"จตุพร"ยึดสวนสันติพร รวมพลังทุกสีเสื้อ ขับไล่"บิ๊กตู่" ไม่ขัด "ม็อบ 3 นิ้ว" เดินคนละความเชื่อ -ไร้ขัดแย้ง ประกาศชุมนุมยืดเยื้อ นัดอีกวันนี้ 4 โมงเย็น "ดูซิใครจะชิบหายก่อนกัน" ลากไส้ "แรมโบ้" อยู่แก๊งไหนหัวหน้าตายหมด
เมื่อเวลา 16.00น. วานนี้ (4เม.ย.) ที่บริเวณสวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ถนนราชดำเนิน มีการการชุมนุม และเสวนาปราศรัย ในหัวข้อ "ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย" เป็นไปอย่างคึกคัก แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกหนัก ทั้งนี้ จะมีแกนนำ เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรฯ (พธม.)นาย อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และกลุ่มผู้รักประชาธิปไตยกลุ่มต่างๆ ร่วมเสวนา ปราศรัยด้วย
ทั้งนี้ นายจตุพร กล่าวว่า ตนมาตามคำเชิญของนายอดุลย์ ที่มีความห่วงใยต่อบ้านเมือง ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และคณะไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขรธน. การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ยังไม่ถึงขั้นการชุมนุม แต่จะเป็นเวทีที่อธิบายให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่เข้ามาร่วม 7 ปีแล้ว ได้ตระบัดสัตย์เรื่องอะไรบ้าง และไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกฯ อย่างไร
"ผมได้คุยกับนายอดุลย์ว่า ผมมาในนามบุคคล จะไม่นำองค์กร นปช. มาเกี่ยวข้อง รวมถึงฝ่ายอื่นๆ ด้วย ไม่ให้นำองค์กรมาเกี่ยวข้อง เพราะที่ผ่านมีความสูญเสียเกิดขึ้น เราเข้าใจ ถ้าเราไม่ร่วมมือกัน พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปอีก 6 ปี นับจากนี้ไป "
สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎรที่ยังดำเนินไป ก็เป็นสิทธิ เสรีภาพ ตนเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวปัญหา ส่วนกลุ่มราษฎร จะเห็นอย่างไร ก็เป็นสิทธิ ใครเชื่ออย่างไร ก็ไปทำตามความเชื่อของตัวเอง อย่าให้ความเชื่อของแต่ละฝ่ายมาขัดแย้งกัน
ต่อมานายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ในฐานะแม่งานหลักในการจัดกิจกรรม ขึ้นเวทีกล่าวว่า ในเดือนพ.ค.นี้ จะครบ 29 ปี เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ที่เรารู้สึกถึงความสูญเสียอย่างมาก และไม่ได้รับการเหลียวแลเลย จนมาถึงปัจจุบันรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยิ่งถอยหลังเข้าคลอง โดยเฉพาะคำท้าทายของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่บอกว่า "ไปแก้มาให้ได้ก็แล้วกัน" พล.อ.ประยุทธ์ คิดว่าตัวเองเป็นใคร กล้าทำแบบนี้ กล้าด่าประชาชน มันสุดจะทนแล้ว ตนตรวจสอบรัฐบาลนี้มา 4 ปี พบว่ามีการทุจริตเกินจริง ตนบอกทางแก้ไขไปทุกอย่าง แต่ไม่เคยทำ รัฐบาลนี้จึงโกงที่สุดตั้งแต่ที่มีรัฐบาลมา นอกจากนี้ยังเอาชีวิตประชาชนเป็นเครื่องเล่น ปล่อยให้โควิดระบาด ปล่อยให้มีบ่อนพนัน มีแรงงานถื่อน เป็นต้นเหตุของการระบาดโควิดรอบใหม่ ไม่รับผิดชอบ ไม่แคร์ประชาชนเลย ตนไม่เคยเห็นรัฐบาลแบบนี้มาก่อนเลย
"เราขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ก้าวลงจากอำนาจ จากตำแหน่ง บัดนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ผมขอให้คนที่เห็นด้วยออกมามากๆ ด้วยสันติวิธี ไม่เกิดการนองเลือด แต่หากช้าไปกว่านี้ อาจเกิดการนองเลือดได้ จึงมีเพียง 2 วิธีเท่านั้น คือ 1. ออกมาชุมนุมเรียกร้องส่งเสียงให้พล.อ.ประยุทธ์ ออกไป และ 2. เรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาล ถอนตัวออกจากรัฐบาล ถ้า 2 วิธีนี้ยังทำไม่ได้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนแล้วว่าจะลงมติอย่างไร บ้านเมืองยังมีคนเก่งคนดี เราจึงต้องช่วยกันแก้รัฐธรรมนูญให้ประเทศเดินหน้า เพราะขณะนี้ถึงทางตันแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกไป" นายอดุลย์ กล่าว
