“ตู่-จตุพร” ยัน “พล.อ.ประยุทธ์” คือภัยคุกคามของประเทศ ตระบัดสัตย์การแก้ไข รธน. วอนประชาชนออกมาขับไล่ทั่วประเทศ เตรียมชุมนุมต่อพรุ่งนี้ (5 เม.ย.)
วันนี้ (4 เม.ย. 64) ที่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม สวนสันติพร แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จัดกิจกรรม “ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” ด้วยรหัส 4/4/4 เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
กิจกรรมเริ่มในเวลา 16.00 น. โดยมีผู้ปราศรัยจากกลุ่ม นปช. และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธป.) มาสลับแลกเปลี่ยนข้อมูลตลอดการทำงาน 6 ปี
นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน หนึ่งในอดีตแกนนำ พธป. กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่จะออกมาร่วมเพื่อเรียกร้องเรื่องเดียวขณะนี้ให้นายกรัฐมนตรีลาออก อีกทั้งสถานการณ์ที่เหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายรับไม่ได้มากที่สุด คือ เหตุการณ์ที่รัฐสภาโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา
จากนั้นเวลา 19.30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปราศรัยเป็นคนสุดท้าย กล่าวว่า ตนเองมาตามคำเชิญของนายอดุล เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการวีรชนพฤษภา 35 ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนายกรัฐมนตรีที่ไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือมีการตระบัดสัตย์
นายจตุพรกล่าวว่า งานวันนี้จะยังไม่ถึงขั้นการชุมนุม แต่เป็นเวทีเพื่ออธิบายการเข้ามาทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ในรอบ 7 ปีได้ตระบัดสัตย์เรื่องใดบ้าง จึงไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป และพรรคร่วมรัฐบาลใดที่เคยประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร และจะชุมนุมอย่างสันติวิธี
ทั้งนี้ การปราศรัยกล่าวถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลาออกเนื่องจากเหตุการณ์เกิดรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. 2557 เหตุการณ์ที่รัฐสภาโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา การแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอำนาจในการเลือกนายกฯ การเขียนร่างรัฐธรรมนูญปี 60 รวมถึงคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ในเรื่องบ้านพักหลวงที่อยู่อาศัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีความผิด เมื่อปี พ.ศ. 2563 การนิรโทษกรรมที่เกิดขึ้นแก่นายกรัฐมนตรีเอง
นายจตุพรยืนยันว่า วันนี้ตนมาไม่ได้มาในนาม นปช. และไม่ต้องการเอาองค์กรเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะตอนนี้ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ว่าฝ่ายใดก็ตาม ขอให้อย่าแตกแยกเพราะ พล.อ.ประยุทธ์คือภัยคุกคามของประเทศ ดังนั้น ทุกฝ่ายก็ต้องเสียสละเพื่อช่วยกันขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ แม้จะต้องเจอกับอุปสรรคก็ตาม เพราะหากไม่เสียสละ พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ต่ออีก 6 ปี
นายจตุพรกล่าวว่า การร่วมสามัคคีประชาชนเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2535 และในช่วง 15 ปีนี้มีแต่ความขัดแย้งอย่างหนัก ซึ่งคนที่ได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งหลายคนคงคิดว่าการที่ฝนตกหนักในวันนี้จะเป็นปัญหา แต่จริงๆ แล้วการที่ฝนตกหนักก็เพื่อล้างความชั่วของแผ่นดินให้สะอาด ถือว่าวันนี้เป็นการหมดเวลาของบุญที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำไว้แล้ว
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ตนรู้สึกขมขื่นในการต่อสู้กับระบอบเผด็จการมาตลอด จนตอนนี้จะอายุ 56 ปีแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไปเพราะได้ผลประโยชน์สูงสุดในการต่อสู้ครั้งนี้ ต้องช่วยกันต่อสู้ทั้งแผ่นดิน
นอกจากนี้ ได้ตั้งข้อเรียกร้อง 1 ข้อ คือ จัดการกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมปราศรัยถึงที่มาของการเกิดรัฐประหารปี พ.ศ. 2557 ถึงเหตุการณ์ปะทะบริเวณถนนราชดำเนินนอก โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ “วันที่ 4 เดือน 4 เวลา 4 โมงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ ชะตาขาด" ไม่ชอบผม ไม่รักผมไม่เป็นไร แต่อยากให้คนไทยทุกคนลุกขึ้นมาจับมือขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไปสถานเดียว” นายจตุพรกล่าว
นอกจากนี้ นายจตุพรฝากทิ้งท้ายอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (5 เม.ย. 64) จะมีการชุมนุมในลักษณะเดิม ณ อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม สวนสันติพร ในเวลา 16.00 น.
ทั้งนี้ ก่อนการเริ่มกิจกรรม พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ได้เข้าแจ้งระเบียบการจัดกิจกรรมต่อนายจตุพร ว่า พ.ร.ก. ฉุกเฉินยังคงประกาศใช้อยู่ ซึ่งเป็นการห้ามทำกิจกรรมมั่วสุมที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงเตือนให้ปฏิบัติกิจกรรมตามข้อกฎหมายดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และหากกระทำละเมิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีในภายหลัง ซึ่งนายจตุพรยืนยันว่าจะใช้วิธีการจัดการชุมนุมอย่างระมัดระวัง โดยได้จัดมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
สำหรับวันนี้กิจกรรมได้เสร็จสิ้นในเวลา 20.30 น. โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) 3 กองร้อย เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยตลอดการทำกิจกรรม