เรือนจำนราธิวาส ทั้งนักโทษชาย หญิง เจ้าหน้าที่ ติดเชื้อรวม 120 ราย ราชทัณฑ์สั่งงดเยี่ยมญาติทั่วประเทศ สธ.เผยคลัสเตอร์สถานบันเทิงในกรุงติดเชื้อลาม 70 ราย ด้านโฆษกรัฐบาลขอรอตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีข่าว "2รมต." เข้าผับทองหล่อ
เมื่อเวลา 11.30น. วานนี้ (4 เม.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 96 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 87 ราย มาจากการตรวจในระบบเฝ้าระวังและบริการ 78 ราย จากการค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 9 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 9 ราย
ทั้งนี้ ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อที่ ศบค.รายงานวันนี้ยังไม่รวมจำนวนผู้ติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 112 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 78 ราย แบ่งตามพื้นที่จังหวัดดังนี้ กรุงเทพฯ 34 ราย สมุทรสาคร 9 ราย ชลบุรี 7 ราย สุราษฎร์ธานี 6 ราย สมุทรปราการ 5 ราย สุพรรณบุรี 5 ราย นครปฐม 3 ราย ขอนแก่น 2 ราย นนทบุรี 2 ราย ปทุมธานี 2 ราย อุดรธานี 1 ราย นราธิวาส 1 ราย พระนครศรีอยุธยา 1 ราย อุดรธานี 1 ราย การค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 9 ราย แบ่งเป็น สมุทรสาคร 4 ราย สมุทรปราการ 4 ราย และกรุงเทพฯ 1 ราย
เรือนจำนราธิวาส ติดเชื้อรวม 120 ราย
จากกรณีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 6 คน โดยเบื้องต้นทราบว่าเป็นกลุ่มผู้ต้องขัง และผู้คุมในจ.นราธิวาส ที่เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมไดมอนด์ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 64 รวม 8 คน และจากการตรวจกลุ่มเสี่ยงผู้สัมผัสสูง135 คน ครั้งแรกผลตรวจ ไม่พบเชื้อ
ล่าสุดวานนี้ (4 เม.ย.) นายไพโรจน์ จริตงาม รอง ผวจ.นราธิวาส ลงนามในวิทยุสื่อสารด่วนที่สุด ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า ได้รับแจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เกี่ยวกับการรายงานสถานการณ์โควิด-19 ภายในเรือนจำ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 64 เวลา 20.00 น. จากการสอบสวนโรค พบว่า มีผู้ต้องขังรวม 2,334 ราย และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 97 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้สัมผัสเชื้อ 791 ราย จึงได้เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อแล้ว
ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อ 120 ราย แบ่งเป็น 1. เจ้าหน้าที่ 25 ราย รักษาตัวที่ รพ.นราธิวาส 5 ราย และรักษาตัวที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส (เก่า) 20 ราย โดย รพ. นราธิวาส กำลังเตรียมรับตัวไปรักษาที่รพ.
2. ผู้ต้องขัง 95 ราย พักรักษาตัวที่ รพ.นราธิวาส 3 ราย และรักษาตัวที่เรือนจำ จ.นราธิวาส 92 ราย แบ่งเป็น 1. แดนพยาบาล 88 ราย 2. แดน 6 จำนวน 3 ราย และ 3. แดนหญิง 1 ราย
ราชทัณฑ์สั่งงดเยี่ยมญาติทั่วปท.
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวขณะลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เรือนจำ จ.นราธิวาส ว่า กรมราชทัณฑ์ จำเป็นต้องนำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำ กลับมาใช้อีกครั้ง แม้จะเพิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการมาได้ไม่นาน โดยจะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 5 เม.ย.-5 พ.ค. 64 ด้วยมาตรการหลักๆ คือ 1. งดเยี่ยมญาติแบบปกติที่เรือนจำ 2. งดนำผู้ต้องขังออกทำงานนอกเรือนจำ 3. งดย้ายผู้ต้องขังระหว่างเรือนจำ 4. พิจารณาแนวทางอื่นแทนการนำผู้ต้องขังออกศาล 5. งดนำบุคคลภายนอกเข้าเรือนจำ 6. แยกกักโรคผู้ต้องขังเข้าใหม่โดยห้ามย้ายหรือออกจากห้องเป็นระยะเวลา 14-21 วัน 7. ประสานโรงพยาบาลแม่ข่าย ในการเข้าตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายอย่างน้อย 2 ครั้ง ก่อนออกจากห้องแยกกักโรค
ทั้งนี้ การดำเนินการที่ยังสามารถทำได้ คือ 1. การเยี่ยมญาติทางไกลผ่านจอภาพ (แอปพลิเคชั่นไลน์) 2. การซื้อสินค้าฝากผู้ต้องขังและการฝากเงิน โดยให้เรือนจำ และทัณฑสถานทั้ง 143 แห่งทั่วประเทศ ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ยกเว้นมีเหตุจำเป็นซึ่งต้องได้รับการอนุมัติเป็นการเฉพาะกรณี
คลัสเตอร์สถานบันเทิงพุ่ง 70 ราย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงรายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน โดยกล่าวถึงสถานการณ์การระบาดในสถานบันเทิงว่า ขณะนี้ตัวเลขทั้งหมดในหลายจังหวัด รวมกันแล้ว กว่า 70 ราย เมื่อสอบสวนโรคในแต่ละกลุ่มแล้ว สามารถหาความเชื่อมโยงได้ดังนี้
ผู้ติดเชื้อรายแรกๆที่ตรวจพบ คือ จ.ปทุมธานี แต่ละสถานบันเทิงที่พบผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ จะเริ่มจากนักเที่ยว ส่งเชื้อไปติดพนักงาน จากนั้นมีการไปเที่ยวในสถานบันเทิงหลายแห่ง ติดเชื้อต่อไปยังคนในครอบครัว เช่น จ.ปทุมธานี เป็นนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ไปเที่ยวสถานบันเทิง 2 แห่ง ขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อในเหตุการณ์ 10 ราย และอาจจะมีความเชื่อมโยงกับตลาดบางแคด้วย แต่ต้องรอข้อมูลตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม
ส่วนการติดเชื้อในสถานบันเทิง จ.นนทบุรี อีก 8 ราย ในจำนวนนี้ มี 5 ราย เป็นนักร้อง นักดนตรี ที่ไปเล่นในร้านหลายที่ เช่น นครปฐม ทองหล่อ และในกทม. อีกหลายแห่ง จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อนักเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่เที่ยวที่เดียว จะมีการไปต่ออีกที่หนึ่ง ซึ่งทำให้วงรอบการกระจายแพร่ไปได้ค่อนข้างเร็ว
สำหรับผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงกับย่านทองหล่อ มีการตั้งสมมติฐานว่า เริ่มต้นที่จ.ปทุมธานี แต่จะต้องมีการตรวจทางห้องแล็บ เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง แต่เมื่อมีผู้ติดเชื้อคนหนึ่งไปแหล่งท่องเที่ยว และมีผู้สัมผัสที่ติดเชื้อ โยงไปยังสถานที่ที่ 2 ใน จ.ปทุมธานี ก็จะมีผู้ติดเชื้อที่ จ.ปทุมธานี และไปที่ ร้านคริสตัล คลับ ทองหล่อ 25 ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และผู้สัมผัส หลังจากนั้นเมื่อมีการติดเชื้อจากผู้สัมผัสรายแรก มาสู่ผู้ที่ติดเชื้อที่ร้านคริสตัลฯ ก็ไปเที่ยวอีกร้าน คือ บาร์บาร์บาร์ มีการติดเชื้อต่อเนื่องกันไปร้านเบียร์ เฮ้าส์ เอกมัยด้วย
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ จะมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด แต่จะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อรอผลการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อทั้งตัว เพื่อที่จะยืนยันความเชื่อมโยง และการระบาดที่ต่อเนื่องกันเช่นนี้ต่อไป
2รมต.ตรวจโควิดเคสผับทองหล่อ
