คนใต้กำลังทอดทิ้งประชาธิปัตย์

ภาคใต้ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยผูกขาดมายาวนานจนเคยเชื่อว่าพรรคของตัวเองส่งเสาไฟฟ้าลงคนใต้ก็ยังเลือกกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ แม้ครั้งที่แล้วจะส่งผลสะท้อนไปยังพรรคประชาธิปัตย์ระดับหนึ่งแล้ว แต่เชื่อว่าครั้งต่อไปจะได้ที่นั่งน้อยลงกว่าเดิมอีก

การเลือกตั้ง 2562 พรรคประชาธิปัตย์เสียที่นั่งในภาคใต้ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญไปมากกว่าครึ่งหนึ่งคือชนะ ส.ส.เขตเพียง 22 ที่นั่งจาก 50 ที่นั่ง ขณะที่พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.ไป 13 ที่นั่งพรรคภูมิใจไทยได้ ส.ส. 8 ที่นั่งและพรรคประชาชาติได้ ส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนไป 6 ที่นั่งส่วนอีก 1 เขตที่เหลือเป็นของพรรครวมพลังประชาชาติไทย

โพลนิด้าล่าสุดที่สำรวจคนนครศรีธรรมราชเป็นโพลที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงความคิดของคนนครศรีธรรมราชอย่างชัดเจน แม้ตัวบุคคลที่เป็นนายกรัฐมนตรีบุคคลที่ได้รับการสนับสนุนอันดับ 1 จะเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคนนครศรีธรรมราชจะเลือก ส.ส.เขตของพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นอันดับ 1 แต่ที่น่าประหลาดใจมากคือคนนครศรีบอกว่า พวกเขาจะเลือกบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยเป็นอันดับ 1

ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 นั้นพรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่ง ส.ส.ลงที่นครศรีธรรมราชเลย เข้าใจว่าน่าจะเปิดทางให้พรรคไทยรักษาชาติลงสมัคร แต่พรรคถูกยุบเสียก่อนแต่ก่อนการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถช่วงชิง ส.ส.ใต้ได้เลยและผู้สมัครของพรรคก็ได้คะแนนน้อยมาก

เป็นไปได้จริงๆ หรือที่นิด้าโพลบอกว่าคนนครศรีธรรมราชจะเลือกบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับ 1 ทั้งที่พรรคนี้ไม่เคยมีที่นั่ง ส.ส.เลยในนครศรีธรรมราชและคนนครศรีธรรมราชหันมานิยมพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร เป็นคำถามว่า นี่เป็นผลสำรวจที่ถูกต้องแท้จริงหรือ หรือว่าคนนครศรีธรรมราชแกล้งหลอกผ่านโพล

แต่เมื่อดูโพลอย่างละเอียดจะเห็นว่า เมื่อถามถึงบุคคลที่คนนครศรีธรรมราชจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้พบว่า

อันดับ 1 ประชาชน 29.08% ระบุว่าเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) อันดับ 2 ประชาชน 21.07% ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 3 ประชาชน 10.53% ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้อันดับ 4 ประชาชน 8.93% ระบุว่าเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) อันดับ 5 ประชาชน 7.33% ระบุว่าเป็นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์)

จะเห็นว่าคะแนนของอุ๊งอิ๊งจากพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับ 2 เหนือกว่านายจุรินทร์ จากพรรคประชาธิปัตย์ เจ้าถิ่นมาเป็นอันดับ 5 นายจุรินทร์ยังแพ้นายพิธาจากพรรคก้าวไกลด้วย

และเมื่อดู ส.ส.เขตที่คนนครศรีธรรมราชจะเลือก แม้พรรคประชาธิปัตย์จะมาเป็นอันดับ 1 แต่สูสีกันมากกับพรรคเพื่อไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติ

ผสสำรวจคนนครศรีธรรมราชมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตในวันนี้พบว่าอันดับ 1 ประชาชน 22.29% ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์อันดับ 2 ประชาชน 21.68% ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทยอันดับ 3 ประชาชน 21.22% ระบุว่าเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ

แต่เมื่อถามว่าคนนครศรีธรรมราชจะเลือกพรรคไหนเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยกลับมาอันดับ 1 แต่สูสีกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรครวมไทยสร้างชาติมาก อันดับ 1 ประชาชน 22.44% ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทยอันดับ 2 ประชาชน 21.68% ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์อันดับ 3 ประชาชน 20.69% ระบุว่าเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ

แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังมีคะแนนนำในการเลือกตั้ง ส.ส.เขต แต่ก็นำไม่ห่าง และสะท้อนว่า คนนครศรีธรรมราชมีทัศนคติต่อพรรคเพื่อไทยที่เปลี่ยนไปมาก ถ้าผลสำรวจนี้ถูกต้องแม่นยำไม่ถูกคนนครศรีธรรมราชแกง

ส่วนตัวผมยังไม่เชื่อนะครับว่าคนนครศรีธรรมราชจะเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับ 1 จริงๆ

ในการสำรวจของนิด้าโพลต่อคนใต้ทั้งภาคในเดือนตุลาคมปีที่แล้วก็มีผลที่น่าประหลาดใจ แม้คนใต้จะเลือกพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 23.94 แต่อันดับ 2 ร้อยละ 13.24 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธารอันดับ 3 ร้อยละ 12.79 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้อันดับ 4 ร้อยละ 11.24 ระบุว่าเป็นนายพิธาอันดับ 5 ร้อยละ 6.14 ระบุว่าเป็นพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส และอันดับ 6 ร้อยละ 5.95 ระบุว่าเป็นนายจุรินทร์

จะเห็นว่า นายจุรินทร์แม้จะขายความเป็นคนใต้ และขายพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นพรรคของคนใต้ แต่คะแนนส่วนตัวของคนใต้มีความนิยมในตัวนายจุรินทร์น้อยมากๆ ตามหลังอุ๊งอิ๊งจากพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำไป

พรรคประชาธิปัตย์ต้องยอมรับว่า นายจุรินทร์นั้นไม่มีจุดขาย เพราะแม้แต่คนใต้ก็ยังไม่ให้ความนิยม การเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะเป็นบทสุดท้ายที่จะพิสูจน์บทบาทของนายจุรินทร์ แต่หลังจากนี้พรรคประชาธิปัตย์จะทำอย่างไรให้คนใต้กลับมานิยมพรรคประชาธิปัตย์ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะวันนี้ความผูกพันของคนใต้กับพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเหลืออยู่แล้ว ขนาดนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ต้นตำรับคนใต้ขนานแท้ก็ยังทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ไปอย่างไม่มีเยื่อใยเลย

ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้คนภาคใต้เปลี่ยนแปลงไป ก็น่าจะมาจากการที่คนใต้จำนวนไม่น้อยพูดว่า แม้จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด แต่มองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงภาคใต้ไปในแนวทางที่ดีขึ้นเลย ถนนหนทางไปสู่ภาคใต้น่าจะเป็นถนนที่แย่ที่สุด แม้ว่าวันนี้จะเปลี่ยนแปลงไปบ้างแต่ก็ไม่ได้เกิดจากยุคสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์มีอำนาจ

ตอนที่นายชวน หลีกภัย กล่าวว่าสมัยที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีคมนาคม นอกจากไม่ทำถนนให้แล้วยังไม่ซ่อมถนนให้ด้วยก็มีคนถามว่า แล้วสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลทำไมไม่ทำ

สมัยก่อนคนภาคใต้ชมชอบนักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์เพราะส่วนใหญ่เป็นขุนพลที่มีฝีปากกล้า แต่ความชอบนักการเมืองของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไปแล้ววันนี้พรรคประชาธิปัตย์ขายฝีปากไม่ได้แล้วทุกพรรคก็มีขุนพลที่มีฝีปากคมเข้มเหมือนกัน แต่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องคิดนโยบายและลงมือทำให้เห็นผลสำเร็จด้วย

ผมกำลังหวาดหวั่นแทนพรรคประชาธิปัตย์นะครับว่า ถ้าคนภาคใต้เลือกตั้งในเชิงยุทธศาสตร์แบบที่คนกรุงเทพฯ เคยทำในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 คือทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ไปเพื่อสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ ด้วยการลงคะแนนให้พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์จะมีชะตากรรมที่น่าวิตกอย่างยิ่ง หากได้ ส.ส.ภาคใต้น้อยกว่าที่คาด เพราะ ส.ส.ภาคอื่นของพรรคประชาธิปัตย์ก็ทิ้งพรรคไปจนเกือบหมดแล้ว

ผมเขียนถึงพรรคประชาธิปัตย์หลายครั้ง โดยไม่ได้มีอคติอะไรกับพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นจริงของพรรคการเมืองนี้ และเสียดายที่พรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นพรรคของเหล่าปัญญาชนคนก้าวหน้าที่เคยมองพรรคการเมืองนี้ว่าเป็นพรรคการเมืองที่เป็นความหวังเมื่อเทียบกับพรรคการเมืองอื่น แต่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรที่แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นเลย หรือกระทั่งพูดได้ว่าหาความโดดเด่นหรือจุดขายที่จะไปสู้กับพรรคอื่นเขาไม่ได้เลย

ขอให้บทความนี้เป็นสารที่ส่งไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ แล้วกลายเป็นแรงบันดาลใจที่จะกู้วิกฤตของพรรคกลับคืนมาให้ได้

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan