xs
xsm
sm
md
lg

ว่าด้วยตัวเลขเศรษฐกิจกับเชื้อโควิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


จิตา โกปินาถ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ
ขนาด “หมอ” ที่ชื่อเรียกลำบากอยู่สักหน่อยของบ้านเรา... “หมอ---ยง” นายแพทย์ “ยง ภู่วรวรรณ” ราชบัณฑิตและหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ท่านออกมาเตือนๆ เอาไว้แต่แรก ว่าให้หันไปใช้ “ไม้เขี่ย” กันแทนที่ ในช่วงที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดเพิ่งเริ่มๆ เมื่อปีที่แล้ว หรือขณะเมื่อเจอกับคำถามว่าการนุงนังนัวเนียระหว่างมีเพศสัมพันธ์จะก่อให้เกิดการ “ติดเชื้อ” ได้หรือไม่... 

แต่ก็อย่างว่า...จะเป็นรัฐมนตรี-ไม่รัฐมนตรี นักการเมือง-ไม่การเมือง หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่ ดันไปหมุบๆ หมับๆ หนุบๆ หนับๆ เขาจับ-เขาจี๋ หรือดันไปเสียบหล่นๆ ตั้ง 5-6 ที หรือไม่ ประการใด ก็มิอาจคาดคะเนได้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ณ แหล่งแพร่เชื้อซอยทองหล่อ มันเลยถึงได้ “ซูเปอร์สเปรด” ทั้งแพร่เชื้อ ติดเชื้อกันแบบงอมๆ แงมๆ ชนิดแค่ไม่ใช่ต้อง “กักตัว” กันในคณะรัฐมนตรีแทบทั้งคณะ นักการเมืองอีกไม่รู้กี่สิบ-กี่ร้อยในรัฐสภา แต่ยังแทบมิอาจเปิดเผย “ไทม์ไลน์” ให้เป็นที่รับรู้ รับทราบ ได้ง่ายๆ เพราะไม่ใช่แต่เฉพาะ “หมอ” เท่านั้นที่อยากรู้ แต่ระดับ “เมีย” นี่สิ!!! ออกจะน่ากลัวยิ่งกว่า จนอาจต้องมิดๆ เม้มๆ ปิดๆ บังๆ กันไปตามสภาพ... 

เอาเป็นว่า...ช่วงวันสุดสัปดาห์เบาๆ แบบนี้ จะไปหยิบเอาเรื่องคุณพี่จีน คุณน้ารัสเซีย กำลังขยับมือ-ขยับตีนกันในระดับโลกมาว่ากันต่อจากวันวานที่แล้ว มันอาจหนักหัว หนักสมอง เกินไปซะหน่อย และอาจไม่ถึงกับสอดคล้องกับบรรยากาศในบ้านเรา ที่ผู้คนชักเริ่มกลับมา “หูแหก-ตาแหก” กันอีกรอบ อันเนื่องมาจาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษ ที่ซูเปอร์สเปรดแถวๆ ร้าน “คริสตัล” ทองหล่อ อันเป็นแหล่งชุมนุมรัฐมนตรี นักการเมือง ผู้คนรวยๆ หรือบรรดา “นักเที่ยว” ในแวดวงชั้นสูง ที่ทำให้ตัวเลข “ผู้ติดเชื้อ” ในเมืองไทย พุ่งพรวดๆ พราดๆ ถึงหลักร้อย หลัก 3 ตัว หรือ 300 กว่าๆ น่าจะเป็นอะไรที่เหมาะกว่า หรือน่าสนใจกว่าเรื่องอื่นๆ... 

เพราะอย่างที่คุณน้า “สุนันท์ ศรีจันทรา” ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้นที่บริโภค “น้ำตาล” เป็นอาหารหลัก อาหารว่าง แม้ว่าหลังๆ นี้จะเริ่ม “ดุน้อย” กว่าแต่ก่อน จะเพราะด้วยอายุ-อานาม หรือด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ ท่านเขียนบรรยายเอาไว้ในคอลัมน์ “ชุมชนหุ้น” ของเว็บไซต์ “ผู้จัดการ” เมื่อวันวาน ว่าการซูเปอร์สเปรดในระดับหลักร้อย หลักสามร้อย คราวนี้ของบ้านเรา ถึงกับมีผลให้ “ตลาดหุ้น” ที่ทำท่าว่าน่าจะผงาดกลับไปได้ถึง 1,600-1,650 จุด ชนิดใกล้ๆ ถึง 1,700 อีกไม่นาน-ไม่ช้า ดันตกจากหอคอย่น หรืออาจร่วงลงไปเหลือแค่ 1,500-1,550 เอาเลยก็ไม่แน่!!! เพราะบรรดา “ชาวหุ้น” ที่หันไปรับประทานเหล้าอยู่ภายในบ้าน แล้ววานให้ “เมีย” เต้นโคโยตี้ แทนพริตตี้ หรือแทนอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ตามคำชี้แนะ ชี้นำ ของปรมาจารย์ทางด้าน “อ่าง” “คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” อะไรประมาณนั้น แม้ไม่ถึงกับติดเชื้อ ไม่ถึงกับต้องกักตัวอยู่ภายในบ้านแต่ในแง่ของการซื้อหุ้น-ขายหุ้น หรือในแง่ของ “จิตวิทยาการตลาด” แล้ว มันอาจถึงขั้น “สะดุ้ง” หรือ “ผงะ” อยู่พอสมควร กับข่าวคราวการแพร่เชื้อ ติดเชื้อ ทำนองนี้... 

