xs
xsm
sm
md
lg

หน่วยราชการในพระองค์รับใช้ครอบครัวเดียวหรือทำงานให้คนไทยทั้งประเทศ?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชาปัญญาและการวิเคราะห์ธุรกิจ
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์


เมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดการใส่ร้ายป้ายสีหน่วยราชการในพระองค์อันประกอบด้วย 3 หน่วยงานคือสำนักพระราชวังสำนักงานองคมนตรี และหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ หรือ นถปภ.รอ. โดยพรรคการเมืองบางพรรคและกลุ่มพวกซึ่งมีเป้าหมายในการด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์

การใส่ร้ายป้ายสีด้อยค่าหน่วยราชการในพระองค์นั้นทำโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะทำให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังว่าหน่วยราชการทั้ง 3 หน่วยนี้มีบุคลากรจำนวนมากมายและใช้งบประมาณสิ้นเปลืองอีกทั้งกระบวนการในการใช้งบประมาณขาดการตรวจสอบ และไม่มีการของบประมาณอย่างถูกต้องโดยมีการใส่ร้ายว่ามีคำของบประมาณเพียงแค่ 7 หน้าและใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาทีในการขอเงินงบประมาณประจำปีจากกรรมาธิการงบประมาณ 8,700 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับกระทรวงอื่นๆแล้วเอกสารหนากว่านี้มากและใช้เวลายาวนานกว่านี้มาก




สำหรับข้อเท็จจริงมีดังนี้

ประการแรก เอกสารที่หน่วยราชการต่าง ๆ ทำส่งสำนักงบประมาณนั้นจะมีรายละเอียดมากมายเป็นหลายร้อยหน้ามาจากหน่วยราชการในพระองค์ และมีการทำข้อมูลเปรียบเทียบคำของบประมาณสามปีติดต่อกัน

เอกสารนี้ตีลับมาก ส่วนจะทำให้หนา 20,000 หน้าก็ทำได้ มีข้าราชการในหน่วยราชการในพระองค์ หมื่นสี่พันห้าร้อยคน ก็ใส่เงินเดือนค่าจ้าง เงินเพิ่มพิเศษ ประวัติการขึ้นเงินเดือนของทุกคน คนละหน้า ก็หนา 14,500 แล้วครับ

ลิเกพิธาซาเล้งรับซื้อกระดาษ ความหนาไม่ใช่สาระ นี่คือตรรกะลิเกพิธาชาเล้งที่ไร้สาระมากเอาความหนาเป็นหลัก เพราะขายกระดาษเก่าหากินหรืออย่างไร นอกจากนี้คำของบประมาณของหน่วยราชการในพระองค์นั้นมีเป็นร้อย ๆ หน้า แต่เป็นหน้าที่ของสำนักงบประมาณที่จะต้องย่อยสรุปย่อเอกสารดังกล่าวให้เหลือสั้นและนำมาพิมพ์ในหนังสือที่เรียกว่าแดงคาดขาวเพราะเป็นปกสีขาวแต่คาดด้วยแถบสีแดงซึ่งพิมพ์ปกแบบนี้มานานนับ 10 ปี และสามารถดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตได้

ประการสอง ในความเป็นจริงคำของบประมาณเป็นเอกสารตีลับมาก มีความละเอียดอ่อนและไม่สามารถเอามาเปิดเผยทั้งหมดได้ คนที่ไม่รู้จริงชอบจับแพะชนแกะก็เข้าใจว่าสิ่งที่ไม่เปิดเผยนั้นไม่มีอยู่และคิดว่าไม่โปร่งใสไม่สุจริต แต่ในทางกลับกัน หากทราบว่ามูลค่าของงบประมาณแต่ละโครงการนั้นมีเท่าไหร่ก็จะทำให้เกิดการฮั้วประมูลโครงการในการจัดซื้อจัดจ้างได้อย่างง่ายเหลือเกินและข้อมูลต่าง ๆ ก็มีความลับอีกมากซึ่งอาจจะรวมถึงความผิดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเช่นกัน คนบ้องตื้นทางสติปัญญาจะมองว่าเปิดเผยทุกอย่างให้หมดแล้วโปร่งใส แต่การเปิดเผยทั้งหมดในสิ่งที่ไม่ควรเปิดเผยนั่นแหละที่ทำให้เกิดการทุจริตได้โดยง่ายและเป็นการทำผิดกฎหมายด้วย

หากต้องการเห็นรายละเอียด ก็สามารถขอดูได้โดยอาศัย พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ 2535 หากคุณเป็น กรรมาธิการงบประมาณ คุณสามารถขอจากเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณได้ เพราะคุณมีอำนาจหน้าที่ แต่ถ้าคุณไม่มีอำนาจหน้าที่ เขาก็ไม่ให้คุณ นอกจากนี้ยังมีเป็น electronic file เช่น Microsoft word หรือ Excel ด้วย

การจะออกมาตีโพยตีพาย แล้วอนุมานทึกทักเอาเองว่า ของที่มีให้ดาวน์โหลดบนอินเทอร์เน็ตได้เท่านั้น ถึงแปลว่ามีรายละเอียดจริงบนโลกนี้เป็นตรรกะของพวกเกรียนคีย์บอร์ด บนโลกออนไลน์ พวก attacker หรือ hacker บนโลกออนไลน์เท่านั้น หลุดออกมาจากโลกออนไลน์ สู่โลกความเป็นจริงบ้างก็ดีนะครับ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างบนโลกนี้หาได้บนโลกออนไลน์เท่านั้น และของบางอย่างจะขอได้ คุณก็ต้องมีเครดิตที่เขาไว้ใจได้

การที่คุณขอแล้วไม่ได้ หรือการที่ไอ้ตี๋บางคนขอ Excel แล้วไม่ได้มันแปลว่าอะไร มันแปลว่าเขาไม่ไว้ใจพวกคุณ ผมไม่ได้ขอ แต่ผมได้ ลอยมาในเครื่องคอมพิวเตอร์ผมเองเลย ไม่ได้ขอด้วย ก็คิดเอาเองแล้วกันว่ามันต่างกันอย่างไร

เอกสารงบประมาณ ตีตราลับมาก กรอบสีแดงสี่ด้าน แบบนี้มีทุกหน่วยงานราชการ จะขอดูก็ขอได้ ถ้าคุณมีเครดิตพอหรือปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอน

ลิเกพิธาซาเล้งกลับตั้งกฎฟิสิกส์ข้อใหม่ที่ทำให้ไอน์สไตน์และนิวตันถึงกับงง กฎฟิสิกส์ข้อใหม่ดังกล่าวคือ หากสิ่งใดนั้นมีอยู่จริงในจักรวาลสิ่งนั้นจึงต้องสามารถดาวน์โหลดได้ โอ้! ตรรกะซาเล้งเกรียนคีย์บอร์ดโดยแท้

จากเอกสารเล่มหนา ๆ เป็นร้อย ๆ หน้านั้น สำนักงบประมาณมีหน้าที่ย่อสรุป ใส่ในเล่มแดงคาดขาว เล่มแดงคาดขาวนี่แหละครับที่พิมพ์แจก กมธ.งบประมาณ และสามารถดาวน์โหลดได้ ซึ่งคุณเห็นแค่นี้ หรือคุณเห็นมากกว่านี้ แต่มีเจตนาบิดเบือนพูดความจริงครึ่งเดียวและตีความด้อยค่าสถาบันหรือไม่ ผมว่าให้ประชาชนคนที่มีใจเที่ยงธรรมเป็นคนตัดสินดีกว่า

ส่วนตัวผมเอง เคยมี กมธ.งบประมาณ ให้ผมช่วยอ่านเอกสารเหล่านี้ ทั้งเล่มขาวคาดแดง เล่มเต็มที่หน่วยงานส่งคำขอไปยังสำนักงบประมาณ หนาเป็นร้อยเป็นพันหน้า ได้ file excel มาให้ช่วยเคาะตัวเลขวิเคราะห์งบที่ขอและเตรียมร่างให้ท่านผู้ใหญ่ลุกขึ้นอภิปรายงบประมาณในสภา ผมทำมาแล้วทั้งสิ้น ในฐานะการช่วยงานแผ่นดินฟรีๆ ไม่ได้ค่าตอบแทนใด ๆ ไม่ได้เครดิตใด ๆ ด้วย และผมเองก็ไม่ได้ต้องการ

ประการที่สาม งบส่วนราชการในพระองค์ เกือบ 95% เป็นเงินเดือนข้าราชการ ขั้นเงินเดือน อัตราการขึ้นเงินเดือนก็ตามระเบียบของราชการแทบจะเป็นค่าคงที่ จะให้อธิบายอะไรเรื่องที่เหมือน ๆ กันหมดทุกกระทรวงตามระเบียบไปเพื่ออะไร อีกไม่มาก เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ รวม ๆ เรียกว่าค่าสาธารณูปโภค

งบลงทุน นั้นพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงให้ขอ ข้าราชการในส่วนราชการในพระองค์จะใช้อะไรให้มาขอพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์

ข้าราชการในส่วนราชการในพระองค์ คือ สำนักพระราชวัง สำนักองคมนตรี หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ มีรวมประมาณ 14,500 อัตรา หารออกมาเฉลี่ยประมาณเงินเดือน 40,000 บาท อาจจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของข้าราชการหน่วยงานอื่นบ้าง แต่ก็มีที่สูงกว่านี้มาก เช่น ของสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงการต่างประเทศ (ที่ต้องไปปฏิบัติภารกิจในต่างแดน) เพราะในสามหน่วยงานของหน่วยราชการในพระองค์มีผู้หลักผู้ใหญ่และผู้อาวุโสมาก ฐานเงินเดือนท่านเหล่านั้นอาจจะสูงบ้าง แต่ก็ตามระเบียบราชการทั้งสิ้น

เจ้าหน้าที่ พนักงานจ้างด้วยเงินท้ายที่นั่งอันเป็นเงินส่วนพระองค์ ที่นอกเหนือไปจาก 14,500 อัตรา ทรงจ่ายเอง ติดอินทรธนูบนบ่า ททน.

เมื่อไม่ได้ของบฯมาสร้างอะไรหรือใช้อะไรในลักษณะของงบประมาณลงทุน จะให้ชี้แจงอะไร กระบอกเงินเดือน ขั้นเงินเดือน อัตราการขึ้นเงินเดือน ก็ตามระเบียบราชการทั้งสิ้น

แต่คนบางกลุ่มกลับกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีว่า หน่วยราชการในพระองค์ 14,500 คน และ 8,700 ล้านบาท รับใช้ครอบครัวเดียว อันเป็นข้อกล่าวหาที่น่าจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและเกิดความเกลียดชังสถาบันได้นั้นมีข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ก็ต้องกลับมาพิจารณาหน้าที่และภารกิจของหน่วยราชการในพระองค์

หน่วยราชการในพระองค์ทำงานให้คนไทย 67 ล้าน ผ่านงานราชการแผ่นดินและราชการส่วนพระองค์

สิ่งที่กลุ่มบุคคลเหล่านี้พยายามใส่ร้ายป้ายสีหน่วยราชการในพระองค์นั้นว่าใช้งบประมาณเปลืองและมีคนจำนวนมากมายเกินความจำเป็นเพื่อรับใช้ครอบครัวเพียงครอบครัวเดียวเป็นการกระทำเพื่อเปรียบเปรยกระทบกระเทียบไปยังสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรงอันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการในการล้มล้างการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจนและทำกันอย่างเป็นกระบวนการโดยเริ่มจากหัวหน้าพรรคบางคนแล้วก็สมาชิกพรรคที่เป็นสสลุกขึ้นอภิปรายทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและนอกสภาผู้แทนราษฎรอย่างกว้างขวางมีสื่อมวลชนในเครือข่ายของพรรคการเมืองนี้ก็ทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลเผยแพร่ที่ใส่ร้ายป้ายสีเช่นเดียวกัน

