ท่ามกลางบรรยากาศ “ปีใหม่-ฟ้าใหม่”เช่นนี้...เปิดฉากสัปดาห์นี้คงต้องเริ่มต้นด้วยการหันไปมอง “ป่าทั้งป่า”หรือมองความเป็นไปของโลกทั้งโลกในภาพรวม น่าจะเหมาะกว่าการพลิกใบไม้ในแต่ละใบ ที่รังแต่จะทำให้เกิดความสับสนมึนซ์ซ์ซ์งงง์ง์ง์ คิดไม่ออก-บอกไม่ถูก แยกผิด-แยกถูก หรือกระทั่งแยกดี-แยกชั่ว แทบไม่ได้เอาเลย!!! โดยเฉพาะในช่วงจังหวะที่บรรดา “สื่อตะวันตก”หรือสื่อกระแสหลักของโลกทุกวันนี้ ชักออกอาการเฟกนิวส์ หรือฟักนิวส์ ยิ่งเข้าไปทุกที...
คือว่าไปแล้ว...สิ่งที่ไม่ต่างอะไรไปจาก “ทางแยก”หรือ “ทางเลือก” ของโลกทั้งโลกในระหว่างนี้ ก็คือการคิดที่จะเดินหน้าไปสู่ “สันติภาพ”หรือ “สงคราม”นั่นแหละทั่น!!! คิดที่จะค้าๆ-ขายๆ คิดหาทางอยู่ร่วมกันโดยสันติต่อไปให้จงได้ หรือคิดจะแก้ไขความผิดแผกแตกต่างระหว่าง “มัน-กับ-เรา”หรือ “มึง-กับ-กู”ด้วยการอาศัยสงครามเป็นตัวชี้วัดตัดสิน แบบที่บรรดาโลกตะวันตก หรือโลกที่มีคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรยุโรปเป็นตัวชักนำ ขับเคลื่อนและนำพา โลกทั้งโลกมาโดยตลอดนับเป็นศตวรรษๆ จนสุดท้าย...หนีไม่พ้นต้องอาศัยสงครามเป็นเครื่องชี้ขาด วนไป-วนมาอย่างมิมีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเย็น สงครามกับการก่อการร้าย จนกระทั่งสงครามระหว่างพวก “ประชาธิปไตย”กับพวก “อำนาจนิยม” ที่มีมหาอำนาจสูงสุดอย่างอเมริกาเป็นผู้นำ กับมหาอำนาจคู่แข่งอย่างจีนและรัสเซียที่หาญกล้าลุกขึ้นมาท้าทาย...
และถ้าว่าโดยรวมๆ โดยถึงที่สุด หรือโดย “ป่าทั้งป่า” แล้ว...บรรดาชาติต่างๆ ประเทศต่างๆ ในโลกใบนี้ ต่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ไม่อยากจะรบรา ฆ่าฟันกันต่อไปอีกแล้ว อยากจะทำมา-ค้าขาย อยากจะมี “สันติภาพ” มากกว่าคิดจะอาศัย “สงคราม”เป็นทางออก ทางไป ด้วยกันทั้งสิ้น เห็นได้จากการ “ระดมพันธมิตร”ของแต่ละฝ่าย ที่ทำให้แม้แต่ประมุขโลกอย่างคุณพ่ออเมริกา ซึ่งเคยมีบทบาท อิทธิพล ครอบงำโลกทั้งโลกจนแทบกลายเป็นโลกของอเมริกา หรือ “โลกตะวันตก” มานานนับศตวรรษๆ แทบไม่ประสบความสำเร็จมากมายสักเท่าไหร่ ในการโน้มน้าว เกลี้ยกล่อม หรือ “กดดัน”ให้แต่ละชาติ แต่ละซีกโลก หันมา “เห็นควรด้วย” กับการชี้แนะ ชี้นำ กับแนวทางของอเมริกา เพราะต่างไม่มีใคร “อยากด้วน” ไปด้วยกันทั้งสิ้น!!! แม้จะเพียรพยายามนำเอาความสูงส่ง วิเศษวิเสโส ของสิ่งที่เรียกว่า “ประชาธิปไตยเสรีนิยม” มาเทียบเคียงกับ “อำนาจนิยม” ในแบบไหน อย่างไร ก็แล้วแต่...