แต่ก็นั่นแหละ...สิ่งที่อาจต้องหยิบมาตั้งข้อสังเกต หยิบมาใคร่ครวญหวนคิดอยู่บ้าง ก็น่าจะเป็นเรื่องราวเอกสารการรายงานของหัวหน้าคณะเศรษฐกิจ “IMF” “คุณจิตา โกปินาถ” (Gita Gopinath) ที่เพิ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อช่วงวันอังคาร (6 เม.ย.) ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า...เขาคงไม่ถึงกับรู้สึก รู้สาต่อการแพร่ การระบาดของเชื้อโควิดไม่ว่าในระดับโลก หรือในประเทศต่างๆ มากมายสักเท่าไหร่ แม้ว่าจะยังคงหัวไม่ตก หรือยังอภิมหาซูเปอร์สเปรด อย่างชนิดหนักหน่วงรุนแรง ในแทบทุกๆ ประเทศเอาเลยก็ว่าได้ หรือเป็นเอกสาร รายงาน ที่น่าจะมีพื้นฐาน มุมมอง มาจากความมั่นอก มั่นใจ ในเรื่อง “วัคซีน” นั่นแหละทั่น เลยทำให้เกิด “ความเชื่อ” ที่ว่า แนวโน้มของ “เศรษฐกิจโลก” นับจากนี้ น่าจะกลับมาโตๆ กันได้แล้ว ไม่ถึงกับตกจากหอคอย่นแบบ “หุ้นไทย” ที่คุณน้า “สุนันท์ ศรีจันทรา” แจ้งข่าวเอาไว้เมื่อวานนี้... 

คือถึงกับเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะกลับมาโตได้ถึง 6 เปอร์เซ็นต์เอาเลยถึงขั้นนั้น...หรือเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดนับจากปี ค.ศ. 1976 โน่นเลย ทั้งๆ ที่เมื่อปีที่แล้วอะไรต่อมิอะไรมันยังมุดอยู่ใต้บาดาล หรือยัง “ติดลบ” ไปถึง 3.3 เปอร์เซ็นต์เอาเลยถึงขั้นนั้น ซึ่งอันนี้นี่แหละ...มันจะเป็นข่าวดี น่าซู๊ดๆ ซ๊าดๆ น่าสดชื่นเหมือนยืนอยู่บนเนินเขาถึงขั้นไหนต่อขั้นไหนก็แล้วแต่ แต่คงต้องเก็บมาคิดๆ มาใคร่ครวญ มาคำนวณ เอาไว้มั่ง เพราะตัวเลขเศรษฐกิจของ “คุณจิตา โกปินาถ” เธอออกจะสวยสดออกจะ “ได้หมดถ้าสดชื่น” อย่างเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น “เศรษฐกิจอเมริกา” ที่ว่ากันว่าจะกลับไปโตได้ถึง 6.4 กันโน่นเลย ส่วน “เศรษฐกิจจีน” ที่มาแรงแซงโค้งกันโดยตลอด อาจขึ้นไปถึง 8.4 ได้สบายๆ ส่วน “เศรษฐกิจยูโรโซน” ที่เคยเละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊ก เป็นเต้าหูตกโต๊ะมาจนชินซะแล้ว หัวหน้าเศรษฐศาสตร์ “IMF” รายนี้ ท่านให้ค่าว่าอาจโตได้ถึง 4.4 เปอร์เซ็นต์ ไปจนแม้แต่เศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ หรือ “ตลาดใหม่” ที่เคยคาดๆ เอาไว้ว่าไม่น่าจะโตเกิน 6.7 ท่านกลับให้ค่าว่าอาจโตได้ถึง 7.1 เปอร์เซ็นต์เอาเลยถึงขั้นนั้น.... 

