำมาเปิดเผยได้ค่อนข้างละเอียด

2. ตลอดเวลาที่จตุพรเปิดเผยข้อมูล ไม่ปรากฏว่ามีใครจากพรรคเพื่อไทยออกมาตอบโต้ โดยการปฏิเสธว่าไม่จริง จึงทำให้อนุมานได้ว่าสิ่งที่จตุพรพูดเป็นความจริงยากแก่การตอบโต้ โดยการหักล้างว่าไม่จริง

3. ในปัจจุบันคนเสื้อแดงที่เคยรวมตัวกันเหนียวแน่นต่อสู้เพื่อการเมืองในระบอบทักษิณ เปรียบเสมือนแพไม้ไผ่ที่ให้การเมืองในระบอบนี้ได้อาศัยข้ามฟากเพื่อไปสู่จุดหมาย

แต่ในขณะนี้คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งได้แยกตัวออกไป จะด้วยหูตาสว่างหรือจะด้วยไม่ได้สิ่งที่ตนเองต้องการก็แล้วแต่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่ที่แน่ๆ คือคนเสื้อแดงในปัจจุบันไม่เหมือนก่อนแล้ว

ด้วยเหตุนี้ จึงสรุปได้ว่าสิ่งที่จตุพรนำมาเปิดเผย ส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยแน่นอน ส่วนจะมากหรือน้อยจะต้องดูจากผลของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้