จีน-รัสเซีย...กับปัญหา“วิกฤตยูเครน”

พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 99-99.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!!! สำหรับ “ราคาน้ำมัน” ในตลาดซื้อ-ขายล่วงหน้าของ “Brent” และ “West Texas” เมื่อช่วงวันอังคาร (22 ก.พ.) ที่ผ่านมา โดยถ้าว่ากันตามการคาดการณ์ของหัวหน้าฝ่ายบริหารบริษัทค้าน้ำมันอิสระที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง “Vitol Group” โอกาสที่ราคาจะพุ่งเลย 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ย่อมเป็นไปได้อีกไม่ใกล้-ไม่ไกลนับจากนี้...

ไม่ต่างไปจาก “ราคาทองคำ” สินทรัพย์อันถือเป็น “หลักประกันความเสี่ยง” มาตั้งแต่ครั้งโบร่ำโบราณ ที่พุ่งพรวดๆ พราดๆ จาก 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไปถึงระดับ 1,902.20-1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้นไปกว่า 120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา...อันเนื่องมาจากความร้อนแรงของ “แนวรบยุโรปตะวันออก” หรือ “วิกฤตยูเครน” นั่นแหละทั่น!!!

คือด้วยเหตุเพราะกรรมวิธีการแก้ปัญหา ที่แม้ค่อนข้างจะ “เนียน” แต่อาจ “ขรุขระ” อยู่มั่งตามสมควร ของคุณน้ารัสเซียเขาที่ตัดสินใจประกาศ “รับรองเอกราช” ของดินแดน 2 แห่ง อันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศยูเครน คือ “Donetsk” และ “Lugansk” หรือที่เรียกรวมๆ ว่า “Donbass” แล้วส่งทหารจากหน่วยรักษาสันติภาพเข้าไปปกป้อง คุ้มครอง บรรดาประชากรส่วนใหญ่ที่มีเชื้อสายรัสเซีย ชนิด “เรียบโร้ยย์ย์ย์โรงเรียนหมีขาว” แม้ว่ามันอาจจะมี “กฎหมาย” ต่างๆ รองรับเอาไว้เสร็จสรรพ ไม่ว่าจะเป็นการผ่านกฎหมายของสมาชิกสภาดูมาแห่งรัสเซีย จำนวนถึง 315 ราย มีเสียงคัดค้านแค่ 16 เสียง ให้รัสเซียประกาศรับรองเอกราชของ “The People’s Republic of Donetsk” และ “The People’s Republic of Lugansk” ที่เคยเรียกร้องมาตั้งแต่เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว แต่ก็ถูกคลี่คลาย ถูกยืดเวลาออกไป ด้วยข้อยุติ ข้อตกลง ที่เมืองมินสก์ หรือโดย “The Minsk Agreement” อันเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัฐบาลยูเครนกับฝ่ายกบฏแยกดินแดน โดยมีประชาคมระหว่างประเทศอย่างรัสเซีย-ฝรั่งเศส-และเยอรมนี เป็นผู้ให้ความเห็นชอบ...

และก็ด้วยการหันมาประกาศ “รับรองเอกราช” ของดินแดนทั้งสองแห่ง ด้วยการลงนามตามข้อเสนอของสมาชิกสภารัสเซียโดยผู้นำประเทศอย่างประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” เมื่อช่วงวันจันทร์ (21 ก.พ.) ที่ผ่านมานี่เอง เลยทำให้ข้อความใน รายละเอียดของข้อตกลง หรือ “สนธิสัญญา” ระหว่างรัสเซียกับ “สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์” และ “สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์” เป็นสิ่งที่สามารถ “บังคับใช้” ได้โดยทันที โดยเฉพาะข้อตกลงตาม “มาตรา 5” ที่เป็นไปในแบบเดียวกับ “มาตรา 5” ของ “นาโต” เค้านั่นแหละ คือเปิดโอกาสให้ประเทศพันธมิตรของสนธิสัญญาดังกล่าว สามารถส่งทหารเข้าไปปกป้อง คุ้มครอง หรือต่อสู้กับกองกำลังใดๆ ก็ตามที่คิดจะโจมตีดินแดนดังกล่าว และโดยที่รัสเซียเขาเคยสร้างความร่วมมือกับบรรดาประเทศที่เคยแตกออกไปจาก “สหภาพโซเวียต” เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว จนก่อรูป ก่อร่าง เป็นกองกำลังทหารที่รู้จักกันในนาม “CSTO” หรือ “The Collective Security Treaty Organization” เพื่อเอาไว้ช่วยรักษาสันติภาพและความมั่นคงปลอดภัยภายในประเทศสมาชิกทั้งหลาย กองกำลังดังกล่าวจึงถูกส่งไปยังดินแดน “Donetsk” และ “Lugansk” เช่นเดียวกับที่เคยส่งไปไล่ยิง ไล่ปราบ พวกผู้ประท้วงในดินแดนประเทศคาชัคสถาน เมื่อช่วงมกราฯ ที่ผ่านมานั่นเอง...