อันนี้...ต้องถือเป็นมุมมองที่น่าดีใจ น่าสบายใจ อยู่พอสมควรทีเดียว และคงต้องอาศัยตัวเลข หลักวิชา หลักเศรษฐศาสตร์มาเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วยมิใช่น้อย แม้ว่าบรรดา “นักเศรษฐศาสตร์” โดยทั่วไป อาจถูกให้คำนิยามเอาไว้ก่อนหน้านั้นประมาณว่า คือ “ผู้ที่ทำหน้าที่ทำนาย คาดการณ์ ตัวเลขเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า และใช้เวลาอีก 6 เดือนที่เหลือในการอธิบายว่าเหตุใดตัวเลขต่างๆ จึงไม่เป็นไปตามคำทำนาย”อะไรทำนองนั้น แต่ก็นั่นแหละ...ยังไงๆ คงต้องเชื่อๆ เอาไว้ก่อนเพราะมันอาจพอช่วยให้ “จิตวิทยาการตลาด” ยังคงมีเรี่ยว มีแรง มีพละกำลังต่อไปได้บ้าง แม้ว่าตัวเลขผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ จากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มันยังเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสอยู่พอสมควร ชนิดถึงแม้จะมี “วัคซีน” ออกมาแล้ว ไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัว ฉีดไปแล้ว-ตายไปแล้ว ลิ่มเลือดไม่มาหล่อเลี้ยงหัวใจไปแล้ว หลายต่อหลายศพด้วยกันก็ตาม... 

คือถึงแม้ประเทศมหาอำนาจระดับโลก อย่างคุณพ่ออเมริกาท่านจะเก็บกักวัคซีน เอาไว้ฉีดผู้คนพลเมืองของท่าน ชนิดไม่คิดจะจำหน่ายจ่ายแจกให้แก่ประเทศอื่นๆ กันมั่งเลย แต่โดยตัวเลขการติดเชื้อ แพร่เชื้อ ในอเมริกาแต่ละวัน ก็ยังปาเข้าไปวันละ 5 หมื่น 6 หมื่นเป็นอย่างน้อย มากกว่า 300 กว่าๆ ของบ้านเราไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า บราซิลที่ติดเชื้อมาเป็นอันดับสอง ติดซะจนรัฐมนตรี ผู้นำทางทหารลาออก ใกล้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเต็มที แม้มีทั้งวัคซีนค่ายจีน ค่ายรัสเซีย และค่ายอเมริกา-ยุโรป รองรับเอาไว้หมด แต่ตัวเลขการติดเชื้อระดับวันละ 3 หมื่น 4 หมื่น ก็ยังเป็นอะไรที่น่ากลัว น่าสยดสยอง ไม่น้อยไปกว่ากันมากมายสักเท่าไหร่ ส่วนอินตะระเดียที่มาเป็นอันดับสาม และเป็นที่หวัง ที่คาด ของพวก “พันธมิตรต่อต้านจีน” หรือพวก “Quad” ทั้งหลาย ในการผลิตวัคซีนแจกจ่ายให้กับใครต่อใครในย่านนี้ เอาไป-เอามาแล้ว ยังคงติดเชื้อวันละ 96,000-100,000 รายเป็นอย่างน้อย...ฯลฯ ฯลฯ... 

อันนี้นี่แหละ...ที่เลยทำให้ “ตัวเลขเศรษฐกิจ” ตามเอกสารรายงานของ “IMF” หรือของ “คุณจิตา โกปินาถ” จึงเป็นอะไรที่คงต้อง “ฟังหู-ไว้หู” อย่าถึงกับต้อง “เชื่อ” ไปซะทั้งหมด หรือ “ไม่เชื่อ” ไปซะทั้งหมด และคงต้องอาศัย “สติ” และ “ปัญญา” ของตัวเราเอง ค่อยๆ ใคร่ครวญพิจารณากันไปเป็นขั้นๆ เพราะโลกยุคนี้ สมัยนี้ ดูๆ มันน่าจะเป็นไปอย่างที่บก.นิตยสาร “Wired” “นายKevin Kelly” แกเคยปรารภ รำพึง เอาไว้ก่อนหน้านี้นั่นแหละว่า... “The only factor becoming scarce in a world of abundance is human attention.” หรือภายในโลกอันล้นเหลือ เหลือเฟือ ไปด้วยแทบทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สิ่งที่หายากหาเย็น ยิ่งกว่าหาหนวดเต่า-เขากระต่าย ก็คือความเอื้ออาทร ความร่วมมือ-ร่วมใจในหมู่มวลมนุษย์นั่นแล มันเลยถึงทำให้ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่อง “วัคซีน” เท่านั้น ที่ต้องกลายเป็น “การเมือง” เป็น “ธุรกิจ” ต้องแย่งยื้อ แข่งขัน แบบเอาเป็น-เอาตาย แต่แทบทุกๆ เรื่องนั่นแหละ ที่มันกำลังทำให้ “โลกยุคหลังสงครามเย็น” ทำท่าว่าอาจต้องกลายเป็น “โลกยุคสงครามร้อน” ในอีกไม่ใกล้-ไม่ไกลนับจากนี้ ชนิด “ตัวเลขเศรษฐกิจ” ใดๆ ก็แล้วแต่ มีแต่พัง...กับ...พัง ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ไปด้วยกันทั้งสิ้น...


กำลังโหลดความคิดเห็น