xs
xsm
sm
md
lg

การเลือกตั้งไม่โปร่งใส : ประชาธิปไตยจอมปลอม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง



ประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2475 นับเวลารวมตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้เกือบจะ 90 ปีแล้ว แต่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย ไม่ก้าวหน้าไปเท่าที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ อนุมานได้จากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ ไม่เข้าใจในหลักการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ว่าจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ประเทศชาติ และประชาชนส่วนใหญ่ได้รับ ทั้งนี้ จะเห็นได้จากการไปลงคะแนนเลือกตั้ง ส่วนใหญ่จะยึดติดกับตัวบุคคล แทนที่จะเลือกตั้งโดยจากนโยบายและพฤติกรรมของพรรคการเมืองว่าเป็นมาอย่างไร เกิดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์อันใด เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยหรือไม่

2. พรรคการเมืองและบุคลากรทางการเมืองเกือบจะพูดได้อีกเกือบ 100% เป็นธุรกิจการเมืองคือ เข้ามาสู่วงการเมืองด้วยความอยากมี อยากเป็น โดยยึดประโยชน์ของตนเองแลพวกพ้องก่อนจะคิดถึงประโยชน์ของประเทศ และประชาชน จะเห็นได้จากการทุ่มทุนในการเลือกตั้ง และมุ่งถอนทุนหลังจากการได้รับเลือกตั้งแล้ว โดยการเป็นรัฐบาลแล้วแสวงหาประโยชน์โดยใช้อำนาจรัฐ ทั้งในรูปแบบของการกินตามน้ำและทวนน้ำ

3. เมื่อพรรคการเมืองและบุคลากรทางการเมืองมีพฤติกรรมตามข้อ 2 จึงทำให้ประชาชนที่ต้องการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และประชาชนให้รอดพ้นจากการทุจริต ก็ลุกขึ้นมาต่อต้านกลายเป็นความวุ่นวายทางการเมือง เปิดช่องให้กองทัพอ้างเหตุความไม่สงบ และพฤติกรรมไม่โปร่งใสของนักการเมืองทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วปกครองประเทศด้วยระบอบเผด็จการ

แต่ครั้นปกครองประเทศไปได้ระยะหนึ่ง มีพฤติกรรมไม่โปร่งใส และบริหารประเทศไม่ถูกใจประชาชน ก็เกิดการชุมนุมต่อต้านเผด็จการ ทำให้ต้องแก้ปัญหาด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้ง เพื่อลดความกดดันทางการเมือง และเหตุการณ์ผลัดเปลี่ยนการปกครองระหว่างระบอบประชาธิปไตยกับระบอบเผด็จการ ในทำนองนี้ได้เกิดขึ้นซ้ำซากหลายครั้งหลายหนในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนับตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้การเมืองไทย ไม่ว่าจะปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยหรือเผด็จการ และที่เป็นเช่นนี้อนุมานได้ว่า การเมืองจะดีหรือไม่ดี มิได้ขึ้นอยู่กับระบบ แต่ขึ้นอยู่กับบุคคลเป็นหลัก

ดังนั้น การเมืองไทยไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น เมื่อเทียบกับประเทศต้นแบบประชาธิปไตย เช่น ประเทศอังกฤษ เป็นต้น และเมื่อเทียบกับประเทศที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ เช่น ประเทศจีน เป็นต้น

วันนี้ประชาชนคนไทยใกล้จะมีโอกาสได้เลือกตั้งอีกครั้ง เนื่องจากรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังประสบปัญหาวิกฤตศรัทธา เนื่องจากบริหารประเทศล้มเหลวในเกือบทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ และสังคม ทั้งนี้ จะเห็นได้จากการที่ประชาชนเดือดร้อนจากการว่างงาน รายได้ลดลงแต่ข้าวของแพงขึ้น และหนี้สินเพิ่มขึ้น รวมไปถึงปัญหายาเสพติด และอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น ทำให้บรรดานักคาดการณ์ทางการเมืองคาดเดาว่าจะมีการยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ ก่อนครบเทอมค่อนข้างแน่นอน

ไม่ว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นก่อนครบเทอมหรือหลังครบเทอม ประชาชนคนไทยถ้าต้องการให้การเมืองดีขึ้น จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม และใช้โอกาสนี้เปลี่ยนแปลงการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย ที่ประชาชนคนไทยได้ประโยชน์สูงสุดจากการปกครองในระบอบนี้ โดยการเลือกพรรค และเลือกคนที่มีความรู้ ความสามารถ และมีคุณธรรมกำกับความรู้ ความสามารถ สอดคล้องกับนโยบายพรรค

ที่สำคัญจะต้องไม่เลือกพรรค และบุคคลที่เคยมีพฤติกรรมโกงกินประเทศ หรือแม้แต่พรรคและบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์กับประเทศ และประชาชนโดยรวมก็ไม่ควรเลือก


กำลังโหลดความคิดเห็น