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ปราศรัยตอนหนึ่งว่า สาเหตุที่มาร่วมเวทีฯ ตนไม่ได้ต้องการขับไล่ประยุทธ์ แต่ต้องการขับไล่เผด็จการทหารเลว ทั้งนี้เนื้อหาส่วนใหญ่ได้กล่าวโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ เช่น การยึดอำนาจ การเขียน รธน.เพื่อปกป้องตัวเอง การอาศัยอยู่ในบ้านพักหลวง
ต่อมา นายจตุพร ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า ตนไม่คิดว่าเวทีนี้จะเกิดขึ้นได้ เพราะประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย รวมตัวกันครั้งสุดท้าย เมื่อ 29 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างคนไทยไม่เอาเผด็จการ สู้กับเผด็จการ วันนี้ 15 ปีผ่านมา เรามีความขัดแย้งกันเอง มีความสูญเสีย และคนได้รับประโยชน์ หนึ่งในนั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้ความขัดแย้งระหว่างเสื้อเหลือง เสื้อแดง ควรวางเอาไว้ก่อน เพื่อรวมตัวขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนที่ถามว่าไม่ใช่ประยุทธ์ แล้วจะเอาใครมาบริหารประเทศ ตนจึงบอกว่า ถ้าประเทศไทยไม่มีประยุทธ์ จะสิ้นชาติหรือ ทั้งยังตอบด้วยจะเป็นใครก็ได้ในแผ่นดินนี้ที่ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์
"เราจะชุมนุมกันอีกหลายวัน ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ กับเราใครจะอึดกว่ากัน ทั้งนี้ 7 ปีที่ผ่านมา ทุนผูกขาดได้ประโยชน์สูงสุด แต่คนไทยเดือดร้อนมากที่สุดลง เราจึงไม่อาจจะทนต่อประยุทธ์ได้ ฉะนั้นในแต่ละวัน จะมีการจัดกิจกรรมไป และเว้นบ้างบางวัน ดูว่าใครจะชิบหายก่อนกัน พร้อมขอให้ประชาชน ยืนหยัดจะต่อสู่จนกว่าประยุทธ์ จะออกไปได้หรือไม่
นายจตุพร กล่าวว่า ขอบอกความลับกับพล.อ.ประยุทธ์ เกี่ยวกับเพื่อนของตนที่ชื่อ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ว่า นายเสกสกล อยู่แก๊งไหนหัวหน้าแก๊งตายหมด ตอนสมัยนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็หลงเชื่อเสกสกล ดังนั้นนายเสกสกลอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ตนดีใจมาก เพราะรู้ว่าจะมีคนจัดการ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แล้ว เพราะเข้าแก๊งไหน หัวหน้าแก๊งตายหมด
"วันนี้ใครเกลียดหรือรักผม ไม่สำคัญ แต่ถ้าเกลียดประยุทธ์ ไม่ต้องการให้อยู่ในอำนาจต่อไปเราจะต้องสามัคคีกัน เป็นเวทีที่คนไทยทั้งแผ่นดินลุกขึ้นมาประกาศว่า เราจะขับไล่ประยุทธ์ แต่ถ้าเราแตกแยก คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือ ประยุทธ์ และอย่าให้คนตระบัดสัตย์มีที่ดินอยู่ในแผ่นดินนี้ ผมอยากให้ประชาชนที่นี่ ประกาศพร้อมกันว่า เราพร้อมต้อนรับทุกฝ่าย จะหลอมรวมหัวใจของคนไทยที่ไม่เอาเผด็จการ มาร่วมจัดการ แม้ว่าจะมี 10 ประยุทธ์ ก็สู้ประชาชนไม่ได้ เราจะใช้สวนสันติพรแห่งนี้ เป็นฐานปฏิบัติการหลัก และในวันพรุ่งนี้ เราจะนัดชุมนุมกันใหม่ในเวลา16.00 - 21.00 น.เราจะไล่ทุกวัน โดยจะเว้นวันที่ 6 เม.ย. เนื่องจากมีแนวร่วมจัดงานเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ และวันที่ 7 เม.ย.จะกลับมาใหม่ " นายจตุพร กล่าว และได้ประกาศยุติการชุมนุม ในเวลา 20.30 น.
เมื่อเวลา 16.00น. วานนี้ (4เม.ย.) ที่บริเวณสวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ถนนราชดำเนิน มีการการชุมนุม และเสวนาปราศรัย ในหัวข้อ "ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย" เป็นไปอย่างคึกคัก แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกหนัก ทั้งนี้ จะมีแกนนำ เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรฯ (พธม.)นาย อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และกลุ่มผู้รักประชาธิปไตยกลุ่มต่างๆ ร่วมเสวนา ปราศรัยด้วย
ทั้งนี้ นายจตุพร กล่าวว่า ตนมาตามคำเชิญของนายอดุลย์ ที่มีความห่วงใยต่อบ้านเมือง ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และคณะไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขรธน. การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ยังไม่ถึงขั้นการชุมนุม แต่จะเป็นเวทีที่อธิบายให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่เข้ามาร่วม 7 ปีแล้ว ได้ตระบัดสัตย์เรื่องอะไรบ้าง และไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกฯ อย่างไร
"ผมได้คุยกับนายอดุลย์ว่า ผมมาในนามบุคคล จะไม่นำองค์กร นปช. มาเกี่ยวข้อง รวมถึงฝ่ายอื่นๆ ด้วย ไม่ให้นำองค์กรมาเกี่ยวข้อง เพราะที่ผ่านมีความสูญเสียเกิดขึ้น เราเข้าใจ ถ้าเราไม่ร่วมมือกัน พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปอีก 6 ปี นับจากนี้ไป "
สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎรที่ยังดำเนินไป ก็เป็นสิทธิ เสรีภาพ ตนเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวปัญหา ส่วนกลุ่มราษฎร จะเห็นอย่างไร ก็เป็นสิทธิ ใครเชื่ออย่างไร ก็ไปทำตามความเชื่อของตัวเอง อย่าให้ความเชื่อของแต่ละฝ่ายมาขัดแย้งกัน
ต่อมานายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ในฐานะแม่งานหลักในการจัดกิจกรรม ขึ้นเวทีกล่าวว่า ในเดือนพ.ค.นี้ จะครบ 29 ปี เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ที่เรารู้สึกถึงความสูญเสียอย่างมาก และไม่ได้รับการเหลียวแลเลย จนมาถึงปัจจุบันรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยิ่งถอยหลังเข้าคลอง โดยเฉพาะคำท้าทายของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่บอกว่า "ไปแก้มาให้ได้ก็แล้วกัน" พล.อ.ประยุทธ์ คิดว่าตัวเองเป็นใคร กล้าทำแบบนี้ กล้าด่าประชาชน มันสุดจะทนแล้ว ตนตรวจสอบรัฐบาลนี้มา 4 ปี พบว่ามีการทุจริตเกินจริง ตนบอกทางแก้ไขไปทุกอย่าง แต่ไม่เคยทำ รัฐบาลนี้จึงโกงที่สุดตั้งแต่ที่มีรัฐบาลมา นอกจากนี้ยังเอาชีวิตประชาชนเป็นเครื่องเล่น ปล่อยให้โควิดระบาด ปล่อยให้มีบ่อนพนัน มีแรงงานถื่อน เป็นต้นเหตุของการระบาดโควิดรอบใหม่ ไม่รับผิดชอบ ไม่แคร์ประชาชนเลย ตนไม่เคยเห็นรัฐบาลแบบนี้มาก่อนเลย
"เราขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ก้าวลงจากอำนาจ จากตำแหน่ง บัดนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ผมขอให้คนที่เห็นด้วยออกมามากๆ ด้วยสันติวิธี ไม่เกิดการนองเลือด แต่หากช้าไปกว่านี้ อาจเกิดการนองเลือดได้ จึงมีเพียง 2 วิธีเท่านั้น คือ 1. ออกมาชุมนุมเรียกร้องส่งเสียงให้พล.อ.ประยุทธ์ ออกไป และ 2. เรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาล ถอนตัวออกจากรัฐบาล ถ้า 2 วิธีนี้ยังทำไม่ได้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนแล้วว่าจะลงมติอย่างไร บ้านเมืองยังมีคนเก่งคนดี เราจึงต้องช่วยกันแก้รัฐธรรมนูญให้ประเทศเดินหน้า เพราะขณะนี้ถึงทางตันแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกไป" นายอดุลย์ กล่าว