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวบุคคลระดับรัฐมนตรี เข้าไปในสถานบันเทิงย่านทองหล่อ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมีผู้พบว่าอยู่ในห้องเดียวกับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งรัฐมนตรีคนดังกล่าว ไม่ได้กักตัวตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเข้าประชุมครม. เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า กำลังตรวจสอบรายงานข่าวดังกล่าวและขณะนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลอะไร หากพูดอะไรไปก่อนโดยที่ยังไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็ไม่เป็นประโยชน์กับใคร จึงขอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนจะชี้แจงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีกระแสข่าวลือดังกล่าว ล่าสุดทีมข่าวได้สอบถามไปยังคณะทำงานของทั้ง 2 รัฐมนตรี ซึ่งได้รับคำตอบยืนยันว่า ไม่ใช่รัฐมนตรีตามที่มีข่าวแน่นอน และไม่มีการเดินทางไปย่านทองหล่อเลย
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีที่ถูกระบุชื่อได้ระบุว่า เพื่อความสบายใจจะเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในช่วงเย็น (4เม.ย.) หลังจากกลับจากลงพื้นที่ต่างจังหวัด
เมื่อเวลา 11.30น. วานนี้ (4 เม.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 96 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 87 ราย มาจากการตรวจในระบบเฝ้าระวังและบริการ 78 ราย จากการค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 9 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 9 ราย
ทั้งนี้ ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อที่ ศบค.รายงานวันนี้ยังไม่รวมจำนวนผู้ติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 112 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 78 ราย แบ่งตามพื้นที่จังหวัดดังนี้ กรุงเทพฯ 34 ราย สมุทรสาคร 9 ราย ชลบุรี 7 ราย สุราษฎร์ธานี 6 ราย สมุทรปราการ 5 ราย สุพรรณบุรี 5 ราย นครปฐม 3 ราย ขอนแก่น 2 ราย นนทบุรี 2 ราย ปทุมธานี 2 ราย อุดรธานี 1 ราย นราธิวาส 1 ราย พระนครศรีอยุธยา 1 ราย อุดรธานี 1 ราย การค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 9 ราย แบ่งเป็น สมุทรสาคร 4 ราย สมุทรปราการ 4 ราย และกรุงเทพฯ 1 ราย
เรือนจำนราธิวาส ติดเชื้อรวม 120 ราย
จากกรณีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 6 คน โดยเบื้องต้นทราบว่าเป็นกลุ่มผู้ต้องขัง และผู้คุมในจ.นราธิวาส ที่เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมไดมอนด์ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 64 รวม 8 คน และจากการตรวจกลุ่มเสี่ยงผู้สัมผัสสูง135 คน ครั้งแรกผลตรวจ ไม่พบเชื้อ
ล่าสุดวานนี้ (4 เม.ย.) นายไพโรจน์ จริตงาม รอง ผวจ.นราธิวาส ลงนามในวิทยุสื่อสารด่วนที่สุด ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า ได้รับแจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เกี่ยวกับการรายงานสถานการณ์โควิด-19 ภายในเรือนจำ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 64 เวลา 20.00 น. จากการสอบสวนโรค พบว่า มีผู้ต้องขังรวม 2,334 ราย และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 97 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้สัมผัสเชื้อ 791 ราย จึงได้เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อแล้ว
ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อ 120 ราย แบ่งเป็น 1. เจ้าหน้าที่ 25 ราย รักษาตัวที่ รพ.นราธิวาส 5 ราย และรักษาตัวที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส (เก่า) 20 ราย โดย รพ. นราธิวาส กำลังเตรียมรับตัวไปรักษาที่รพ.
2. ผู้ต้องขัง 95 ราย พักรักษาตัวที่ รพ.นราธิวาส 3 ราย และรักษาตัวที่เรือนจำ จ.นราธิวาส 92 ราย แบ่งเป็น 1. แดนพยาบาล 88 ราย 2. แดน 6 จำนวน 3 ราย และ 3. แดนหญิง 1 ราย
ราชทัณฑ์สั่งงดเยี่ยมญาติทั่วปท.
