ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เล่นใหญ่ น่าจะให้รางวัลออสการ์ ตามคิวที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กดปุ่มเรียกประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แบบด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋า หลังประชุมสภาให้มาสุมหัวด่วนที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ
หัวข้อการประชุมใหญ่ วาระร้อน “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค ต้องการหอบลิ่วล้อในมุ้งรวม 21 ชีวิต ออกจากพรรค แต่ติดตรงที่ไขก๊อกลาออกเองไม่ได้ เพราะจะทำให้สิ้นสภาพส.ส. จำเป็นต้องอ้อนวอนขอให้พรรคช่วยตะเพิดหน่อย เพื่อจะได้รักษาสถานะส.ส.ไปหาที่สิงสถิตใหม่ภายใน 30 วัน
ใครๆ ก็คิดว่า “บิ๊กป้อม” คงเบรกไม่ให้ลูกรักอย่าง “ผู้กองนัส” ไปแน่ ยิ่งปริมาณส.ส.ที่ขอลาออกด้วยร่วม 20 ชีวิต เสียงรัฐบาลในสภากลับมาปริ่มเกือบมิดหัว
แต่ที่ไหนได้ ไม่มีรายการกระชากใบลาออก ที่ประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.มีมติขับไล่ ผู้กองนัส และอีก20 ส.ส. พ้นชายคาพรรคไปนับตั้งแต่บัดนี้ ข้อหาสร้างความขัดแย้งแตกแยกภายในพรรคพลังประชารัฐ
บทจะง่ายก็ง่าย เล่นเอางงกันเป็นไก่ตาแตก เพราะก่อนหน้านี้ 6 รัฐมนตรี นำโดย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม “อนุชา นาคาศัย” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ “สันติ พร้อมพัฒน์” เคยผนึกกับ 2 ป. “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้ผลักไส ผู้กองนัส ออกจากเก้าอี้แม่บ้านพรรค “บิ๊กป้อม” ยังกระเตงลูกรักเอาไว้ได้
แต่หนนี้ กลับตะเพิดกันแบบไม่ยาก ให้ ผู้กองนัส และ 20 ส.ส.เป็นไทหน้าตาเฉย
การไล่ออกครั้งนี้ ไม่ต่างอะไรกับการให้ “ผู้กองนัสและก๊วน” ได้ไปหาพรรคใหม่ได้อย่างอิสระ ไม่ต้องพ้นสมาชิกภาพส.ส. ไม่ต่างอะไรกับการอุ้ม
เป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดระหว่าง “บิ๊กป้อมและผู้กองนัส” ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะหากแตกหัก เลือกให้ ผู้กองนัส ลาออกเองดีกว่า ไม่ใช่ปล่อยเสือเข้าป่าแบบนี้
อย่างไรก็ดี หากไล่ไปดูรายชื่อ 20 ส.ส.ที่ต้องออกจากชายคาพรรคพลังประชารัฐ ต้องบอกว่า ไม่ได้เป็นเลือดแท้ในมุ้งของ “ผู้กองนัส” ทุกคน
เอาแบบที่ไปไหนไปกัน ได้แก่ เอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ, วัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น, ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส. ตาก, ภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก, ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร, วัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง, ณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์, นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น, จีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา, บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ขณะที่คนอื่นๆ อย่าง เกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา, สมศักดิ์ พันธุ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา, ทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา นี่คนในมุ้ง “วิรัช รัตนเศรษฐ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ไม่ถูกไล่ ทั้งภรรยาและลูก ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหมด เหมือนตั้งใจเกลี่ย “คนละครึ่ง” ไปอยู่พรรคใหม่กับผู้กองนัส ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไว้เป็นอำนาจต่อรอง ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง
ส่วน พรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร, นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน, จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร, สะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี, ยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พวกนี้เหมือนถูกจิ้มให้ไปเป็นขุมกำลังของ ผู้กองนัส ในบ้านหลังใหม่
ขณะที่พรรคใหม่ของ ผู้กองนัส และชาวคณะ ว่ากันว่า จะไปสร้างครอบครัวกันที่บ้านหลังใหม่ พรรคเศรษฐกิจไทย พรรคอะไหล่ที่จดจัดตั้งไว้มาสักพัก
ที่เป็นรายการมวยล้มต้มคนดู ก็เพราะพรรคนี้ จะให้ “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ น้องรักบิ๊กป้อม มาเป็นหัวหน้าพรรค เรียกว่าชัดยิ่งกว่าชัด ว่าสุมหัวเตรียมการกันเอาไว้หมดแล้ว
พูดง่ายๆ คือ พรรคป้อมสาขา 2
คิวตะเพิดแบบรู้กันของ ผู้ไล่-ผู้ถูกไล่ ไม่ได้เกิดจากปัจจุบันทันด่วน หรือเพราะถูกบีบหรือเพราะพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งซ่อม แต่มีการวางแผนกันไว้สักระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจาก “บิ๊กตู่” และ “ผู้กองนัส”ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ไปต่อลำบาก
“บิ๊กตู่” ไม่ไว้ใจหอกข้างแคร่ ในขณะที่ “บิ๊กป้อม” ก็ต้องแก้ปัญหาไม่ให้ยืดเยื้อ ขืนปล่อยให้บานปลายมีแต่สาละวันเตี้ยลง มีข่าวลูกพรรคตีกันโครมครามตลอด
เมื่อเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ก็สร้างถ้ำใหม่อีกถ้ำให้อยู่ซะเลย โดย “บิ๊กป้อม” สร้างถ้ำใหม่ให้กับ “ผู้กองนัส” และกลุ่มก๊วน เพื่อตัดปัญหาไม่ให้ “บิ๊กตู่” ระคายเคืองใจ ไม่ให้อีกมุ้งเดินหน้าขย่มแบบไม่รู้จักจบจักสิ้น
ขณะที่ ผู้กองนัส ก็ วิน-วิน เพราะได้แยกเป็นอิสระ ไม่ต้องอยู่ภายใต้ความเป็นพรรคพลังประชารัฐ ที่มีบิ๊กตู่ ร่วมเป็นเจ้าของ เหมือนต้องอาศัยเขาอยู่แบบอกตรม
ช็อต “ผู้กองนัส” ปราศรัยแบ่งชนชั้นคนรวย-คนจน ที่หลายคนมองว่าผิดพลาดเป็นเหตุให้พรรคพลังประชารัฐพ่ายแพ้ มีกันมองกันว่าคนระดับนี้ไม่น่าจะผิดคิว หลุดปากให้พรรคเสียคะแนน แต่เป็นรายการจงใจให้มันเป็นแบบนี้ เพราะตัวเองก็ซี้กับ “นายกฯชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา หัวหน้าแก๊งภาคใต้ ของพรรคประชาธิปัตย์อยู่
ให้มันแพ้ ให้มันพินาศ จะได้มีเงื่อนไขสู่การไสหัวออกไปพรรค เป็นปาหี่ฉากใหญ่นำมาสู่วันนี้
อยู่นอกพรรคพลังประชารัฐเดินเกมได้อย่างอิสระ เป็นเครื่องมือต่อรองให้กับ “บิ๊กป้อม” ในสภา ง่ายกว่าเดิมเยอะ.
