ประยุทธ์ยังไปต่อไหวไหม

แม้เราจะรับรู้กันว่าสถานการณ์โควิดนั้นเกิดขึ้นทั่วโลกหลายประเทศยังมีการระบาดสูงเหมือนกับประเทศไทยและมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สถานการณ์ก็ไม่ได้แตกต่างจากประเทศไทยมากนัก ในขณะที่อินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมากมีคนติดเชื้อวันละ 2-3 หมื่นคน ไม่รู้เหมือนกันว่า ในแต่ละประเทศนั้นถูกตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของผู้นำหรือไม่

แต่สำหรับประเทศไทยนั้น เริ่มมีคำถามว่า เราสามารถฝากความหวังกับรัฐบาลนี้ได้ไหม แน่นอนว่า เสียงเหล่านี้จะมีกลิ่นอายของความขัดแย้งและการฉกฉวยโอกาสทางการเมืองผสมอยู่ แต่คนจำนวนมากไม่น้อยที่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในความขัดแย้งทางการเมืองก็เริ่มตั้งคำถามนี้เช่นกัน

ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้นมีความสามารถมีความเหมาะสมที่จะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ไหม

ต้องยอมรับนะครับว่า สถานการณ์การติดเชื้อ ณ ปัจจุบันนั้น เป็นผลต่อเนื่องมาจากความผิดพลาดในการไม่สกัดการแพร่เชื้อตั้งแต่เกิดคลัสเตอร์ทองหล่อก่อนช่วงสงกรานต์แล้วยังปล่อยให้คนเดินทางไปทั่วประเทศ ซึ่งนับเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมากของรัฐบาล และส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกคนไม่ว่าจะมีจุดยืนทางการเมืองอย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถปฏิเสธความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้เลย

แล้วทอดเวลาจากสงกรานต์จนถึงปัจจุบัน เราไม่เห็นมาตรการอะไรที่ส่งความหวังได้เลยว่า รัฐบาลจะค่อยๆ สามารถจัดการกับการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นให้ค่อยๆลดลงได้ กลายเป็นว่ามีการติดเชื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แบบยังหาทางลงไม่เจอ

สถานการณ์การติดเชื้อไม่ดีขึ้นเลยมีแต่แนวโน้มจะหนักขึ้น ทั้งที่อำนาจไปอยู่ในมือของ single command ในมือของพล.อ.ประยุทธ์แบบเบ็ดเสร็จ แต่เราก็เห็นการทำงานที่ติดขัดแบบระบบราชการปกติในขั้นตอนของการสั่งซื้อวัคซีนที่ถูกตั้งคำถามถึงความล่าช้าในการจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากกว่า

ตั้งคำถามถึงอำนาจรวมศูนย์ที่พยายามกำจัดอุปสรรคในการทำงานรับมือกับภาวะวิกฤตให้หมดไปนั้น สามารถนำพาประชาชนและประเทศออกไปจากวิกฤตได้หรือไม่ หรือแท้แล้วมันติดขัดที่ความตีบตันของศักยภาพผู้นำ

ตัวเลขผู้ป่วยวันนี้ที่เพิ่มขึ้นถึงวันละ 6,000 คนบวกลบนั้น เป็นสถิติที่สูงมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในประเทศ แต่เราก็ไม่เห็นมาตรการและความพยายามจะลดยอดคนป่วยให้น้อยลงจากรัฐบาลเลย เหมือนจะปล่อยให้คนติดเชื้อเพิ่มขึ้นไปจนหมดแล้วค่อยลดลงมาเอง

ตอนนี้ประชาชนกำลังรอคอยความหวังว่ารัฐบาลมีมาตรการอะไรที่จะรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ ไม่ต้องพูดถึงความล่มสลายของคนตัวเล็กตัวน้อย ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบธุรกิจที่กินเวลาต่อเนื่องยาวนานมาเป็นปีว่าจะมีโอกาสฟื้นตัวและอยู่รอดได้อย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้แสดงออกถึงการใช้อำนาจที่รวบไว้ในมือต่อสถานการณ์ที่ไม่ปกติเลย เรายังเห็นระบบราชการยังคงขับเคลื่อนไปเหมือนเดิม มีวันทำงานมีวันหยุดมีวาระการประชุมที่กำหนดไว้ตายตัว ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างและรูปแบบการทำงานให้สอดรับกับสถานการณ์พิเศษที่ต้องลดขั้นตอน และเงื่อนไขที่ทำให้เกิดอุปสรรคและความไม่ลื่นไหลในการทำงานลง ซึ่งเห็นได้จากขั้นตอนการจัดหาวัคซีน

ตอนนี้รัฐบาลยังไม่สามารถทำให้ประชาชนมั่นใจได้เลยว่าประชาชนส่วนใหญ่จะได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็มภายในปีนี้ แม้จะเห็นแล้วว่า การรอคอยวัคซีนที่เราเลือกใช้อย่างแอสตร้าเซนเนก้านั้นมีปัญหาในการผลิต และการจัดส่งที่ไม่ได้ตามเป้าหมาย ไม่สามารถฝากความหวังไว้ได้เลย และรัฐบาลก็ทำได้แค่พยายามจะสั่งวัคซีนซิโนแวคมาทดแทน ในขณะที่วัคซีนนี้ถูกโจมตีเรื่องประสิทธิภาพในการรับมือกับเชื้อที่กลายพันธุ์