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ปราศรัยตอนหนึ่งว่า สาเหตุที่มาร่วมเวทีฯ ตนไม่ได้ต้องการขับไล่ประยุทธ์ แต่ต้องการขับไล่เผด็จการทหารเลว ทั้งนี้เนื้อหาส่วนใหญ่ได้กล่าวโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ เช่น การยึดอำนาจ การเขียน รธน.เพื่อปกป้องตัวเอง การอาศัยอยู่ในบ้านพักหลวง
ต่อมา นายจตุพร ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า ตนไม่คิดว่าเวทีนี้จะเกิดขึ้นได้ เพราะประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย รวมตัวกันครั้งสุดท้าย เมื่อ 29 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างคนไทยไม่เอาเผด็จการ สู้กับเผด็จการ วันนี้ 15 ปีผ่านมา เรามีความขัดแย้งกันเอง มีความสูญเสีย และคนได้รับประโยชน์ หนึ่งในนั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้ความขัดแย้งระหว่างเสื้อเหลือง เสื้อแดง ควรวางเอาไว้ก่อน เพื่อรวมตัวขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนที่ถามว่าไม่ใช่ประยุทธ์ แล้วจะเอาใครมาบริหารประเทศ ตนจึงบอกว่า ถ้าประเทศไทยไม่มีประยุทธ์ จะสิ้นชาติหรือ ทั้งยังตอบด้วยจะเป็นใครก็ได้ในแผ่นดินนี้ที่ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์
"เราจะชุมนุมกันอีกหลายวัน ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ กับเราใครจะอึดกว่ากัน ทั้งนี้ 7 ปีที่ผ่านมา ทุนผูกขาดได้ประโยชน์สูงสุด แต่คนไทยเดือดร้อนมากที่สุดลง เราจึงไม่อาจจะทนต่อประยุทธ์ได้ ฉะนั้นในแต่ละวัน จะมีการจัดกิจกรรมไป และเว้นบ้างบางวัน ดูว่าใครจะชิบหายก่อนกัน พร้อมขอให้ประชาชน ยืนหยัดจะต่อสู่จนกว่าประยุทธ์ จะออกไปได้หรือไม่
นายจตุพร กล่าวว่า ขอบอกความลับกับพล.อ.ประยุทธ์ เกี่ยวกับเพื่อนของตนที่ชื่อ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ว่า นายเสกสกล อยู่แก๊งไหนหัวหน้าแก๊งตายหมด ตอนสมัยนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็หลงเชื่อเสกสกล ดังนั้นนายเสกสกลอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ตนดีใจมาก เพราะรู้ว่าจะมีคนจัดการ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แล้ว เพราะเข้าแก๊งไหน หัวหน้าแก๊งตายหมด
"วันนี้ใครเกลียดหรือรักผม ไม่สำคัญ แต่ถ้าเกลียดประยุทธ์ ไม่ต้องการให้อยู่ในอำนาจต่อไปเราจะต้องสามัคคีกัน เป็นเวทีที่คนไทยทั้งแผ่นดินลุกขึ้นมาประกาศว่า เราจะขับไล่ประยุทธ์ แต่ถ้าเราแตกแยก คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือ ประยุทธ์ และอย่าให้คนตระบัดสัตย์มีที่ดินอยู่ในแผ่นดินนี้ ผมอยากให้ประชาชนที่นี่ ประกาศพร้อมกันว่า เราพร้อมต้อนรับทุกฝ่าย จะหลอมรวมหัวใจของคนไทยที่ไม่เอาเผด็จการ มาร่วมจัดการ แม้ว่าจะมี 10 ประยุทธ์ ก็สู้ประชาชนไม่ได้ เราจะใช้สวนสันติพรแห่งนี้ เป็นฐานปฏิบัติการหลัก และในวันพรุ่งนี้ เราจะนัดชุมนุมกันใหม่ในเวลา16.00 - 21.00 น.เราจะไล่ทุกวัน โดยจะเว้นวันที่ 6 เม.ย. เนื่องจากมีแนวร่วมจัดงานเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ และวันที่ 7 เม.ย.จะกลับมาใหม่ " นายจตุพร กล่าว และได้ประกาศยุติการชุมนุม ในเวลา 20.30 น.