ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
เขียนในนามส่วนตัว ไม่ได้เขียนในนาม
สาขาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชา Business analytics and intelligence
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
มีความเข้าใจผิดเรื่องวัคซีนโควิด-19 ในสังคมไทยมากมาย จำนวนหนึ่งเกิดจากนักการเมืองเลวๆ บางกลุ่ม พยายามทำให้ประชาชนสับสนไขว้เขว แต่ลัดคิวประชาชน รีบไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่พวกตนเองโจมตีอย่างหนักก่อนประชาชน ช่างย้อนแย้งเหลือเกิน
ความเข้าใจผิดมีดังนี้
ความเข้าใจผิดที่หนึ่ง คนเข้าใจผิดและมีคนพยายามทำให้เข้าใจผิดว่า ประสิทธิภาพวัคซีนโควิดไม่ดีเลย เพราะป้องกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
ความจริงที่หนึ่ง วัคซีนโรคที่เกิดจากไวรัส ไม่มีทางป้องกันได้ 100% วัคซีนไข้หวัดใหญ่บางปีป้องกันได้ประสิทธิภาพแค่ร้อยละ 25
ความเข้าใจผิดที่สอง ประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด 19 วัดได้จากการป้องกันการติดเชื้อ
ความจริงที่สอง การวัดประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด19 ไม่ได้วัดจากการป้องกันการติดเชื้ออย่างเดียว แต่ที่สำคัญมากคือการลดอัตราการเข้าโรงพยาบาล (Hospitalization rate) และการลดอัตราการเป็นคนไข้ในหน่วยผู้ป่วยวิกฤติ (ICU rate) ตลอดจนอัตราการเสียชีวิต (Mortality rate) หากวัคซีนทำสามอย่างหลังคือทำให้ไม่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล ลดอัตราการเข้า ICU และลดอัตราการตายลงไปได้ ก็ถือว่าดีมาก และมีประสิทธิภาพสูงมาก วัคซีนแทบทุกยี่ห้อจากทุกประเทศมีประสิทธิภาพเกือบ 100% จากการป้องกันการเข้าโรงพยาบาล การเข้าไอซียู และการตาย ดังนั้นวัคซีนจึงจำเป็นมาก
ความเข้าใจผิดที่สาม การฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ทำให้ป้องกันการติดโรคได้ 100%
ความจริงที่สาม การฉีดวัคซีนโควิด-19 ป้องกันการป่วยเข้าโรงพยาบาล ป้องกันการป่วยหนักเข้าไอซียู ป้องกันการตาย ทำให้บรรเทาปัญหา capacity ของโรงพยาบาลไม่พอ เช่น เครื่องช่วยหายใจไม่พอ เตียงโรงพยาบาลไม่พอและที่สำคัญ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ไม่เพียงพอได้อย่างดียิ่ง แต่การป้องกัน เช่น กินร้อน ช้อนกู ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ยังไงก็ยังจำเป็นและต้องทำเสมอ
ความเข้าใจผิดที่สี่ วัคซีนไม่พอในเวลานี้ รัฐบาลต้องให้เอกชนนำเข้ามาให้ฉีด รัฐบาลไม่ช่วยเอกชนให้นำเข้ามา
ความจริงที่สี่ วัคซีนโควิด-19 เวลานี้เป็นของจำเป็นขาดแคลนทั่วโลก และเป็นสินค้าควบคุม ไม่สามารถส่งออกได้ หากรัฐบาลประเทศนั้นๆ ไม่ยอมให้ส่งออก เป็นตลาดผู้ขาย ไม่มีบริษัทไหนยอมขายให้เอกชน ต้องเป็นรัฐต่อรัฐ หรือ G to G เท่านั้น ที่พูดๆ กัน ไม่มีเอกชนรายไหนหาซื้อมาได้เลยแม้แต่รายเดียว และแทบจะเป็นเช่นนี้ทั่วโลก เลยไม่ทราบว่าจะพูดกันไปทำไม ของขาดแคลนแสนสาหัส ทุกรัฐบาลก็ควบคุมหมด
สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือเดินหน้าเจรจาขอซื้อแบบรัฐต่อรัฐ นายกรัฐมนตรีต้องต่อสายหาประธานาธิบดี หรือประมุขของแต่ละประเทศที่ผลิตวัคซีนโควิด-19ได้ ถึงจะได้มา ต้องอาศัยความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ (หลายๆ ประเทศ) เท่านั้น ถึงจะรอดได้
ความเข้าใจผิดที่ห้า วัคซีนโควิด-19 มีอันตรายมี adverse event สูงมาก และไม่คุ้มที่จะเสี่ยง
ความจริงที่ห้า adverse event จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของหลายยี่ห้อถือว่าต่ำมาก ต่ำกว่าการเดินออกจากบ้านไปนั่งรถบนถนนแล้วจะโดนรถชนตายของคนไทย ยกตัวอย่างเช่น Sinovac ฉีดไปแล้ว 800 ล้านคน มี adverse event ต่ำมาก แม้กระทั่งยี่ห้ออื่นๆ ก็เช่นกัน บางยี่ห้อ มีการค้นพบว่าทำให้หลอดเลือดอุดตัน แต่ในชาติตะวันตก เรื่องหลอดเลือดอุดตันมีชุกมากอยุ่แล้วแม้ไม่ฉีดวัคซีนก็ตาม ในมุมมองของการบริหารความเสี่ยง การฉีดวัคซีนเป็นความเสี่ยงที่คุ้มที่จะเสี่ยง มากกว่าการติดโควิด-19 แล้วป่วยหนัก
ขอให้ลองคิดกันดูนะครับ
อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แล้วเราจะชนะไปด้วยกันครับ