xs
xsm
sm
md
lg

แคนาดาห้ามต่างชาติซื้ออสังหาฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 รัฐบาลแคนาดาได้เริ่มใช้กฎหมายห้ามต่างชาติซื้ออสังหาฯ ที่อยู่อาศัย เพราะราคาที่อยู่อาศัยได้ทะยานขึ้นสูงมากจนเป็นอุปสรรคต่อพลเมืองแคนาดาส่วนใหญ่ที่ไม่สามารถไขว่คว้าหาบ้านเป็นของตนเองได้

นายกฯ จัสติน ทรูโด ได้เปิดนโยบายหาเสียงก่อนการเลือกตั้งล่าสุด เมื่อกันยายน 2564 ว่า พลเมืองแคนาดาจะต้องมีบ้านที่อยู่อาศัย; โดยนักเก็งกำไร, บริษัทยักษ์ใหญ่ และนักลงทุนต่างชาติ ต่างเข้ามาหาประโยชน์จากการลงทุนซื้ออสังหาฯ ที่อยู่อาศัยในแคนาดา ซึ่งได้ดันราคาของที่อยู่อาศัยจนสูงสุดเอื้อมสำหรับคนแคนาดา; ปัญหาคือ บ้านพักอาศัยกลายเป็นมีผู้ลงทุนซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่ไม่ได้ใช้ในการอยู่อาศัยจริง เขาบอกว่า บ้านมีไว้อยู่อาศัยจริงๆ ไม่ใช่เป็นสินค้าเพื่อการลงทุนเท่านั้น

ฤดูร้อนปี 2565 ราคาบ้านเฉลี่ยที่แคนาดาประมาณ 5 แสน 7 หมื่นดอลลาร์ (ประมาณ 20 ล้านบาท) เป็นราคาที่สูงกว่ารายได้ครัวเรือนถึง 11 เท่า!

รมต.การเคหะ นายอาเหม็ด ฮัสเซน บอกว่า จำเป็นต้องห้ามต่างชาติเข้ามาซื้อบ้าน เพราะพวกเขาซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรเท่านั้น ไม่ใช่ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยและสร้างครอบครัว

เพราะรัฐบาลนี้ต้องการให้แน่ใจว่า บ้านที่อยู่อาศัยจะเป็นสมบัติของชาวแคนาดาเท่านั้น สำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินของแคนาดาเท่านั้น

ราคาบ้านเมื่อปี พ.ศ. 2556 เทียบกับราคาเมื่อปี 2565 (9 ปีเต็ม) ได้ถีบตัวสูงขึ้นถึง 48%...ขณะที่รายได้ครัวเรือนโตขึ้นแค่ 9.8% (จาก 2558-2563) ใน 5 ปี

ทำให้แคนาดามีตลาดที่อยู่อาศัยที่สูงเกินเอื้อมมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง นั่นคือ เมื่อเทียบอัตราส่วนระหว่างรายได้กับราคาบ้าน...โดยสูงกว่าที่สหรัฐฯ และอังกฤษ

ยิ่งราคาบ้านเฉลี่ยใน 2 เมืองใหญ่-คือ โตรอนโต และแวนคูเวอร์ จะแตะ 1 ล้านดอลลาร์ (แคนาดา) หรือประมาณ 33 ล้านบาท...และทำให้ 2 เมืองนี้อยู่ในท็อปเทนใน 10 เมืองของโลกที่ราคาบ้านสูงกว่ารายได้มาก

กฎห้ามต่างชาติซื้ออสังหาฯ ที่แคนาดานี้จะมีอายุ 2 ปี; ก่อนที่จะกลับมาเปิดให้ซื้อขายได้ตามปกติ

ด้านสมาคมอสังหาริมทรัพย์แห่งแคนาดา ได้ออกมาโวยวายคัดค้านเต็มที่ แต่กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย

สมาคมอสังหาฯ ได้พยายามอธิบายว่า จำนวนคนต่างชาติที่เข้ามากว้านซื้อที่อยู่อาศัยในแคนาดานี้ มีจำนวนแค่ 1-2% ของการซื้อขายอสังหาฯ ทั้งหมด ดังนั้น การห้ามไม่ให้ต่างชาติเข้ามาซื้อขายจึงไม่ตอบโจทย์ว่า จะทำให้คนแคนาดามีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง (แทนที่จะได้แค่เป็นผู้เช่าบ้านอยู่ เพราะรายได้ไม่พอเป็นเจ้าของบ้านที่อยู่เสียเอง)

สมาคมอสังหาฯ แนะว่า ต้องสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมให้มีจำนวนพอเพียงกับความต้องการของตลาดต่างหาก ไม่ใช่ปล่อยให้ตลาดอสังหาฯ ร้อนฉ่าดัง 2-3 ปีที่ผ่านมา

นี่ขนาดดอกเบี้ยที่แคนาดาเริ่มทะยานสูงขึ้นในปีนี้ และทำให้ความร้อนแรงของตลาดบ้านได้ลดลงไปบ้าง แต่ก็ยังจัดว่ายังร้อนแรงอยู่ดี

สำหรับนายกฯ หนุ่มทรูโด วัย 51 ปีได้เข้ามาเป็นนายกฯ หลายสมัย และยังมีคะแนนนิยมดีขึ้นถึง 5% จากช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ที่เขาเผชิญหน้ากับคนขับรถบรรทุกที่นัดหยุดงาน

ตอนนี้คะแนนนิยมเขาอยู่ที่ 43% ก็ถือว่าไม่ต่ำนัก เพราะคู่แข่งจากฝ่ายค้านได้ต่ำกว่าเขาถึง 10%; ที่ 33% เท่านั้น

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์
เหตุการณ์คล้ายคลึงกันนี้ ได้เกิดขึ้นที่ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อปี 2561 โดยรัฐบาลของนายกฯ จาซินดา อาร์เดิร์น ได้ออกกฎหมายห้ามชาวต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยในนิวซีแลนด์ เพราะตลาดอสังหาฯ ได้เกิดอาการร้อนจี๋จากเงินต่างชาติ (โดยเฉพาะจากจีน) ที่ไหลเข้าไปซื้อบ้านที่นิวซีแลนด์ โดยส่วนใหญ่เป็นการเก็งกำไร และทำให้ราคาบ้านที่อยู่อาศัยสูงมากจนประชาชนโดยทั่วไปไม่สามารถมีรายได้สูงพอเข้าซื้อบ้านได้; วิศวกรบางคนแม้รายได้ค่อนข้างดีก็ยังไม่สามารถหาบ้านเป็นของตนเองได้ เพราะรายได้ไม่สูงพอ!

ประกอบกับนักศึกษา (จากจีนส่วนใหญ่) ที่มาเรียนที่นิวซีแลนด์ จะซื้อห้องพัก และดันราคาที่พักให้พุ่งสูงขึ้นมาก

และความที่นิวซีแลนด์มีอากาศที่ดี (ไม่มีมลพิษ) และมีสภาพแวดล้อมที่ดี ทำให้มีชาวต่างชาติ (โดยเฉพาะชาวจีน) ไปลงทุนซื้ออสังหาฯ จำนวนมากดันราคาบ้านสูงจนคนนิวซีแลนด์เอื้อมไม่ถึง

10 ปีที่ผ่านมา ราคาบ้านได้สูงขึ้น 60% โดยเฉพาะที่เมืองโอ๊คแลนด์

ย้อนกลับมาที่แคนาดา สมาคมผู้ประกอบการอสังหาฯ ได้ขู่รัฐบาลว่า จะถูกตอบโต้จากสหรัฐฯ และเม็กซิโก ซึ่งชาวแคนาดามักมีบ้านที่สองอยู่ที่ฟลอริดาหรือที่เม็กซิโก เพื่อไปหลบหนีความหนาวเหน็บช่วงฤดูหนาวไปหาดินแดนที่อบอุ่นกว่า ซึ่งจะทำให้คนแคนาดา (ที่ค่อนข้างมั่งคั่ง) จะไม่สามารถไปหาบ้านที่สองที่สหรัฐฯ และเม็กซิโกได้

แต่ทั้งรัฐบาลแคนาดาและนิวซีแลนด์กลับใจแข็ง และมองเห็นความต้องการมีบ้านของประชาชนเจ้าของประเทศ ต้องมาก่อนนักเก็งกำไร ที่นำเงินมาซื้อบ้านก็เพียงดันราคาให้สูงขึ้น แล้วก็ขายเอากำไรอย่างที่ประเทศไทยกำลังคิดจะเปิดให้ต่างชาติมาลงทุนซื้อแผ่นดินไทยขณะนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น