คือถ้าว่ากันตามแง่มุมทาง “กฎหมาย” แล้ว...การแก้ปัญหา “วิกฤตยูเครน” ของหมีขาวรัสเซียในรูปนี้ ก็ค่อนข้างจะ “เนียน” มิใช่น้อย คือไม่ได้ถึงกับรุ่มร่าม บุ่มบ่าม แบบคิดจะ “บุกยูเครน” หรือคิด “ยึดเมืองเคียฟ” กันลูกเดียว อย่างที่คุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตก พยายามโหมประโคมข่าว ตีปี๊บ ตีฉิ่ง ตีฉาบ มาโดยตลอด แต่ค่อยๆ เลียบๆ เคียงๆ วางหมาก วางเกมก่อนที่จะแปรสภาพดินแดนทั้งสองให้มีลักษณะไม่ต่างไปจาก “แหลมไครเมีย” ที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียไปจนได้ แต่ในแง่ของ “การเมือง” แล้ว ก็ยังไม่ถึงกับแน่ใจได้มากมายสักเท่าไหร่ ว่าจะก่อให้เกิด “ความชอบธรรม” ต่อการกระทำดังกล่าวขึ้นมาได้จริงๆ หรือไม่??? เพราะภายหลังการลงนาม “รับรองเอกราช” ของดินแดนทั้งสอง รวมทั้งการส่งหน่วยทหารรักษาสันติภาพเข้าไปใน “Donetsk” และ “Lugansk” ไม่เพียงแค่ต้องเจอกับการต่อต้าน คัดค้าน แบบหัวฟัด-หัวเหวี่ยงจากฝ่ายตรงข้ามอย่างคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตกเท่านั้น แต่กระทั่งประเทศยุโรปที่เคยออกอาการ “กั๊กๆ-กลางๆ” อย่างฝรั่งเศสและเยอรมนี เคยเล่นบทเป็น “ตัวกลาง-คนกลาง” ในการหาข้อยุติต่อปัญหาดังกล่าว ก็ทำท่าว่าจะ “รับไม่ได้” อีกด้วยเช่นกัน หรือเปลี่ยนมาแสดงปฏิกิริยาต่อต้าน คัดค้าน ต่อการกระทำของหมีขาวรัสเซีย อย่างชนิดเป็นเอกภาพ...

หรือแม้แต่ “องค์กรกลาง” อย่างเลขาธิการสหประชาชาติ “นายAntonio Guterres” ที่ได้ออกแถลงการณ์แสดงความ “ไม่เห็นควรด้วย” กับการกระทำดังกล่าวของรัสเซียอย่างเห็นได้โดยชัดเจน เพราะ “ถือเป็นการล่วงละเมิดดินแดนและอำนาจอธิปไตยของยูเครนและเป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับหลักการแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ” แรงต่อต้าน ปฏิเสธและคัดค้านต่อหมีขาวรัสเซีย จึงน่าจะหนักหน่วงเอาเรื่องมิใช่น้อย ชนิดแม้ว่าช่วงระหว่างนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดมาตรการ “แซงชั่น” ออกมาให้เป็นรูป เป็นร่าง แต่ก็เล่นเอาตลาดหุ้นรัสเซีย หรือ “MOEX” ร่วงกันชนิดรูดมหาราช แค่ช่วงเปิดตลาดเมื่อวันอังคารรูดลงไปถึง 5.5 เปอร์เซ็นต์ ก่อนรูดลงมาอีกในช่วงปิดตลาดถึง 8.56 เปอร์เซ็นต์ ขณะ “ค่าเงินรูเบิล” เริ่มปักหัวดิ่ง อยู่ที่ 80.5 รูเบิลต่อ 1 ดอลลาร์ หรือ 91 รูเบิลต่อ 1 ยูโร...

แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น...ก็คือปฏิกิริยาท่าทีของ “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ระดับ “ไม่มีขีดจำกัด” อย่างคุณพี่จีนเขานั่นแหละว่าจะออกมาในแนวต่อแนวไหน เพราะอย่างที่อดีตรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ “นายTobias Ellwood” เคยได้ให้ความคิด ความเห็น เอาไว้ก่อนหน้านั้นนั่นแหละว่า “การต่อต้านรัสเซียของบรรดาประเทศยุโรปทั้งหลาย ยิ่งเท่ากับทำให้สัมพันธภาพระหว่างจีนและรัสเซียแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น...” และแม้ว่าในช่วงระหว่างนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน “นายWang Yi” ท่านจะแสดงความฉุนฉิวกริ้วโกรธต่อบทบาทของคุณพ่ออเมริกา หรือต่อ “ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก” (Indo-Pacific Strategy) ขณะพูดคุยทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ “นายAntony Blinken” เมื่อช่วงวันอังคาร (22 ก.พ.) ที่ผ่านมา ว่าแสดงออกถึงจุดมุ่งหมายที่ต้องการ “เผชิญหน้ากับจีน” ชนิดอาจต้องเจอกับปฏิกิริยาตอบโต้ของพญามังกร ด้วยการหันมา “เผชิญหน้าแบบเต็มรูปแบบ” ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ ไปจนการกระทบกระทั่งกับพันธมิตร “AUKUS” ของอเมริกา อย่างผู้ช่วยนายอำเภอออสเตรเลีย ในเรื่องการล็อกเป้าเลเซอร์ใส่เครื่องบินลาดตระเวนต่อต้านเรือดำน้ำในแถบน่านน้ำนิวกินี หรือการประกาศแซงชั่น บริษัทค้าอาวุธอเมริกา อย่าง “Raytheon Technologies” และ “Lockheed Martin” ในเรื่องการเซ็งลี้อาวุธให้ไต้หวัน ฯลฯ แต่สำหรับกรณีการ “งาบ” ดินแดน 2 แห่งของยูเครนแบบนิ่มๆ เนียนๆ คราวนี้ โดยท่าทีของรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ก็ยังไม่ถึงกับ “Back-to-Back” มากมายสักเท่าไหร่...

หรือไม่ถึงกับแสดงออกถึงการ “สนับสนุน” ในทุกๆ เรื่อง ทุกๆ กรณี...เพราะถ้าว่ากันตามข่าวล่า-มาเรือ โดยคำพูด คำจา ของรัฐมนตรีต่างประเทศจีนในเรื่องนี้ สรุปเอาไว้ประมาณว่า... “จีนยังคงยึดมั่นอยู่กับจุดยืนเดิมๆ นั่นคือความชอบธรรมทางความมั่นคงของแต่ละประเทศ ควรที่จะต้องตั้งอยู่บนความเคารพต่อหลักการแห่งกฎบัตรของสหประชาชาติ...” ดังนั้น...ในระหว่าง “การประชุมฉุกเฉิน” ของคณะมนตรีความมั่งคงสหประชาชาติ ที่ไม่ว่าคุณพ่ออเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี เรียกร้องต้องการให้เร่งพบปะ เจรจา เพื่อหาทางคลี่คลาย “วิกฤตยูเครน” ในอีกวัน-สองวันนับจากนี้ “ไพ่” แต่ละใบที่อยู่ในมือของแต่ละฝ่าย จะออกมาในหน้าไหนต่อหน้าไหน ก็ยังไม่อาจ “ด่วนสรุป” ได้ง่ายๆ เพราะภายใต้ความเกี่ยวโยง เกี่ยวพัน ระหว่าง “แนวรบยุโรปตะวันออก” กับ “แนวรบทะเลจีนใต้” ย่อมทำให้ความเป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ระหว่างจีนและรัสเซีย จะเป็นแค่ “Side-by-Side” หรือแค่ “เคียงบ่า-เคียงไหล่” ไม่ได้เลย มีแต่ต้อง “Back-to-Back” ลูกเดียวเท่านั้นเอง!!!