สหรัฐอเมริกา ยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถือว่าชะตาตกสุดๆ เป็นตัวตั้งตัวตีในมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยมีอังกฤษ แคนาดา และยุโรปทำตัวเหมือนเป็นลูกไล่ เล็งผลเลิศเต็มที่ หวังจะให้รัสเซียล่มหลังจากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
ก่อนหน้ารัสเซียบุก โจ ไบเดน รวมทั้งเลขาธิการนาโต นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก และนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการประชาคมยุโรป ขู่แล้วขู่อีกว่ารัสเซียจะเผชิญผลพวงจากมาตรการตอบโต้รุนแรงที่ไม่เคยโดนมาก่อน
ฝ่ายพันธมิตรรวมกันแล้วประมาณ 40 ประเทศ รวมหัวกันคว่ำบาตรรัสเซีย 8 ครั้ง แต่รัสเซียไม่เดี้ยง แถมยังใช้มาตรการตอบโต้ ทำให้สหรัฐฯ และยุโรปลำบากอย่างหนัก เกิดปัญหาเงินเฟ้อจากพลังงานราคาแพง ค่าครองชีพสูง ดอกเบี้ยสูง
คนอเมริกันเดือดร้อนกันทั่ว คนยุโรปกำลังลำบากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะวิกฤตขาดแคลนพลังงาน คนอังกฤษต้องอดมื้อกินมื้อ พึ่งองค์กรการกุศลเพื่อความอยู่รอด คนยุโรปในหลายประเทศเดินขบวนเรียกร้องให้รัฐบาลเลิกยุ่งกับยูเครน
สหรัฐฯ ซึ่งเป็นหัวโจกมาตรการคว่ำบาตร ไม่สามารถช่วยเหลือยุโรปได้ โจ ไบเดนไม่สามารถสั่งให้บริษัทน้ำมันในประเทศเพิ่มผลผลิต เพราะได้กำไรงามจากวิกฤต
โจ ไบเดน โทรศัพท์ไปหาเจ้าชายมกุฎราชกุมารซาอุฯ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แต่ไม่รับสาย ต้องลงทุนบินไปซาอุฯ ขอให้ซาอุฯ นำกลุ่มโอเปกเพิ่มการผลิตน้ำมัน แต่ถูกปฏิเสธ โดนซาอุฯ นำโอเปกให้ลดการผลิตวันละ 2 ล้านบาร์เรลเริ่มวันที่ 1 เดือนนี้
ไบเดนสิ้นท่า ต้องสั่งปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองยุทธศาสตร์ 15 ล้านบาร์เรลหวังกดราคาน้ำมันในประเทศให้ลด แต่ไม่สำเร็จ เพราะปริมาณแค่นั้นพอใช้แค่ 1 วัน
ทุกวันนี้สหรัฐฯ ต้องคงกำลังทหารไว้ 900 นายอยู่ในภาคเหนือของซีเรีย ช่วยเหลือพวกกบฏต่อต้านรัฐบาล และสูบน้ำมันจากพื้นที่ เอาไปส่งสหรัฐฯ การอยู่ในซีเรียไม่ได้รับเชิญจากเจ้าของประเทศ อ้างว่าอยู่เพื่อปราบกลุ่มก่อการร้ายไอซิส
ทุกวันนี้ไอซิสแทบไม่เหลือหลังจากโดนกองทัพอากาศรัสเซียในซีเรียโจมตีจนสิ้นสภาพ แต่สหรัฐฯ ก็ไม่ยอมถอนกำลังออก ใช้อำนาจปล้นน้ำมันจากซีเรียทุกวัน โดยมีรถบรรทุกน้ำมันหลายร้อยคันที่ยึดมาจากกลุ่มต่างๆ ใช้ขนน้ำมันผ่านอิรักไปสหรัฐฯ
สหรัฐฯ ไม่แยแสต่อข้อกล่าวหาว่า “ปล้นทรัพย์แผ่นดินของซีเรีย”
ล่าสุด กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกใบอนุญาตให้บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่เชฟรอน เข้าไปขุดเจาะสูบน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา อ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างรัฐบาลเวเนซุเอลาและฝ่ายค้าน หลังจากสหรัฐฯ คว่ำบาตรประเทศนี้นาน 15 ปี