การปฏิเสธที่จะเข้าไปมีส่วนร่วม หรือเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง จึงอาจถือเป็นท่าทีที่ชัดเจนเอามากๆ ของบรรดาประชาคมโลกทั้งหลาย ไม่ว่าจะในภูมิภาคตะวันออกกลาง เอเชีย แอฟริกา ละตินอเมริกา ฯลฯ หรือแม้กระทั่ง “อาเซียน”อันมีประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาถือเป็นส่วนหนึ่งและส่วนสำคัญอีกด้วย ไม่ว่าการระดมความเป็นพันธมิตรภายใต้ยุทธศาสตร์ “อินโด-แปซิฟิก” “AUKUS”ฯลฯ หรือในรูปใด รูปหนึ่ง ก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่อาจทำให้โลกทั้งโลกถูกตัดแบ่งออกเป็น 2 ซีก 2 ฝ่ายได้เหมือนเดิม ไม่สามารถปลุกกระแส ไม่สามารถพลิกฟื้นให้ทุกสิ่งทุกอย่างหวนกลับไปสู่ยุคเดิมๆ หรือยุคที่เกิดการแบ่งโลกออกฝ่ายเป็น “โลกเสรี” กับ “โลกคอมมิวนิสต์”อีกต่อไปได้เลย...
ตรงกันข้าม!!!...กลับเกิดการเชื่อมโยง ผนึกแน่น เกิดการรวมตัวเป็นโลกใบเดียวกันอย่างเห็นได้โดยชัดเจน ชนิดแทบไม่ต้องดูอะไรอื่น เอาแค่การตัดสินใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนเดียวกัน ของบรรดาประชาชาติทั้งหลายกับ “อภิมหาโครงการเปลี่ยนโลก” หรือโครงการ “BRI”(Belt and Road Initiative) ของประเทศอำนาจนิยมอย่างคุณพี่จีน ที่มีบรรดาชาติต่างๆ ปาเข้าไปถึง 140 กว่าประเทศ หรือกว่าค่อนโลกเข้าไปแล้ว อย่างที่ “อาเฮีย สนธิ ลิ้มฯ”ท่านหยิบเอาข้อมูล ข้อเท็จจริง มาแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ในรายการ “สนธิทอล์ค”ช่วงปลายปีที่ผ่านมานั่นแล และนั่นเองที่อาจถือเป็นภาพ “ป่าทั้งป่า” หรือของโลกทั้งโลกโดยภาพรวม แม้ว่าบางประเทศอาจยังต้องหาทาง “เอาตัวรอด”จากแรงกดดันของมหาอำนาจสูงสุดไปตามมี-ตามเกิด หรือตามการถูกชัก ถูกลาก ให้ต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ในแบบไหน อย่างไร ก็ตามที...
และอันนี้นี่เอง...ที่ถือเป็น “ภาพสะท้อน”ให้เห็นถึงอาการหมดเรี่ยว-หมดแรง หมดกำลัง-วังชา ของผู้นำโลกอย่างคุณพ่ออเมริกาและบรรดาพันธมิตรตะวันตกตลอดช่วงนับศตวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะในทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือแม้แต่ “ค่านิยม” ทางสังคมในลักษณะต่างๆ เช่น วัฒนธรรม-ประเพณี อันเป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของแต่ละชาติ หรือสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะดิ้นรนเป็น “อิสระ”ไปจากอิทธิพลแห่งการครอบงำในแต่ละด้าน แม้ว่าภายใต้ความต้องการที่จะเป็นอิสระดังกล่าวอาจยังไม่ถึงกับถูกสร้างสรรค์ ถูกยกระดับ จนนำไปสู่แนวคิดใหม่ๆ ได้อย่างเป็นเรื่อง เป็นราวหรือจนกลายเป็น “ระบบ” และ “ระเบียบโลก” แบบใหม่ก็แล้วแต่ แต่อย่างน้อย...ย่อมถือเป็นตัวสะท้อนให้เห็นความปรารถนาความต้องการที่จะเดินไปในแนว “สันติภาพ”มากกว่าการหวนกลับไปสู่ “สงคราม” อันสุดแสนจะซ้ำๆ ซากๆ อยู่แล้วแน่ๆ...
ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้ความเป็นไปของโลกในอนาคตเบื้องหน้า ไม่ว่าโดยกาลเวลา โดยเงื่อนไข-เหตุปัจจัยใดๆ ก็แล้วแต่ ย่อมนำมาซึ่ง “ความเปลี่ยนแปลง”ไปจากแนวทางเดิมๆ อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้เลย ความโดดเดี่ยว โฮมอโลนของคุณพ่ออเมริกาและบรรดาพันธมิตรตะวันตกที่กลายสภาพเป็น “พรมเช็ดเท้า” ให้กับประมุขโลก นับวันมีแต่จะเสื่อมสลาย มีแต่จะลดบทบาท อิทธิพลลงไปเรื่อยๆ หรือต้องกลายไปเป็น “จักรวรรดิที่กำลังอ่อนแอ” อย่างที่พระสันตะปาปา “ฟรานซิส” ท่านได้อรรถาธิบายเอาไว้ เผลอๆ...อาจถึงขั้น “ล่มสลาย”ไปเป็นประเทศๆ เอาเลยก็ไม่แน่!!! โดยที่บรรดาความเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย...ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อบรรดาชาติต่างๆ ในโลกใบนี้มากบ้าง-น้อยบ้างไปตามสภาพ หรือย่อมทำให้การเดินไปตามแนวทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมในแบบเดิมๆ เกิดการหมุนเวียน-เปลี่ยนผัน ไปสู่ความริเริ่มและการสร้างสรรค์ใหม่ๆ ไปตามลักษณะพิเศษ ลักษณะเฉพาะ ตามแบบฉบับของใครก็ของมันนั่นเอง...
“การเมือง” แบบที่ไม่ใช่ตะวันตก หรือไม่เป็นไปตาม “มาตรฐานตะวันตก” จะเป็นสิ่งที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน พลเมือง ในแต่ละประเทศได้มาก-น้อยขนาดไหน? “เศรษฐกิจ”ที่อาจต้องเปลี่ยน “ระบบ” หรือ “ระเบียบ” ให้ผิดแผกแตกต่างไปจากเดิม จะส่งผลให้ “บ่อนกาสิโน”ซึ่งเคยถูกจัดตั้งขึ้นมาในแต่ละซีกโลก หรือแต่ละ “ตลาด”ต้องปรับตัว ปรับสภาพ ไปเป็นแบบไหน? อย่างไร? ก็ยากที่จะสรุปได้ชัดเจน ณ ช่วงขณะนี้ ไม่ต่างไปจาก “ค่านิยมทางสังคม”ที่พยายามปรับเปลี่ยนพลโลกทั้งมวลให้กลายสภาพเป็น “ผู้บริโภคสากล” ให้จงได้ จะต้องเผชิญกับเอกลักษณ์-อัตลักษณ์ของแต่ละชาติจนกลายไปเป็นความแปลกแยก ภายในสังคมแต่ละสังคม แต่ละชาติแต่ละประเทศมาก-น้อยเพียงใด? อันนี้...ก็ยังถือเป็น “คำถาม” ที่แต่ละสังคมต้องหาทางใคร่ครวญพิจารณากันเอาเอง โดยเฉพาะระหว่าง “คนรุ่นเก่า”กับ “คนรุ่นใหม่”ที่เติบโตขึ้นมาภายใต้สภาพแวดล้อมคนละแบบ คนละประเภท ฯลฯ...
สรุปรวมความแล้ว...ต้องถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในระดับ “ลอกคราบ”ครั้งใหญ่เอาเลยก็ว่าได้ อันเป็นสิ่งสำคัญเอามากๆ ต่อสังคมแต่ละสังคม ต่อบรรดาประเทศต่างๆ โลกใบนี้ ยิ่งกว่าการหันไปถือหาง หันไปเชียร์ ให้ใครชนะ-ใครแพ้ ระหว่างประมุขโลกอย่างคุณพ่ออเมริกา หรือมหาอำนาจคู่แข่งอย่างจีนและรัสเซีย ที่ยังไงๆ...คงต้อง “เจ๊ง”กันไปข้าง!!! ถ้าหากต่างฝ่ายต่างยังหา “จุดลงตัว”กันไม่เจอ หรือพูดง่ายๆ ว่า...นับจากช่วงปีใหม่-ฟ้าใหม่ นับแต่นี้ การหันมาให้ความสนใจต่อการหา “คำตอบ” ให้ประเทศตัวเอง สังคมของตัวเอง ว่าจะเผชิญหน้ากับ “ความเปลี่ยนแปลง”ที่กำลังมาถึงในอีกไม่ใกล้-ไม่ไกลกันในแบบไหน? อย่างไร? อะไรที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพความเป็นไปของตัวเอง อะไรที่จะช่วยให้เกิดความเป็นอิสระ ไปจากการ “ครอบงำ”ใดๆ ก็ตาม จะมีโอกาสเป็นไปได้มาก-น้อยเพียงใด อันนี้นี่แหละ...ที่บรรดา “ทวยไทย” ทั้งหลายพึงต้องหาคำตอบเอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ อย่ามัวแต่ไปมั่วอยู่กับ “3 ลุง-3 ป.” หรือกับคุณพี่ “โทนี-โทนาฟ” ที่ล้วนแล้วแต่ไม่ได้ “ประเทืองปัญญา” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งพวง...