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวขณะลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เรือนจำ จ.นราธิวาส ว่า กรมราชทัณฑ์ จำเป็นต้องนำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำ กลับมาใช้อีกครั้ง แม้จะเพิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการมาได้ไม่นาน โดยจะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 5 เม.ย.-5 พ.ค. 64 ด้วยมาตรการหลักๆ คือ 1. งดเยี่ยมญาติแบบปกติที่เรือนจำ 2. งดนำผู้ต้องขังออกทำงานนอกเรือนจำ 3. งดย้ายผู้ต้องขังระหว่างเรือนจำ 4. พิจารณาแนวทางอื่นแทนการนำผู้ต้องขังออกศาล 5. งดนำบุคคลภายนอกเข้าเรือนจำ 6. แยกกักโรคผู้ต้องขังเข้าใหม่โดยห้ามย้ายหรือออกจากห้องเป็นระยะเวลา 14-21 วัน 7. ประสานโรงพยาบาลแม่ข่าย ในการเข้าตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายอย่างน้อย 2 ครั้ง ก่อนออกจากห้องแยกกักโรค
ทั้งนี้ การดำเนินการที่ยังสามารถทำได้ คือ 1. การเยี่ยมญาติทางไกลผ่านจอภาพ (แอปพลิเคชั่นไลน์) 2. การซื้อสินค้าฝากผู้ต้องขังและการฝากเงิน โดยให้เรือนจำ และทัณฑสถานทั้ง 143 แห่งทั่วประเทศ ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ยกเว้นมีเหตุจำเป็นซึ่งต้องได้รับการอนุมัติเป็นการเฉพาะกรณี
คลัสเตอร์สถานบันเทิงพุ่ง 70 ราย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงรายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน โดยกล่าวถึงสถานการณ์การระบาดในสถานบันเทิงว่า ขณะนี้ตัวเลขทั้งหมดในหลายจังหวัด รวมกันแล้ว กว่า 70 ราย เมื่อสอบสวนโรคในแต่ละกลุ่มแล้ว สามารถหาความเชื่อมโยงได้ดังนี้
ผู้ติดเชื้อรายแรกๆที่ตรวจพบ คือ จ.ปทุมธานี แต่ละสถานบันเทิงที่พบผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ จะเริ่มจากนักเที่ยว ส่งเชื้อไปติดพนักงาน จากนั้นมีการไปเที่ยวในสถานบันเทิงหลายแห่ง ติดเชื้อต่อไปยังคนในครอบครัว เช่น จ.ปทุมธานี เป็นนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ไปเที่ยวสถานบันเทิง 2 แห่ง ขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อในเหตุการณ์ 10 ราย และอาจจะมีความเชื่อมโยงกับตลาดบางแคด้วย แต่ต้องรอข้อมูลตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม
ส่วนการติดเชื้อในสถานบันเทิง จ.นนทบุรี อีก 8 ราย ในจำนวนนี้ มี 5 ราย เป็นนักร้อง นักดนตรี ที่ไปเล่นในร้านหลายที่ เช่น นครปฐม ทองหล่อ และในกทม. อีกหลายแห่ง จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อนักเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่เที่ยวที่เดียว จะมีการไปต่ออีกที่หนึ่ง ซึ่งทำให้วงรอบการกระจายแพร่ไปได้ค่อนข้างเร็ว
สำหรับผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงกับย่านทองหล่อ มีการตั้งสมมติฐานว่า เริ่มต้นที่จ.ปทุมธานี แต่จะต้องมีการตรวจทางห้องแล็บ เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง แต่เมื่อมีผู้ติดเชื้อคนหนึ่งไปแหล่งท่องเที่ยว และมีผู้สัมผัสที่ติดเชื้อ โยงไปยังสถานที่ที่ 2 ใน จ.ปทุมธานี ก็จะมีผู้ติดเชื้อที่ จ.ปทุมธานี และไปที่ ร้านคริสตัล คลับ ทองหล่อ 25 ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และผู้สัมผัส หลังจากนั้นเมื่อมีการติดเชื้อจากผู้สัมผัสรายแรก มาสู่ผู้ที่ติดเชื้อที่ร้านคริสตัลฯ ก็ไปเที่ยวอีกร้าน คือ บาร์บาร์บาร์ มีการติดเชื้อต่อเนื่องกันไปร้านเบียร์ เฮ้าส์ เอกมัยด้วย
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ จะมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด แต่จะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อรอผลการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อทั้งตัว เพื่อที่จะยืนยันความเชื่อมโยง และการระบาดที่ต่อเนื่องกันเช่นนี้ต่อไป
2รมต.ตรวจโควิดเคสผับทองหล่อ
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวบุคคลระดับรัฐมนตรี เข้าไปในสถานบันเทิงย่านทองหล่อ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมีผู้พบว่าอยู่ในห้องเดียวกับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งรัฐมนตรีคนดังกล่าว ไม่ได้กักตัวตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเข้าประชุมครม. เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า กำลังตรวจสอบรายงานข่าวดังกล่าวและขณะนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลอะไร หากพูดอะไรไปก่อนโดยที่ยังไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็ไม่เป็นประโยชน์กับใคร จึงขอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนจะชี้แจงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีกระแสข่าวลือดังกล่าว ล่าสุดทีมข่าวได้สอบถามไปยังคณะทำงานของทั้ง 2 รัฐมนตรี ซึ่งได้รับคำตอบยืนยันว่า ไม่ใช่รัฐมนตรีตามที่มีข่าวแน่นอน และไม่มีการเดินทางไปย่านทองหล่อเลย
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีที่ถูกระบุชื่อได้ระบุว่า เพื่อความสบายใจจะเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในช่วงเย็น (4เม.ย.) หลังจากกลับจากลงพื้นที่ต่างจังหวัด