งานเปิดตัว “ท่านห้าวเป้ง” ฉายาล่าสุดว่า “แปดเปื้อน” วันจันทร์ที่ 9 ตามราชาฤกษ์ น่าจะเป็นวันสำคัญในการรับบทบาททางการเมืองในการสานฝันจะอยู่ต่อในอำนาจ เป็นหัวหน้ารัฐบาลอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ถ้ามีโอกาสแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ
ก็ประเด็นอยากปลดล็อกให้บุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีได้นานกว่า 8 ปี
ถ้าท่านแปดเปื้อนชนะการเลือกตั้งในฐานะตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามกฎปัจจุบันจะอยู่ได้อีก 2 ปี รวมเป็น 10 ปีในทางปฏิบัติ แต่ตามหลักศรีธนญชัยศาสตร์ ท่านแปดเปื้อนยังอยู่ไม่ครบ 8 ปี มีปัญหาคนจำนวนหนึ่งนับเลขไม่เก่ง
งานเปิดตัวที่ศูนย์สิริกิติ์ อ้างว่าสามารถดึงดูดคนร่วมหมื่นมาจากทั่วสารทิศ ทั้งเห็บเหาธนาธิปไตย ขายตัวแลกเงินและตำแหน่ง แม่ยกกองเชียร์ พวกหวังจะได้ผลประโยชน์ นักเลือกตั้งย้ายพรรค ไม่ต้องคำนึงถึงยางอายระดับใดทั้งนั้น
ท่านแปดเปื้อนอุตส่าห์ลางานหลวงครึ่งวันเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานส่วนตัว เลี่ยงปัญหาการเดินทาง จราจรติดขัด เมื่อไม่มีโอกาสได้ใช้ของหลวง
เสนาบดีใหม่หมาดก็ลางานครึ่งวันเช่นกัน ทิ้งงานหลวงเพื่อตัวเอง ก่อนหน้านั้นท่านแปดเปื้อนก็ได้ตั้งบริวารเดิมหวนคืนสู่ตำแหน่งในทำเนียบฯ กินเงินเดือนหลวง ทั้งที่ทำงานให้พรรค ก่อนหน้านี้ก็ได้ตั้งคนของพรรคมากินเงินเดือนหลวงเช่นกัน
ยังตั้งคนของพรรคอีก 2 คนเป็นที่ปรึกษา ให้กินเงินเดือนหลวง สร้างภาระกินเงินภาษีของประชาชน งบประมาณแผ่นดิน เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ทั้งๆ ที่รู้ว่าตำแหน่งที่ปรึกษาอย่างนี้เคยถูกเปรียบเทียบในอดีตว่าเป็น “ตำแหน่งเทกระโถน”
คุณภาพ และประเภทของ “ที่ปรึกษา” ย่อมสะท้อนตัวตน สติปัญญา ความน่าเชื่อถือของผู้แต่งตั้งด้วยเช่นกันว่าเป็นรูปแบบของ “Crony politics” ของแท้
มีการเมืองด้อยพัฒนาสุดโต่งเท่านั้นที่ทำอย่างนี้ ก็ไม่น่าประหลาดใจ ในยุคท่านแปดเปื้อนไม่เคยมีงานปฏิรูปอะไรทั้งนั้น ห่วงแต่เรื่องให้ตัวเองอยู่ในอำนาจ มีข้อครหาเรื่องการเล่นพรรคเล่นพวก อวยกลุ่มทุนใหญ่ที่สนับสนุนทางการเงิน
ทั้งที่จะมีการยุบสภาฯ ไม่นาน ก็ยังหาเรื่องสิ้นเปลืองงบประมาณ ความลำบากในสภาวะของ “รัฐบาลถังแตก” ไม่ได้กระเทือนถึงต่อมจิตสำนึกแต่อย่างใด
เป็นพฤติกรรมน่ารังเกียจ ความอุจาดทางการเมือง ไร้เกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี แต่นั่นเป็นธรรมชาติของการเมืองที่ไม่ต้องคำนึงถึงความเป็นผู้มีอารยธรรม จิตสำนึกสูง
“ลุงป้อม” ย่อมหายใจโล่งอก ไม่ต้องเสนอคนเดิมให้เป็นคู่ชิงนายกฯ อีกต่อไป แม้ตัวเองจะสูญเสียคนในพรรค ก็ต้องถือว่าเป็นเห็บเหากระโดดหาเหยื่ออ้วนตัวใหม่
