ผู้จัดการรายวัน360- ป.ป.ช. มีมติแต่งตั้ง 9 กรรมการ เป็นองค์คณะไต่สวน ผู้ถูกกล่าวหา 15 ราย กรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี "บอส อยู่วิทยา" ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ทั้ง บิ๊กตร.-อัยการ-พงส. ด้านอดีตรองโฆษก ปชป. ชี้ ข่าวดี วอนปิดสำนวนภายในปีนี้ หวังฟื้นศรัทธา ปชช. หลังกระบวนการยุติธรรมสั่นคลอน เพราะพวกนอกรีต แนะล้างบางเอาปลาเน่าออกจากเข่ง
วานนี้ ( 6 ก.ค.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ในฐานะโฆษกป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบ กรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ ได้พิจารณาข้อมูลในคดีดังกล่าว แล้ว เห็นว่าเบื้องต้นมีมูลที่จะสั่งไต่สวนได้ จึงได้มีมติให้กรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน เป็นองค์คณะไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดจำนวน 15 ราย ประกอบด้วย พนักงานสอบสวน ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทั้งที่เกษียณไปแล้วและที่ยังรับราชการอยู่ พนักงานอัยการ รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ตามกรอบ พ.ร.บ. ป.ป.ช. ในมาตรา 48 ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะต้องไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และขยายเวลาได้ 1 ปี ซึ่งตามขั้นตอนหลังจากตั้งองค์คณะไต่สวนแล้ว องค์คณะไต่สวนจะเริ่มดำเนินการไต่สวน หากมีมูลเพียงพอจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จากนั้นจะสรุปสำนวนเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ให้พิจารณาชี้มูลความผิดต่อไป
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้กำชับให้เร่งรัดการดำเนินการภายใต้กรอบเวลาที่กำหนด หรือรวดเร็วกว่ากำหนดก็เป็นได้ เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จึงให้กรรมการป.ป.ช.ทั้ง 9 คน มาเป็นองค์คณะไต่สวนด้วยตัวเอง
"เชาว์" หนุนล้างบางปลาเน่าฟื้นศรัทธา ปชช.
ด้านนายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง “รีบปิดคดีค้าสำนวน บอส อยู่วิทยา ฟื้นความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมตั้งต้น” มีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า นับเป็นข่าวดีที่ ป.ป.ช.มีมติให้กรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน เป็นองค์คณะไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดจำนวน 15 ราย กรณีค้าสำนวน คดีบอส อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต มีผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งผมคิดว่าต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้ล่าช้ามามากแล้ว นับจากวันที่คณะกรรมการชุดนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานสรุปผล ก็เกือบหนึ่งปีแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นจะเอาผิดขบวนการสมยอมคดีได้แม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรืออัยการนอกรีต แม้ว่าตามกรอบ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 48 วางกรอบเวลา คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะต้องไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และขยายเวลาได้ 1 ปี แต่เรื่องนี้ไม่ใช่กรณีที่ต้องนับหนึ่งใหม่ เพราะมีฐานข้อมูล พยานหลักฐาน ที่สอบไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ของคณะกรรมการชุดนายวิชาอยู่แล้ว อีกทั้งสองหน่วยงานคือ ทั้งตำรวจและอัยการก็มีการสอบสวนภายในด้วย จึงควรขมวดรวมทั้งหมดจบที่ ป.ป.ช.ไปในคราวเดียว
“ผมหวังว่า จะได้เห็นการดำเนินคดียกก๊วนแบบไม่เห็นแก่หน้าอินหน้าพรหม ป.ป.ช.ต้องสรุปสำนวนให้ได้ภายในปีนี้ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นให้กับระบบยุติธรรมตั้งต้นของไทย คนทำผิดต้องถูกลงโทษ นี่เป็นโอกาสล้างบางพวกนอกแถว และเป็นบทเรียนสำคัญที่ต้องลงโทษให้หนักเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ที่จะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อกระบวนการยุติธรรมไทยอีก”
วานนี้ ( 6 ก.ค.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ในฐานะโฆษกป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบ กรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ ได้พิจารณาข้อมูลในคดีดังกล่าว แล้ว เห็นว่าเบื้องต้นมีมูลที่จะสั่งไต่สวนได้ จึงได้มีมติให้กรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน เป็นองค์คณะไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดจำนวน 15 ราย ประกอบด้วย พนักงานสอบสวน ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทั้งที่เกษียณไปแล้วและที่ยังรับราชการอยู่ พนักงานอัยการ รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ตามกรอบ พ.ร.บ. ป.ป.ช. ในมาตรา 48 ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะต้องไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และขยายเวลาได้ 1 ปี ซึ่งตามขั้นตอนหลังจากตั้งองค์คณะไต่สวนแล้ว องค์คณะไต่สวนจะเริ่มดำเนินการไต่สวน หากมีมูลเพียงพอจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จากนั้นจะสรุปสำนวนเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ให้พิจารณาชี้มูลความผิดต่อไป
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้กำชับให้เร่งรัดการดำเนินการภายใต้กรอบเวลาที่กำหนด หรือรวดเร็วกว่ากำหนดก็เป็นได้ เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จึงให้กรรมการป.ป.ช.ทั้ง 9 คน มาเป็นองค์คณะไต่สวนด้วยตัวเอง
"เชาว์" หนุนล้างบางปลาเน่าฟื้นศรัทธา ปชช.
ด้านนายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง “รีบปิดคดีค้าสำนวน บอส อยู่วิทยา ฟื้นความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมตั้งต้น” มีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า นับเป็นข่าวดีที่ ป.ป.ช.มีมติให้กรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน เป็นองค์คณะไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดจำนวน 15 ราย กรณีค้าสำนวน คดีบอส อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต มีผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งผมคิดว่าต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้ล่าช้ามามากแล้ว นับจากวันที่คณะกรรมการชุดนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานสรุปผล ก็เกือบหนึ่งปีแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นจะเอาผิดขบวนการสมยอมคดีได้แม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรืออัยการนอกรีต แม้ว่าตามกรอบ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 48 วางกรอบเวลา คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะต้องไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และขยายเวลาได้ 1 ปี แต่เรื่องนี้ไม่ใช่กรณีที่ต้องนับหนึ่งใหม่ เพราะมีฐานข้อมูล พยานหลักฐาน ที่สอบไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ของคณะกรรมการชุดนายวิชาอยู่แล้ว อีกทั้งสองหน่วยงานคือ ทั้งตำรวจและอัยการก็มีการสอบสวนภายในด้วย จึงควรขมวดรวมทั้งหมดจบที่ ป.ป.ช.ไปในคราวเดียว
“ผมหวังว่า จะได้เห็นการดำเนินคดียกก๊วนแบบไม่เห็นแก่หน้าอินหน้าพรหม ป.ป.ช.ต้องสรุปสำนวนให้ได้ภายในปีนี้ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นให้กับระบบยุติธรรมตั้งต้นของไทย คนทำผิดต้องถูกลงโทษ นี่เป็นโอกาสล้างบางพวกนอกแถว และเป็นบทเรียนสำคัญที่ต้องลงโทษให้หนักเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ที่จะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อกระบวนการยุติธรรมไทยอีก”
