xs
xsm
sm
md
lg

การประชุม SCO กับคำอธิบาย “ป่าทั้งป่า”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท



เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตชวนไปแวะแถวๆ เอเชียกลาง ไปดูการประชุมกลุ่มประเทศ “SCO” หรือ “Shanghai Cooperation Organization” ณ เมืองซามาร์คันด์ ประเทศอุซเบกิสถานเขาไว้สักหน่อย ที่เพิ่งเสร็จสิ้นการประชุมไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยน่าจะมี “ไฮไลต์” อยู่ที่การพบปะแบบหน้าต่อหน้า ตัวต่อตัวของ 2 ผู้นำโลก อย่างประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง”ผู้นำจีน กับประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน”ผู้นำรัสเซีย ซึ่งถูกถือเป็น “มหาอำนาจคู่แข่ง”ของคุณพ่ออเมริกาและบริวารแห่งโลกตะวันตกด้วยกันทั้งคู่...

คือ...งานนี้ อันดับแรกต้องถือเป็นตัวตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซีย ว่ายากส์ส์ส์ที่จะแยกห่าง แยกขาดจากกันและกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะในช่วงระหว่างที่คุณพ่ออเมริกาท่านกล้าหาญและบังอาจที่จะ “เปิดศึก 2 ด้าน”อย่างไม่ได้คิดที่จะประเมิน ประมาณการถึงสถานะของตัวเอง เอาเลยแม้แต่น้อย ด้านหนึ่งก็อาศัย “ตัวแทน”อย่างยูเครน บ่อนทำลายมหาอำนาจคู่แข่งในแนวรบยุโรปตะวันออก กะเกณฑ์ประเทศพันธมิตรยุโรป รุมเหยียบ รุมกระทืบ หมีขาวรัสเซียหวังจะให้ “ตายคาตีน” ให้จงได้ อีกด้านหนึ่งก็อาศัยเครื่องไม้ เครื่องมือ อย่างไต้หวัน เขย่าแนวรบทะเลจีนใต้ สร้างแรงกดดันให้กับมหาอำนาจคู่แข่งอีกราย อย่างมังกรจีน ชนิด “หลับไม่ลง”จนตราบเท่าทุกวันนี้...

ด้วยเหตุนี้...จึงไม่ถือเป็นเรื่องแปลก ที่ผู้นำจีนอย่างประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ที่ยังไม่เคยตะลอนทัวร์ออกนอกประเทศ นับจากการแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัส “โควิด-19”ในเมืองจีนเป็นต้นมา มีแต่ต้องเจอหน้า-เจอตากันทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์หรือไม่ก็ทางโทรศัพท์ไปตามสภาพ ท่านจึงได้ย่างเยื้องลอดลายมังกรออกจากประเทศจีนเป็นครั้งแรก มาเจอหน้า-เจอตากับ “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์”อย่างผู้นำรัสเซีย โดยไม่ได้คิดจะสนใจเสียงนก-เสียงกา หรือเสียงของโฆษกทำเนียบขาว อย่าง “นายJohn Kirby”ที่ออกมาเตือน(ขู่)จีนในช่วงเวลาเดียวกัน (15 ก.ย.) ว่าจีนควรดำรงตนเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับรัสเซียอันเนื่องมาจากปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน หรือ “ไม่ใช่เวลา...ที่คิดไปทำธุรกิจและให้ประโยชน์กับคนอย่างปูติน” แต่ก็นั่นแหละ...ในเมื่อยิ่งนับวัน การเขย่าแนวรบในทะเลจีนใต้ ด้วยการอาศัยไต้หวันเป็นเครื่องมือของคุณพ่ออเมริกา ยิ่งดุเดือดเลือดพล่าน ไม่น้อยไปกว่าการรุมเหยียบ รุมกระทืบรัสเซีย ล่าสุด...เห็นว่าคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภาสหรัฐฯ กำลังเตรียมยกร่างกฎหมายให้ความช่วยเหลือไต้หวันเพิ่มขึ้นอีก 4,500 ล้านดอลลาร์ในช่วงระยะ 4 ปีและค้ำประกันเงินกู้ให้อีก 2,000 ล้านดอลลาร์ หรือเตรียมยกระดับความสัมพันธ์กับไต้หวันให้เพิ่มๆ ยิ่งขึ้นไปอีก อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้ ย่อมต้องส่งผลให้พญามังกรจีน ย่อมมิอาจซุกเล็บ(ตีน)อยู่ในหีบใดๆ ได้เลย...

การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซีย จึงมีแต่ยิ่งเหนียวแน่น หนึบหนับยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้ารัสเซียจะบุกยูเครนหรือช่วงปี ค.ศ. 2021 มูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศอยู่ที่ประมาณ 140,000 ล้านดอลลาร์ แต่มาปีนี้หรือปี ค.ศ. 2022 ว่ากันว่าน่าจะทะลุเมฆ ทะลุฟ้าขึ้นไปถึง 200,000 ล้านดอลลาร์เป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าพลังงานรัสเซียของจีน ที่นับวันจะเป็นเรื่อง-เป็นราวยิ่งเข้าไปทุกที ถึงขั้นบริษัท “Gazprom” ของรัสเซียกำลังเตรียมโครงการวางท่อส่งแก๊ส “Soyuz Vostok pipeline”จากรัสเซียผ่านมองโกเลียมายังเมืองจีน เพื่อส่งแก๊สปริมาณปีละ 50,000 ล้านคิวบิกเมตรไปให้กับคุณพี่จีนแทนที่จะส่งไปยังยุโรปโดยท่อแก๊ส “Nord Stream 1” อย่างที่เคยเป็นมา หรือ “Nord Stream 2” ที่ต้องแท้งไปซะดื้อๆ นั่นยังไม่รวมไปถึงคุณปู่อินตะระเดีย ที่ไม่เพียงเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศ “SCO” ร่วมกับประเทศคู่ขัดแย้งอย่างปากีสถาน จนทำให้กลุ่มประเทศดังกล่าวขยายตัวจากเริ่มแรกที่เป็นแค่กลุ่มประเทศ “เซี่ยงไฮ้ ไฟว์” “Shanghai Five”เมื่อปี ค.ศ. 1996 กลายเป็นกลุ่มประเทศ “SCO” อันประกอบไปด้วยจีน อินเดีย คาซักสถาน รัสเซีย ปากีสถาน ทาจิกิสถาน คีร์กีซสถาน และอุซเบกิสถาน ผู้รับอาสาเป็นเจ้าภาพในการประชุมเที่ยวนี้ หรือกลายเป็นกลุ่มประเทศที่มีจำนวนประชากรเกือบครึ่งโลก ที่ตัวเลขจีดีพีรวมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 หรือ 30 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีโลก...

แต่นอกเหนือไปจากการพบปะระหว่าง 2 ผู้นำมหาอำนาจคู่แข่งของคุณพ่ออเมริกาแล้ว...คงต้องยอมรับว่า เวทีประชุมของกลุ่มประเทศ“SCO” คราวนี้ ออกจะคึกคักโครมครามอยู่พอสมควร โดยเฉพาะบรรยากาศแห่งความร่วมไม้ ร่วมมือของบรรดาประเทศต่างๆ ที่พร้อมเข้าร่วมเวทีประชุมดังกล่าว ชนิด“หมูไม่กลัวน้ำร้อน” หรือไม่ได้สนใจเสียงนก เสียงกา เสียงขู่คำรามของคุณพ่ออเมริกาและโลกตะวันตกเอาเลยแม้แต่น้อย ไม่เพียงแต่อิหร่านที่ได้เขียนใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกถาวรของ“SCO” เป็นชาติที่ 9 ในช่วงวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (15 ก.ย.) ยังมีประเทศพันธมิตรรัสเซียอย่างเบลารุส ที่จะตามมาเป็นสมาชิกรายที่ 10 ภายในปีนี้ นอกเหนือไปจากนั้นยังมีสมาชิกประเภทหุ้นส่วนเจรจาอย่างอียิปต์และกาตาร์เข้าร่วมด้วย ตามด้วยสมาชิกสังเกตการณ์อย่างซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน คูเวต ยูเออี เมียนมาร์ และมัลดีฟ ที่พร้อมจะใช้เวทีประชุมดังกล่าว เป็นทางออก ทางไป สำหรับชาติตัวเอง โดยไม่คิดจะร่วมขบวนการรุมเหยียบ รุมกระทืบหมีขาวรัสเซีย เหมือนอย่างที่คุณพ่ออเมริกาและตะวันตก ปรารถนาและต้องการเอาเลยแม้แต่น้อย...