คำถามคือการที่กลุ่มการเมืองกลุ่มนี้ใส่ร้ายป้ายสีหน่วยราชการในพระองค์ซึ่งจัดตั้งตามมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 โดยกล่าวว่าหน่วยราชการในพระองค์ทั้ง 3 นั้นทำงานเพื่อครอบครัวครอบครัวเดียวหาได้เป็นความจริงไม่

หน่วยราชการในพระองค์ทั้ง 3 หน่วยงานนั้นต่างมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติแตกต่างกันไปแต่ทั้งหมดทั้งปวงเป็นหน้าที่ที่จะสนองรองบาทราชกิจและพระราชกิจทั้งปวงนั้นแบ่งออกได้เป็นราชการส่วนพระองค์และราชการแผ่นดินซึ่งเราเรียกว่า Royal affair และ Government affair งานของพระราชาคืองานราชการ เพราะคำว่าราชการมาจากคำว่า ราช+การ อันแปลว่างานของพระราชา

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงกรอกในเอกสารและแบบฟอร์มต่างๆ ว่าทั้งสองพระองค์ทรงมีอาชีพทำราชการ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงอธิบายว่า พระองค์ทรงทำราชการคืองานของพระราชา และแล้วผมก็ขอวิเคราะห์ว่าข้าราชการนั้นก็เป็นคนของพระราชาเช่นกันมีหน้าที่ทำงานถวายพระราชาคือราชการแผ่นดินและราชการส่วนพระองค์

แม้ว่าชื่อหน่วยงานจะชื่อว่าหน่วยราชการในพระองค์แต่ในความเป็นจริงหน่วยราชการในพระองค์ทำหน้าที่ทั้งงานราชการแผ่นดินอันเป็นพระราชกิจและงานที่เป็นงานราชการส่วนพระองค์ซึ่งก็เป็นพระราชกิจอีกเช่นกัน


หน่วยราชการในพระองค์ใช้ตราสัญลักษณ์เป็นพระมหามงกุฎผูกแพรแถบทั้งสองข้างภายใต้รัศมี 17 แฉก ภายใต้พระมหามงกุฎมีตราอุณาโลมอันเป็นเครื่องหมายของราชวงศ์จักรีภายใต้ตราอุณาโลมนั้นมีเลข 10 ไทย อันหมายถึงรัชกาลที่ 10 พระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัวเพราะเป็นหน่วยราชการในพระองค์ที่ทำหน้าที่ถวายในหลวงรัชกาลที่ 10

สำนักพระราชวังหรือ (Bureau of the Royal Household) ในปัจจุบันเป็นการผนวกรวมสำนักราชเลขาธิการ (Royal Secretariat Office) เข้ามารวมกับสำนักพระราชวังเดิม และเปลี่ยนชื่อจากสำนักราชเลขาธิการเป็นกรมราชเลขานุการในพระองค์ ทำให้สำนักพระราชวังในปัจจุบันรับผิดชอบทั้งราชการแผ่นดินและราชการส่วนพระองค์ มีภาระหน้าที่กว้างขวางมาก

สำนักงานองคมนตรี (Office of His Majesty Privy Council) มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ ปฏิบัติงานด้านเลขานุการองคมนตรี ในหน้าที่ที่ปรึกษาพระมหากษัตริย์ ทั้งในราชการแผ่นดินและส่วนพระองค์ รวมทั้งหน้าที่องคมนตรีตามที่กฎหมายกำหนด ประสานงานระหว่างพระมหากษัตริย์กับรัฐบาล รัฐสภา ศาล องค์กรเอกชน และประชาชน ในงานที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ขององคมนตรี ดำเนินการเรื่องที่คณะองคมนตรีพิจารณาถวายความเห็นเกี่ยวกับ ร่างกฎหมาย การแต่งตั้ง ฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรมและการขอพระราชทานความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ และงานราชการแผ่นดินที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ตลอดจนดำเนินการเกี่ยวกับโครงการ มูลนิธิ หรือกองทุน ที่ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรีรับผิดชอบ (ที่มา: https://www.royaloffice.th/about-royaloffice/สำนักงานองคมนตรี/อำนาจหน้าที่)


หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ (Royal Security) มีหน้าที่วางแผน อำนวยการ ประสานงาน บังคับบัญชา ควบคุม และกำกับดูแลการปฏิบัติงานในการถวายอารักขา รักษาความปลอดภัย และถวายพระเกียรติองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่ทางพระราชพิธีตามที่ได้รับมอบหมาย และรักษาความสงบเรียบร้อยภายในเขตพระราชฐาน ตลอดจนวางแผน อำนวยการ ประสานงาน ดำเนินการ และกำกับงานในหน้าที่ในองค์พระมหากษัตริย์ และมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยสำหรับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ
(ที่มา: https://www.royaloffice.th/about-royaloffice/หน่วยบัญชาการถวายความป/อำนาจหน้าที่/)

หน่วยราชการในพระองค์ทำหน้าที่ในการถวายงานด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้บัญญัติไว้ว่า

มาตรา ๓ อํานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อํานาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม

ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะองค์พระประมุข (Head of state) และในฐานะองค์รัฎฐาธิปัตย์ (Sovereignty) หมายถึง ผู้ทำให้เกิดกฎหมาย ทรงใช้อำนาจอธิปไตยผ่านสามอำนาจคือนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ

สำหรับอำนาจนิติบัญญัติมีสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยราชการในพระองค์


สำหรับอำนาจบริหารมีสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และกระทรวง/ทบวง/กรม ทั้งหมด นับร้อยหน่วยงานทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยราชการในพระองค์

สำหรับอำนาจตุลาการมีสำนักคณะกรรมการศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ประสานงานหน่วยราชการในพระองค์

โดยมีราชเลขานุการในพระองค์ (ปัจจุบัน-พลอากาศเอกสถิตพงษ์ สุขวิมล) อธิบดีกรมราชเลขานุการในพระองค์ (ปัจจุบัน-ดร.กฤษณ์ กาญจนกุญชร) ประธานองคมนตรี (ปัจจุบัน-พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์) และคณะองคมนตรีเป็นผู้กลั่นกรองพิจารณารวบรวมนำความกราบบังคมทูลพระกรุณา

สำหรับราชการส่วนพระองค์ หน่วยราชการในพระองค์มีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูล/ตรวจสอบและนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ไปตามลำดับขั้นตอน ดังแผนภาพด้านล่างนี้ อันได้แก่การขอพระราชทานพระมหากรุณาในเรื่องต่างๆ เช่นการขอเชิญเสด็จฯ การขอเข้าเฝ้าฯ การขอรับพระราชทานความช่วยเหลือ ซึ่งมาจากทั้งหน่วยราชการ คณะบุคคล/ภาคเอกชน/ประชาชนทั่วไป ตลอดจนองค์กรต่างๆ


เมื่อรวบรวมและนำงานราชการแผ่นดินและราชการในพระองค์มารวมกันแล้วจัดประเภท (classification) พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แบ่งออกเป็นห้าด้านดังแผนภาพด้านล่างนี้

หนึ่ง การบริหารราชการแผ่นดิน/รัฐพิธี ได้แก่ การพระราชทานรัฐธรรมนูญ การตรา/การลงพระปรมาภิไธย/การยับยั้งพระราชบัญญัติ/พระราชกฤษฎีกา การโปรดเกล้าการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น องคมนตรี นายกรัฐมนตรี ตุลาการ อัยการ หัวหน้าองค์กรอิสระ ข้าราชการระดับสูง การถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนการเข้ารับหน้าที่ การเจริญพระราชไมตรีเสด็จเยือนประเทศต่างๆ การแต่งตั้งทูต การพระราชทาน/ถอดถอนฐานันดรศักดิ์/สมณศักดิ์/เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นต้น