การแจกเก้าอี้ที่ปรึกษา “cronies” เป็นสมุนบริวารการเมือง ถือว่าเป็น “ประยุทธศาสตร์” ในการบริหารราชการแผ่นดินแบบไร้เทียมทาน เป็นความกล้าหาญของใบหน้า แต่ก็ไม่ใช่ของแปลกใหม่ เคยเป็นรูปแบบนิยมมาก่อนในการเมืองยุคดั้งเดิม
ในยุคการเมืองไร้ยางอาย ใครย่อมทำอะไรก็ได้ ถ้าหน้าด้านเกินพอ
ท่านแปดเปื้อนจะสังกัดพรรคใหม่ โดยไม่ยอมทิ้งเก้าอี้นายกฯ ที่มาจากการแต่งตั้งเป็นตัวแทนเข้าชิงตำแหน่งโดยพรรคลุงป้อม ซึ่งมีลูกพรรคตีจากไปสังกัดพรรคขี้ใหม่หมาหอมกว่า 20 ราย และไปร่วมงานใหญ่ เปิดตัวท่านแปดเปื้อนเช่นกัน
เสนาบดีแรงงานก็ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.และสมาชิกพรรคลุงป้อม แต่ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีจากโควตาพรรคลุงป้อม ถือว่าเป็นความกล้าหาญของใบหน้าระดับหนึ่ง ไม่ต่างจากสถานภาพของท่านแปดเปื้อน
การเมืองที่เอาแต่ได้ ไร้จิตสำนึก คุณธรรม จริยธรรม หิริโอตตัปปะ จึงเป็นสภาวะน้ำเน่าถาวร ไม่มีทางใดจะฟอกหรือบำบัดให้สู่สภาพยอมรับได้
ดังนั้น ไม่ว่านักเลือกตั้งหน้าไหนจะเข้ามาร่วมแบ่งอำนาจหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า บ้านเมืองจะไม่มีวันดีขึ้น ประชาชนจะต้องอยู่กับความเลวร้ายของการทุจริต คอร์รัปชัน การเอื้ออวยผลประโยชน์กับกลุ่มทุนใหญ่ กระบวนการยุติธรรมตกต่ำ
ท่านแปดเปื้อนยังไม่อิ่มในอำนาจการเมือง ถูกมองว่าเสพติดงอมแงม ถอนตัวไม่ขึ้น ยังอยากอยู่ต่อบนหลังเสือ คาดหวังสูงว่าพรรคใหม่จะสามารถได้ ส.ส.มากพอที่จะเสนอชื่อตัวเองให้เป็นคู่ชิงนายกฯ ได้อีกรอบ เป็นความฝันกลางแดด
จะมีสิทธิเสนอชื่อได้ ก็ต้องมีอย่างน้อย 25 เสียง ขณะนี้ยังไม่มีแม้แต่คนเดียว และไม่มีสัญญาณอะไรที่จะชี้ว่าจะได้มาก อย่างที่หวังคือ 40 เสียง แม้กระนั้นก็จะยังไม่มาอันดับ 1 เพียงแต่ฝันว่าตัวเองเป็นจุดแข็ง จุดขาย พรรคอื่นต้องยอมรับ
หลังจากกว่า 8 ปี บ้านเมืองมีแต่กองหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะ ความเป็นรัฐล้มเหลวเพราะการทุจริต คอร์รัปชัน กระบวนการยุติธรรม ระบบนิติรัฐ นิติธรรมไม่มีความน่าเชื่อถือ คดีความต่างๆ ถูกระบบพิสดารเส้นสายและเงิน บีบให้เบี้ยวบิด
ท่านแปดเปื้อนเป็นผู้ก่อหนี้เพื่ออุดรูรั่วงบประมาณมาโดยตลอด งบปี 2566 ก็จะต้องกู้อีกเกือบ 6 แสนล้านบาท ไม่มีโอกาสจะได้สร้างงบประมาณให้สมดุล
คำประกาศอาสาขออยู่ต่อเพื่อสานภารกิจให้เสร็จนั้นน่าหัวร่อ เพราะจะเป็นการแก้ไขปัญหาและวิกฤตที่ตัวเองเป็นผู้สร้างทั้งนั้น จำนวนคนยากจนเพิ่มจาก 14 ล้านเป็น 22 ล้านคนถือว่าเป็นความสามารถได้ไม่ธรรมดา อยู่ไปมีแต่คนยากจนลง
การชุมนุมเปิดตัวแสดงวิสัยทัศน์ น่าสงสัยว่าจะมีอะไรใหม่ หรือมีคำพล่ามโวโอ้อวดอะไรที่เคยทำมา และชาวบ้านอยากรู้ว่าใครเป็นคนร่างคำปราศรัยสวยหรูให้
ชาวบ้านยังจำได้ว่ามีเพลง “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน” จากนี้จะมีเพลงอะไรมาปั่นหัว เป่าหู กลุ่มติ่งบ้องตื้น อีกหรือไม่ ต้องรอดู เงี่ยหูฟัง