“ดีอีเอส” เตรียมออกร่างประกาศกระทรวง แก้ปัญหาข้อมูลเท็จทะลักโซเชียล เกณฑ์เก็บ Log files หนุน พ.ร.บ.คอมพ์ฯให้ทันยุค “ทนายนายกฯ” แจ้งความ สน.นางเลิ้ง เอาผิด “สมศักดิ์ เจียมฯ-อมรัตน์ ก้าวไกล” มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปมโพสต์ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์
วานนี้ (20 พ.ค.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ครั้งที่ 1/2564 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานด้านการปรับปรุงกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อปรับปรุงประกาศกระทรวงฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่ใช้บังคับมานานเพื่อให้ทันสมัย สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่เป็นสากล และสามารถพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานทั้งในโซเชียลมีเดีย และดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ โดยจะร่างประกาศกระทรวงฯ เรื่องหลักเกณฑ์การจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log Files) ของผู้ให้บริการ พ.ศ. .... และแนวทางการกำกับดูแลและการลงทะเบียนผู้ใช้งานโซเชียลเน็คเวิร์ค โดยดูจากแนวทางของต่างประเทศเป็นต้นแบบ
“คณะทำงานอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างประกาศกระทรวงฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.นี้ และจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องต่อไป” นายชัยวุฒิ กล่าว
ขณะที่ น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดีอีเอส กล่าวเสริมว่า แนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ในวันนี้มีความพร้อมและจะเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาข่าวปลอม โดยจะมีการแต่งตั้ง โฆษกกระทรวงและส่วนราชการ ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอมฯ เพื่อประสานและดำเนินการตอบโต้ข่าวปลอมให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว โดยมีแนวทางให้ทุกกระทรวง จัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมของกระทรวงขึ้นโดยด่วน เพื่อประสานการปฏิบัติกับคณะกรรมการประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอมฯ กับกระทรวงดีอีเอสอย่างใกล้ชิด
อีกด้าน นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (คตส.) ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเกี่ยวกับข่าวลือ เมื่อวันที่ 12 พ.ค.64 และ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่โพสต์ข้อความสอดรับกับข้อความของนายสมศักดิ์ เมื่อวันที่ 13 พ.ค.64 ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
“ข้อความของ นายสมศักดิ์ สร้างความเสื่อมเสียต่อองค์พระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์ และข้อความที่นางอมรัตน์โพสต์ แม้มิได้ระบุถึงข่าวลืออย่างชัดแจ้ง แต่เมื่อดูภาพรวมดังกล่าว เป็นข่าวลือที่เป็นเท็จเกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์จึงแปลเจตนาของอมรัตน์ โดยมุ่งหมายถึงองค์พระมหากษัตริย์โดยใช้ข้อความเป็นการดูหมิ่น เปรียบเปรยเสียดสี ให้ระคายเคือง เบื้องพระยุคลบาท” นายอภิวัฒน์ ระบุ
วานนี้ (20 พ.ค.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ครั้งที่ 1/2564 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานด้านการปรับปรุงกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อปรับปรุงประกาศกระทรวงฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่ใช้บังคับมานานเพื่อให้ทันสมัย สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่เป็นสากล และสามารถพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานทั้งในโซเชียลมีเดีย และดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ โดยจะร่างประกาศกระทรวงฯ เรื่องหลักเกณฑ์การจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log Files) ของผู้ให้บริการ พ.ศ. .... และแนวทางการกำกับดูแลและการลงทะเบียนผู้ใช้งานโซเชียลเน็คเวิร์ค โดยดูจากแนวทางของต่างประเทศเป็นต้นแบบ
“คณะทำงานอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างประกาศกระทรวงฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.นี้ และจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องต่อไป” นายชัยวุฒิ กล่าว
ขณะที่ น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดีอีเอส กล่าวเสริมว่า แนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ในวันนี้มีความพร้อมและจะเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาข่าวปลอม โดยจะมีการแต่งตั้ง โฆษกกระทรวงและส่วนราชการ ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอมฯ เพื่อประสานและดำเนินการตอบโต้ข่าวปลอมให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว โดยมีแนวทางให้ทุกกระทรวง จัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมของกระทรวงขึ้นโดยด่วน เพื่อประสานการปฏิบัติกับคณะกรรมการประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอมฯ กับกระทรวงดีอีเอสอย่างใกล้ชิด
อีกด้าน นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (คตส.) ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเกี่ยวกับข่าวลือ เมื่อวันที่ 12 พ.ค.64 และ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่โพสต์ข้อความสอดรับกับข้อความของนายสมศักดิ์ เมื่อวันที่ 13 พ.ค.64 ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
“ข้อความของ นายสมศักดิ์ สร้างความเสื่อมเสียต่อองค์พระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์ และข้อความที่นางอมรัตน์โพสต์ แม้มิได้ระบุถึงข่าวลืออย่างชัดแจ้ง แต่เมื่อดูภาพรวมดังกล่าว เป็นข่าวลือที่เป็นเท็จเกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์จึงแปลเจตนาของอมรัตน์ โดยมุ่งหมายถึงองค์พระมหากษัตริย์โดยใช้ข้อความเป็นการดูหมิ่น เปรียบเปรยเสียดสี ให้ระคายเคือง เบื้องพระยุคลบาท” นายอภิวัฒน์ ระบุ
