น่าเสียดายขณะที่เขียนเรื่องนี้ ผลการเลือกตั้งของ ส.ส., ส.ว. และผู้ว่าการรัฐในสหรัฐอเมริกายังไม่ปรากฏผลอย่างเป็นทางการ แต่พอจะคาดเดาได้พอสมควรว่าพรรครีพับลิกันชนะเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
ผลการเลือกตั้งในวุฒิสภายังสูสี พรรคเดโมแครตยังดูเป็นต่อเล็กน้อย นั่นคืออาจชนะได้เพียง 1-2 เสียง ถือว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงจากปัจจุบัน
ก่อนเลือกตั้ง ทั้งสองพรรคมีเสียง 50 เท่ากันในวุฒิสภาซึ่งมี 100 เสียง แต่เดโมแครตได้เปรียบเพราะนางกมลา แฮริสเป็นประธาน เท่ากับว่ามี 1 เสียง
อย่างไรก็ตาม ถ้าผลเป็นทางการแสดงให้เห็นชัยชนะของรีพับลิกันในสภาผู้แทนซึ่งมีรวม 435 เสียง ใครได้ 218 เสียงถือว่าชนะ ผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการยังเห็นพรรครีพับลิกันยังนำค่อนข้างห่าง แต่ต้องรอผลคะแนนสุดท้าย
ถ้าได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทน ก็คือว่าเป็นชัยชนะของรีพับลิกัน ถ้าแพ้ในวุฒิสภาก็คือว่าเสมอตัว แต่จะส่งผลอย่างมากต่อการเมืองของสหรัฐฯ
โดยเฉพาะประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งจะเป็นเหมือนผู้นำ “เป็ดง่อย” ทำอะไรไม่ได้ถนัด ผ่านกฎหมายสำคัญลำบากในสภาผู้แทน เพราะจะต้องโดนจ้องเตะตัดขา
พรรครีพับลิกันจะไม่ยอมให้ไบเดนใช้จ่ายเงินเหมือนตีเช็คเปล่า โดยเฉพาะในการช่วยเหลือยูเครนด้านอาวุธและงบประมาณ ที่ผ่านมาก็เกือบ 8 หมื่นล้านดอลลาร์
ถ้าจะมีกฎหมายสำคัญ ต้องมีการล็อบบี้อย่างแรง แลกเปลี่ยนเงื่อนไข
การเมืองย่อมมีระบบ “หมูไปไก่มา” ต้องไม่ให้ผลประโยชน์ตกอยู่ฝ่ายเดียว ไบเดนเป็นประธานาธิบดีก็ตาม การจะใช้จ่ายเงินต้องผ่านรัฐสภา นั่นจะไม่ง่ายเหมือนก่อนเลือกตั้งซึ่งพรรคเดโมแครตคุมเสียงข้างมากทั้งสองสภา
ช่วงนี้ ความนิยมของไบเดนตกต่ำสุดขีด เหลือเพียง 39 เปอร์เซ็นต์ เวลาอีก 2 ปีที่เหลือ จะทำอะไรไม่ได้มาก ต้องหากิจกรรมที่ฟื้นฟูความเชื่อมั่น ซึ่งไม่ง่าย
สหรัฐฯ มีปัญหาเงินเฟ้อสูง ค่าครองชีพพุ่งไม่หยุดเพราะราคาพลังงาน ดอกเบี้ยเพิ่มสูงกว่า 4 เปอร์เซ็นต์ทำให้คนอเมริกันแบกหนี้ต้องลำบากอย่างสาหัส
โจ ไบเดน จะเข้าร่วมประชุม G20 ที่อินโดนีเซีย ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในพนมเปญ ดังนั้นบารมีจะไม่แกร่ง ราศีหมอง ความเป็นพญาอินทรีหมดไปกลายเป็นไก่งวง ขาดอำนาจต่อรอง โดยเฉพาะเงื่อนไขในการสนับสนุนสงครามยูเครน
เหลือเวลาอีก 2 ปีในตำแหน่ง ความนิยมต่ำเตี้ยเรี่ยดินอย่างนี้ ความหวังที่จะลงเลือกตั้งสมัยที่ 2 คงยากกว่าการหาบันไดไต่ขึ้นสวรรค์ ตราบใดที่แก้วิกฤตไม่ได้
ที่สำคัญ นางแนนซี เพโลซี จะต้องตกเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งทรงอิทธิพล สามารถขับเคลื่อนให้ผ่านกฎหมายหรือให้หยุดชะงักได้