นั่นยังไม่รวมไปถึงบรรดากลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่รวมตัวเป็นกลุ่มประเทศ “BRICS”มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 อันประกอบไปด้วยประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนและแอฟริกาใต้ ที่ต่างไม่ได้คิด“แซงชั่นรัสเซีย” ไปด้วยกันทั้งสิ้น หรือเป็นกลุ่มประเทศที่บริษัทวาณิชธนกิจระดับโลกอย่าง“Goldman Sachs”เคยประมาณการไว้ว่าจะกลายเป็น“ตลาด”ที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือจะมีขนาดเศรษฐกิจรวมกันประมาณ 41 เปอร์เซ็นต์ของโลกภายในปี ค.ศ. 2030 ที่ช่วงระหว่างนี้ก็กำลังเปิดรับสมาชิกหรือพยายามขยายจำนวนสมาชิกให้กว้างขวางออกไปอีก โดยที่มี 5 ชาติพร้อมยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าอิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย ตุรกี อียิปต์ และอาร์เจนตินา ฯลฯ...

ดังนั้น...ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวกันในฐานะกลุ่มประเทศ“SCO”ก็ดี หรือกลุ่มประเทศ“BRICS” ก็ดี จึงกลายเป็นแรงกระตุ้นหรือกลายเป็นตัวสร้างความมั่นอก มั่นใจให้กับประเทศมหาอำนาจคู่แข่งของอเมริกาและโลกตะวันตก อย่างจีนและรัสเซียว่าสิ่งเหล่านี้นี่แหละ ที่น่าจะกลายเป็น“เบ้าหลอม”ให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า“ระเบียบโลกแบบใหม่” ขึ้นมาภายในเวลาอันใกล้ ชนิดที่ทำให้ผู้นำรัสเซีย อย่างประธานาธิบดี“ปูติน” จึงกล้าสรุปเอาไว้ในเวทีประชุม“SCO”คราวนี้ถึงขั้นว่า...“โลกขั้วเดียว (ตามแนวคิดของอเมริกาและพันธมิตรตะวันตก) กำลังเป็นสิ่งที่พ้นสมัย!!! และกำลังถูกแทนที่โดยระเบียบโลกแบบใหม่ที่มีรากฐานและหลักการอยู่บนความยุติธรรม ความเท่าเทียมกัน และการยอมรับต่อสิทธิ-อำนาจอธิปไตยของแต่ละประเทศในการเลือกหนทางที่จะพัฒนาประเทศของตน”หรือดังที่โฆษกเครมลิน“นายDmitry Peskov”ได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่าการพบปะระหว่าง 2 ผู้นำโลกอย่างจีนและรัสเซียคราวนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความเข้าใจ ความมั่นใจ ระหว่างผู้นำทั้งสอง ว่าความเป็น“โลกขั้วเดียว”กลายเป็นสิ่งที่ไปไม่ได้อีกต่อไปแล้วเมื่อ“ความจริงใหม่” กำลังจะมาถึง...

พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าดูจากแนวโน้มความเป็นไปของโลกในลักษณะเช่นนี้ ก็แทบไม่ต้องเสียเวลาสนใจว่า“ตัวแทน”หรือ “ตัวตลก”อย่างผู้นำยูเครน ประธานาธิบดี “โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้” ท่านจะยึดดินแดนยูเครนกลับคืนมาจากรัสเซียได้อีกกี่ตารางกิโลเมตรเพราะอันนั้น...มันก็แค่“ใบไม้”แค่ไม่กี่ใบ ไม่ได้ถือเป็นคำตอบ คำอธิบาย“ป่าทั้งป่า” ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะโดยความเสื่อมโทรมทรุดถอย ของคุณพ่ออเมริกาและโลกตะวันตก ที่นับวันจะถูกบรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายไม่ว่าในกลุ่ม SCO หรือ BRICS แซงหน้า ปาดหน้า ชนิดต้องชิดซ้าย ตกคู ตกคลองกันไปเป็นประเทศๆ ไม่ว่าจีนที่กำลังแซงหน้าอเมริกาขึ้นเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับหนึ่งภายในปี ค.ศ. 2030 ตามการประมาณการของ“Goldman Sachs”หรืออินตะระเดียที่แซงหน้าอดีตจ้าวอาณานิคมอังกฤษขึ้นเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับ 5 และกำลังจะแซงเยอรมนี ญี่ปุ่น ขึ้นเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับ 3 ในอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล สิ่งเหล่านี้นี่เอง...ที่ถือเป็นภาพจำลองของ“ป่าทั้งป่า” ซึ่งกำลังปรากฏให้เห็นเป็นที่ประจักษ์พร้อมๆ กับสิ่งที่เรียกขานกันในนาม“ระเบียบโลกแบบใหม่”....




กำลังโหลดความคิดเห็น