สอง พระราชพิธี ได้แก่ ฉัตรมงคล เปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร มาฆบูชา วิสาขบูชา เป็นต้น

สาม งานที่องคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์ ได้แก่ การวางพานพุ่มสักการะและวางพวงมาลา การมอบรางวัลพระราชทาน การทรงมอบหมายให้องคมนตรีปฏิบัติพระราชกิจแทนพระองค์

สี่ งานด้านมูลนิธิ/โครงการ ทั้งที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด จากในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เป็นพระราชดำริเดิมตั้งแต่ยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร และที่ทรงริเริ่มในรัชกาลปัจจุบัน อันได้แก่ จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร ราชฑัณฑ์ปันสุข พัชรสุธาคชานุรักษ์ เป็นต้น

ห้า งานอื่นๆ เช่น พระราชทานปริญญาบัตร พระราชทานกระบี่ ฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรม/ความช่วยเหลือ/พระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งมีเป็นอันมาก และหน่วยราชการในพระองค์ต้องทำหน้าที่รวบรวมข้อมูล เสาะหาข้อเท็จจริง กลั่นกรองวินิจฉัยก่อนนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา


หน่วยราชการในพระองค์ทำหน้าที่ทำงานถวายพระราชกิจทั้งที่เป็นราชการแผ่นดิน และราชการส่วนพระองค์ทั้งหมด มากมาย

การมีจำนวนบุคลากรจำนวน 14,500 คนจึงไม่ได้ถือว่ามาก ทั้งนี้เป็นข้าราชการพลเรือนในพระองค์ราวหกพันตำแหน่ง และเป็นข้าราชการทหาร/ตำรวจ ราวแปดพันตำแหน่ง จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดปกติประการใด ส่วนงบประมาณแผ่นดินประจำปีในลักษณะของเงินอุดหนุน ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ มหาวิทยาลัยทั้งหลายที่ออกนอกระบบไปแล้ว องค์กรมหาชนต่างๆ ก็ได้เงินงบประมาณแผ่นดินในลักษณะเงินอุดหนุนเช่นนี้ นอกจากนี้ในงบประมาณแผ่นดินปี 2565 ที่ขอไปจำนวน 8700 ล้านก็เป็นงบเงินเดือนค่าจ้างไปกว่า 8050 ล้านโดยประมาณ ที่เหลือเล็กน้อยเป็นค่าสาธารณูปโภคเป็นหลัก ซึ่งไม่ได้มากมายอะไร ไม่มีงบลงทุนแต่อย่างใดเลย ในส่วนของงบค่าจ้างเงินต่อต่อหัวก็ไม่ได้มากหากเทียบกับกระทรวงอื่นๆ จึงไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติหรือมีเหตุต้องนำมาโจมตีใส่ร้ายป้ายสีหรือด้อยค่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเปรียบเทียบกับภาระงานราชการแผ่นดินและงานราชการส่วนพระองค์ที่คน 14,500 คน ด้วยเงินเดือนค่าจ้าง 8,050 ล้านบาท ทำงานรับใช้ครอบครัวเดียว คือครอบครัวราชสกุลมหิดล ที่ทรงงานราชการเพื่อคนไทยมาตั้งแต่รัชกาลที่ 8 รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ที่แบกรับพระราชภาระพระเจ้าแผ่นดินอันหนักอึ้ง อุปมาอุปไมยเหมือนพระมหาพิชัยมงกุฎที่มีน้ำหนักเกือบห้ากิโลกรัมที่พระเจ้าแผ่นดินต้องทรงสวมในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า โดยเนื้องานที่ต้องรับผิดชอบนั้นหนักหนาเพียงใด


กำลังโหลดความคิดเห็น