เมื่อเสียเสียงข้างมาก นางเพโลซี คงเป็นยิ่งกว่าเทวดาตกสวรรค์ หลังจากสร้างปัญหาให้จีนเมื่อนางยกทีมไปเยือนไต้หวัน เพราะความหิวแสงไม่รู้จักอิ่ม
ก่อนการเลือกตั้ง 1 วัน นางให้สัมภาษณ์สื่อซีเอ็นเอ็น ไม่ยอมเปิดเผยแผนอนาคตว่าจะทำอย่างไร ถ้าตกเก้าอี้ประธานรัฐสภา สามีของนางเพิ่งรับเคราะห์แทนนาง โดนทุบหัวแบะโดยชายที่บุกเข้าไปในบ้าน หวังเล่นงานนางเพโลซี
เรื่องนี้ทำให้นางอกสั่นขวัญแขวนไม่น้อย เพราะรู้ดีว่าเป็นเป้าหมาย เพราะก่อนหน้านี้ประกาศว่าอยากตั๊นหน้าโดนัลด์ ทรัมป์ ถ้าบุกเข้าไปในรัฐสภาวันที่ 6 มกราคม
ทรัมป์เรียกนางเพโลซีว่า an animal หรือ “นางสัตว์” เป็นการตอบโต้ที่นางบอกว่าอยากชกหน้าทรัมป์ ถ้านางตกเก้าอี้ประธานสภา ทรัมป์คงหัวเราะแทบฟันโยก
ถ้าเดโมแครตเสียที่นั่งเสียงข้างมากในสภาผู้แทน ทรัมป์ก็คงอ้างได้ว่าตัวเองได้มีส่วนในการเรียกคืนความนิยม ตัวเองก็จะประกาศแผนสำคัญวันที่ 15 เดือนนี้ว่าจะทำอย่างไรกับอนาคตการเมือง จะลงสู้ศึกชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวอีกรอบหรือไม่
ถ้าอยากจะลงชิง น่าจะเผชิญกับผู้ว่าการรัฐฟลอริดา รอน เดอซานติส ซึ่งชนะการเลือกตั้งผู้ว่าอีก 1 สมัย ทรัมป์ได้ปรามาส เดอซานติสว่าอย่าคิดเป็นคู่แข่ง
การเมืองสหรัฐฯ ไม่ปรานีใคร ไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำ นโยบายว่าสหรัฐฯ ต้องเป็นใหญ่หนึ่งเดียว ใครจะมาแข่งรัศมีในฐานะชาติมหาอำนาจไม่ได้
นักการเมืองอย่างประธานาธิบดีมาแล้วก็ไป แต่ความคิดฝังหัวว่าอเมริกาต้องเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นในโลก อยู่ในองค์กรที่เกี่ยวกับความมั่นคง เช่นกระทรวงกลาโหม ซีไอเอ สภาความมั่นคง องค์กรด้านข่าวกรอง และองค์กรวิเทศสัมพันธ์
นั่นคือ Council on Foreign Relations ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และคนดังจากทุกวงการต้องเป็นสมาชิก ดังนั้นผลประโยชน์ด้านความมั่นคงจึงถูกกำหนดโดยองค์กรเหล่านี้ อยู่แบบถาวร ไม่มีหลุดจากอำนาจ นอกจากเสียชีวิต หรือหลุดตำแหน่ง
ไม่ว่าพรรครีพับลิกันหรือเดโมแครตจะเป็นใหญ่ นโยบายต่อยูเครนคงไม่เปลี่ยนมากนักเพราะทั้งสองพรรคฝังหัวแล้วว่าทั้งจีนและรัสเซียเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ
ทั้งๆ ที่รัสเซียและจีนไม่ได้ส่งกำลังไปรุกรานประเทศใด ต่างจากสหรัฐฯ ที่ทำสงครามไม่หยุดหย่อน บ่อนทำลายประเทศอื่น เช่นทำสงครามเกาหลี เวียดนาม ลาว กัมพูชา อิรัก ซีเรีย ลิเบียและเพิ่งเผ่นออกจากอัฟกานิสถานเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
ใช้เวลา 20 ปี ไม่สามารถรบชนะกองกำลังตอลิบาน ทั้งที่ร่วมมือกับสมาชิกนาโต
สงครามอิรัก ทหารอเมริกันฆ่าคนอิรักมากกว่า 1 ล้านคน สงครามในยูเครนที่เป็นตัวแทนสหรัฐฯ บ้านเมืองพินาศย่อยยับใกล้สิ้นสภาพความเป็นชาติ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเดโมแครตหรือรีพับลิกัน สหรัฐฯ ยังเป็นภัยคุกคามต่อโลกเพราะนิยมสงคราม