คำสั่งของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ห้ามไม่ให้เงินทุกดอลลาร์จากการผลิตน้ำมันเป็นผลประโยชน์ต่อรัฐบาลเวเนซุเอลา เงินก้อนนั้นต้องใช้คืนหนี้ที่ติดค้างอยู่ในการร่วมทุนด้านการผลิตพลังงานของเวเนซุเอลา น้ำมันทุกหยดต้องส่งเข้าสหรัฐฯ เท่านั้น
คำสั่งกำหนดอีกว่าเชฟรอนไม่ต้องจ่ายภาษีและค่าภาคหลวงให้รัฐบาลเวเนซุเอลา เท่ากับว่าสหรัฐฯ มีแต่ได้กับได้ โดยให้บริษัทของสหรัฐฯ เข้าไปสูบน้ำมัน
เป็นการล้างหนี้ให้เชฟรอน และสหรัฐฯ ผ่อนเบาปัญหาการขาดแคลนน้ำมัน
คำสั่งยังบอกอีกว่าดอกผลทุกอย่างจากเงินปันผลหรือผลประโยชน์อื่นใด ต้องไม่ตกถึงมือรัฐบาลเวเนซุเอลาซึ่งมีเงินถูกอายัดโดยธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ จะถูกบริหารโดยสหประชาชาติเพื่อแก้ปัญหาประชาชนเวเนซุเอลา
กำหนดการใช้เงินเพื่อการศึกษา สุขอนามัย และอาหารเพื่อประชาชน รัฐบาลไม่ได้แตะเงิน ทำได้แค่มองตาปริบๆ ให้สหรัฐฯ สูบเอาน้ำมันไปแก้ปัญหาของตัวเอง
ว่ากันง่ายๆ สหรัฐฯ ต้องการน้ำมันจากเวเนซุเอลา ซึ่งมีแหล่งน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก มีก๊าซธรรมชาติมหาศาล ที่ผ่านมาโดนมาตรการคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ และยุโรปซึ่งหนุนฝ่ายค้าน นายฮวน กวยโด ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ประชาชนอดอยาก
ชาวเวเนซุเอลาต้องอพยพหนีความอดอยากไปนอกประเทศกว่า 2 ล้านคน วิกฤตเศรษฐกิจทำให้ค่าเงินตก ไม่สามารถส่งออกน้ำมันหารายได้ตามปกติ
รัฐบาลเวเนซุเอลานำโดยนายพล นิโคลัส มาดูโร ยอมในข้อตกลงนี้ แต่สหรัฐฯ ประกาศว่าเงื่อนไขการผลิตน้ำมันโดยเชฟรอน ไม่มีผลในการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร และเชฟรอนจะสามารถสูบเอาน้ำมันดิบไปให้สหรัฐฯ โดยไม่มีการจำกัดเวลา
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าในยุคของผู้นำทำเนียบขาว โดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ อาจส่งทหารเข้าไปในเวเนซุเอลา หรือสนับสนุนให้มีการรัฐประหาร แต่ถูกรัสเซียและจีนขวาง รัฐบาลมาดูโรได้รับการสนับสนุนจากหลายประเทศทั่วโลก และกลุ่มละตินอเมริกา
ที่ผ่านมาเวเนซุเอลาได้ส่งออกน้ำมันผ่านเรือบรรทุกน้ำมันซึ่งไปขนถ่ายจากเรือสู่เรือไปยังประเทศต่างๆ โดยไม่มีการระบุว่าเป็นต้นทางจากประเทศผู้ผลิต ปัจจุบันวิธีการนี้ก็ใช้โดยอิหร่านและรัสเซียในการส่งออกน้ำมัน เลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร
ทั่วโลกที่ต้องการพลังงานทำให้มาตรการคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ และยุโรปล้มเหลว
แม้แต่อังกฤษและยุโรปบางประเทศก็ยังซื้อน้ำมันจากรัสเซีย โดยการขนถ่ายกลางทะเลและท่าเรือในยุโรป โดยไม่แจ้งชื่อประเทศแหล่งผลิตแท้จริง
สหรัฐฯ และยุโรปจะยังไม่ยอมรับรัฐบาลมาดูโร ยังรับรองนายฮวน กวยโด ว่าเป็นผู้นำประเทศ ทั้งๆ ที่อำนาจอยู่ในมือของมาดูโร สะท้อนให้เห็นการคงอยู่ของระบบการล่าเมืองขึ้นเพื่อปล้นทรัพย์สินจากประเทศที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
รอดูว่าน้ำมันจากซีเรียและเวเนซุเอลาจะช่วย โจ ไบเดนและสหรัฐฯ ได้แค่ไหน