"สุชาติ" รองประธานสภาฯ เป็นประธานเซ็น MOU ยกระดับฉะเชิงเทราสู่ Smart City พร้อมเปิดนิทรรศการดัน "ฉะเชิงเทราโมเดล" นำร่องเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศ เสริมแกร่งพื้นที่ EEC คงอัตตลักษณ์ดีงาม ชูอุตสาหกรรมเกษตรกรรมปลอดมลพิษ
นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และส.ส.ฉะเชิเทรา เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสไปเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU)ระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา ภาคเอกชน และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa)เพื่อยกระดับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC)จ.ฉะเชิงเทรา สู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ(Smart City)ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณสวนสาธารณะริมแม่น้ำบางปะกง หน้ารพ.พุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับ นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา และคณะผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ชมนิทรรศการเทคโนโยลี และนวัตกรรมสู่อนาคต “PADRIEW INNOVATION WEEK PRESENT EEC X SMART CITY”ที่จัดโดยหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อเสนอแนะต่างๆ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนา จ.ฉะเชิงเทรา ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ และเมืองแห่งนวัตกรรมในอนาคตอันใกล้นี้
โครงการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECถือเป็นการพัฒนาพื้นที่ทางกายภาพและสังคม รวมถึงการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิต ภาคบริการ บนฐานของเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ โดยได้มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน , พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา, พัฒนาท่าเรือมาบตาพุด และแหลมฉบัง, รถไฟทางคู่ รวมถึงระบบคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ อื่นๆ ตลอดจนการลงทุนด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง(S-curves)การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการอำนวยความสะดวกต่างๆ แก่นักลงทุน เป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่ดีที่สุด และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ควบคู่กับการพัฒนาให้เป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัย และเมืองแห่งอุตสาหกรรมเกษตร ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
"ฉะเชิงเทรา ถือเป็น 1 ใน 3 จังหวัดของภาคตะวันออก ที่ได้รับการคัดเลือกจาก คณะกรรมการ EECให้เป็นจังหวัดนำร่อง เพื่อพัฒนาเป็น Smart Cityที่มีการพัฒนา และเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน เพื่อรองรับการลงทุน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ คู่ขนานกับการบริหารจัดการให้เป็นชุมชนหรือเมืองที่น่าอยู่ มีความทันสมัย ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความพร้อมทั้งในด้านสาธารณูปโภคที่ครบครัน และมีความสุขอย่างยั่งยืนในอนาคต แต่ยังต้องคงไว้ซึ่งอัตตลักษณ์ที่มีคุณค่า และความโดดเด่นในด้านเกษตรกรรม ที่เรามีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรชั้นนำของประเทศหลากหลายชนิด และมุ่งพัฒนาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเกษตร ที่ไม่ก่อมลพิษกับสิ่งแวดล้อม"
ทั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างที่ดี และเป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ ในการนำแนวทางการดำเนินงานของจ.ฉะเชิงเทราไปใช้ อาจจะเรียกได้ว่า เป็น ฉะเชิงเทราโมเดล เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐไปสู่พี่น้องประชาชน ซึ่งตนพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ผ่านทางการดำเนินการของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่มีหน้าที่ในการอนุมัติงบประมาณ ในการนำมาพัฒนาประเทศ ขจัดอุปสรรคด้านระเบียบกฎหมายต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้จ.ฉะเชิงเทรา ก้าวเข้าสู่การเป็น Smart City เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล ในพื้นที่ EEC อย่างเป็นรูปธรรม
นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และส.ส.ฉะเชิเทรา เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสไปเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU)ระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา ภาคเอกชน และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa)เพื่อยกระดับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC)จ.ฉะเชิงเทรา สู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ(Smart City)ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณสวนสาธารณะริมแม่น้ำบางปะกง หน้ารพ.พุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับ นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา และคณะผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ชมนิทรรศการเทคโนโยลี และนวัตกรรมสู่อนาคต “PADRIEW INNOVATION WEEK PRESENT EEC X SMART CITY”ที่จัดโดยหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อเสนอแนะต่างๆ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนา จ.ฉะเชิงเทรา ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ และเมืองแห่งนวัตกรรมในอนาคตอันใกล้นี้
โครงการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECถือเป็นการพัฒนาพื้นที่ทางกายภาพและสังคม รวมถึงการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิต ภาคบริการ บนฐานของเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ โดยได้มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน , พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา, พัฒนาท่าเรือมาบตาพุด และแหลมฉบัง, รถไฟทางคู่ รวมถึงระบบคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ อื่นๆ ตลอดจนการลงทุนด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง(S-curves)การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการอำนวยความสะดวกต่างๆ แก่นักลงทุน เป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่ดีที่สุด และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ควบคู่กับการพัฒนาให้เป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัย และเมืองแห่งอุตสาหกรรมเกษตร ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
"ฉะเชิงเทรา ถือเป็น 1 ใน 3 จังหวัดของภาคตะวันออก ที่ได้รับการคัดเลือกจาก คณะกรรมการ EECให้เป็นจังหวัดนำร่อง เพื่อพัฒนาเป็น Smart Cityที่มีการพัฒนา และเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน เพื่อรองรับการลงทุน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ คู่ขนานกับการบริหารจัดการให้เป็นชุมชนหรือเมืองที่น่าอยู่ มีความทันสมัย ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความพร้อมทั้งในด้านสาธารณูปโภคที่ครบครัน และมีความสุขอย่างยั่งยืนในอนาคต แต่ยังต้องคงไว้ซึ่งอัตตลักษณ์ที่มีคุณค่า และความโดดเด่นในด้านเกษตรกรรม ที่เรามีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรชั้นนำของประเทศหลากหลายชนิด และมุ่งพัฒนาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเกษตร ที่ไม่ก่อมลพิษกับสิ่งแวดล้อม"
ทั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างที่ดี และเป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ ในการนำแนวทางการดำเนินงานของจ.ฉะเชิงเทราไปใช้ อาจจะเรียกได้ว่า เป็น ฉะเชิงเทราโมเดล เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐไปสู่พี่น้องประชาชน ซึ่งตนพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ผ่านทางการดำเนินการของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่มีหน้าที่ในการอนุมัติงบประมาณ ในการนำมาพัฒนาประเทศ ขจัดอุปสรรคด้านระเบียบกฎหมายต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้จ.ฉะเชิงเทรา ก้าวเข้าสู่การเป็น Smart City เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล ในพื้นที่ EEC อย่างเป็นรูปธรรม