ขณะที่รัฐบาลเพิ่งมีมติ ครม.ในการจัดซื้อวัคซีนแบบ mRNA ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี่เอง

เข้าใจครับว่าวัคซีนส่วนใหญ่นั้นถูกจับจองโดยประเทศยักษ์ใหญ่ไม่กี่ประเทศ สหภาพยุโรปและอีก 5 ประเทศ คือ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร บราซิล และแคนาดา ประเทศเหล่านี้ครอบครองวัคซีนเกินกว่า 90% ของทั้งหมดไว้ในมือ เราต้องไปต่อคิวเพราะการสั่งซื้อที่ล่าช้า แต่รัฐบาลก็ต้องสื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจถึงปัญหาและอุปสรรค และแสดงออกให้เห็นถึงความพยายามมากกว่าจะปล่อยให้เกิดความอึมครึมจนประชาชนเหมือนถูกทอดทิ้งอย่างไร้ชะตากรรม

จริงอยู่ความเชื่อเรื่องวัคซีนเป็นเรื่องนานาจิตตัง คนสิงคโปร์ที่รัฐบาลจัดหาวัคซีนแบบ mRNA ให้ก็อยากฉีดวัคซีนเชื้อตายแบบซิโนแวค หรือแม้แต่ผมเองก็มั่นใจเรื่องความปลอดภัยวัคซีนเชื้อตายมากกว่า แต่รัฐบาลไม่สามารถปฏิเสธถึงการจัดหาวัคซีนที่หลากหลายเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้

หรือแม้ว่ารัฐบาลอาจจะดำเนินการอยู่แต่การสื่อสารกับประชาชนของรัฐบาลนั้นมีปัญหามาก นอกจากนายกรัฐมนตรีไม่ค่อยจะออกมาพูดกับประชาชนแบบเป็นทางการให้มากกว่าภาวะปกติแล้ว เครื่องมือสื่อสารรอบตัวของรัฐบาลก็ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรด้วย

ในขณะที่มีหลายคนบอกว่าถึงนายกรัฐมนตรีจะออกมาสื่อสารกับประชาชน ก็ไม่ช่วยอะไรให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะนายกรัฐมนตรีมีปัญหาเรื่องทักษะในการสื่อสาร แต่ถามว่า ไม่มีวิธีการสื่อสารที่ดีหรือหาใครที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นเพื่อสื่อสารกับประชาชนในแต่ละสถานการณ์ได้เลยหรือ

หาคนที่มีความสามารถออกมาสื่อสารกับประชาชนหน่อยสิครับว่า รัฐบาลจะพาประชาชนออกจากสถานการณ์ที่รุนแรงนี้ได้อย่างไร มีแนวทางไหนที่เป็นความหวังบ้าง รัฐบาลจะทำอย่างไรให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตที่แม้จะไม่ปกติแต่จะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้อย่างไร จะนำทางออกเพื่อช่วยประชาชนที่กำลังล่มสลายจะประกอบอาชีพและภาวะเศรษฐกิจที่ดิ่งเหวได้อย่างไร

ณ วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ต้องถามตัวเองนะครับว่าไหวไหม จะทำอย่างไรให้ประชาชนเกิดความหวังได้ไหม จะลดการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างไร หรือกำลังปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติมากกว่าจะหาทางยับยั้ง เพราะรัฐบาลไม่มีปัญญาที่จะรับมือกับมันอีกแล้ว หรือว่าตอนนี้รัฐบาลกำลังทำงานหนักทำเต็มความสามารถแล้ว หรือมีมาตรการอะไรออกมาแล้วบ้างที่ทำให้เชื่อว่าจะสามารถรับมือได้ เพราะสิ่งที่เห็นรัฐบาลทำอยู่นี้นั้นไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นมาเลย

ต้องตั้งคำถามนะว่าวันนี้อำนาจ single command ซึ่งอยู่ในมือของพล.อ.ประยุทธ์นั้นถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ หรือระบบมีประสิทธิภาพแต่คนใช้ไม่มีประสิทธิภาพ มีข้อจำกัดในความรู้ความสามารถ หรือมีความรู้ความสามารถในการใช้คนที่มีความรู้มาทำงานเพื่อช่วยกันหรือไม่ หรือองคาพยพของ ศบค.ในวันนี้นั้นมีคนที่เหมาะสมและมีความรู้ที่จะทำงานกับสถานการณ์แบบนี้หรือไม่

เพราะต้องยอมรับว่า นับตั้งแต่การติดเชื้อระลอกนี้เมื่อเดือนเมษายนเป็นต้นมาผ่านมากว่า 3 เดือนแล้วมีแต่สถานการณ์ที่แย่ลง ไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นเลย

เสียงเรียกร้องจากประชาชนกลุ่มหนึ่งที่มีเป้าหมายทางการเมืองพยายามเรียกร้องให้เปลี่ยนม้ากลางศึกเพราะหวังผลทางการเมืองก็จริง แต่ด้านหนึ่งต้องยอมรับถึงประสิทธิภาพที่เคลือบแคลงว่าจะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้หรือไม่ของรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นผู้นำด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ออกมาบอกประชาชนเถอะครับว่าไหวไหม หรือสื่อสารให้เชื่อมั่นหน่อยว่าจะพาชาติออกจากวิกฤตครั้งนี้อย่างไร

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan