ซูเปอร์โพล ระบุตอนนี้ประชาชนประสบปัญหาเศรษฐกิจ ประหยัดจนไม่รู้ประหยัดตรงไหนแล้ว ต้องทนซื้อสินค้าในราคาสูง แต่ยังอดทน อดกลั้น ไม่ลงถนน ซ้ำเติมวิกฤตประเทศ ชื่นชนกระทรวงสาธารณสุข แก้โควิดระบาดได้ฉับไว หาวัคซีนมาฉีดให้ฟรี
นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอการผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง"จัดอันดับ กระทรวง" จากกลุ่มตัวอย่าง 3,010 คน ระหว่างวันที่ 22-27 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 93.7 ต้องการเห็น ขรก. เจ้าหน้าที่รัฐ รวดเร็วฉับไวทำงานเห็นผลงานแก้ปัญหาของประชาชนได้เมื่อเกิดเหตุ ในขณะที่ ร้อยละ 93.5 ต้องการให้ นายกฯและรัฐมนตรีว่าการ เปลี่ยนตัวหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่ไม่ตื่นตัวทำงานตอบโจทย์ตรงเป้าความต้องการของประชาชน
ที่น่าเป็นห่วง คือส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 90.6 ระบุ ตอนนี้ประหยัดจนไม่รู้ประหยัดตรงไหนอีกแล้ว อดอยากไม่รู้ว่าจะอดอยากไปอีกนานแค่ไหน นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.9 ระบุ ทุกวันนี้ พบว่า เจ้าสัวรวยแล้วรวยอีก คนจน จนแล้วจนลง เพราะคนจนถูกปิดทางเลือก ไม่มีโอกาสซื้อสินค้าราคาถูก ช่วงวิกฤตและคนกำลังตกงาน และ ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 89.3 ระบุ บรรดาเจ้าสัว ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ กำลังเอาเปรียบประชาชน ช่วงวิกฤต ประชาชนจำทนต้องซื้อสินค้าราคาสูง
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 90.5 และความเดือดร้อนของผู้อื่นและ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 89.6 ระบุ วันนี้ ฉันเป็นทุกข์ ฉันกำลังเดือดร้อน
ที่น่าสนใจคือ ผลการจัดอันดับกระทรวงตื่นตัว เป็นตัวช่วยดูแลประชาชนได้มากที่สุด ดังนี้ อันดับ1 หรือ ร้อยละ 45.4 ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข มีผลงานเด่น รวดเร็วฉับไวป้องกัน และแก้ไขวิกฤตแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ดูแลรักษาประชาชนผู้ติดเชื้อ ได้วัคซีนมาฉีดให้ประชาชนฟรี อันดับ 2 หรือ ร้อยละ 21.7 ได้แก่ ก.คลัง บางส่วนราชการ เช่น ธ.กรุงไทย ช่วยเหลือเยียวยา เอาใจใส่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย อันดับ3 หรือร้อยละ 7.7 ได้แก่ กระทรวงกลาโหม ทหารช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย พิบัติต่างๆ อันดับ 4 หรือร้อยละ 7.4 ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมมือกับภาคเอกชนขายสินค้าราคาถูก และอันดับ 5 หรือร้อยละ 6.2 ได้แก่ กระทรวงเกษตรฯ เยียวยากลุ่มเกษตรกร ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ประกันราคาพืชผล
ที่น่าเป็นห่วง คือผลการจัดอันดับหน่วยงานรัฐ ต้นตอปัญหาซ้ำเติมวิกฤต ความเดือดร้อนของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 79.0 ระบุ ตำรวจท้องที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ปล่อยปละละเลย แหล่งมั่วสุมบ่อนพนันในชุมชน ต้นตอแพร่ระบาดโควิด) รองลงมา เป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นกัน คือร้อยละ 72.1 ระบุ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เกี่ยวข้องขบวนการขนแรงงานเถื่อน) อันดับสาม หรือร้อยละ 70.2 ระบุ ข้าราชการ กระทรวงแรงงาน (ปล่อยปละละเลยแรงงานเถื่อน กระจายในสถานประกอบการ) อันดับสี่ หรือร้อยละ 69.8 ระบุ กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง (ปัญหาดั้งเดิมอันยาวนาน เรื่องผลประโยชน์ พิธีการศุลกากร) และอันดับห้า หรือร้อยละ 68.4 ระบุ กระทรวงมหาดไทย (ปล่อยปละละเลยแรงงานเถื่อน แหล่งมั่วสุมบ่อนพนันในชุมชน และบทบาทช่วยเหลือดูแลปัญหาเดือดร้อน ปัญหาปากท้องของประชาชนไม่มีผลงานประจักษ์โดดเด่น)
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลการจัดอันดับกระทรวง และส่วนราชการต่างๆ ครั้งนี้ สะท้อนถึงความตื่นตัวของกระทรวง และส่วนราชการต่าง ๆ ในการตอบสนองปัญหา และความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะรัฐบาล ที่ต้องมีนโยบายเข้ม รอบคอบและชัดเจน รวดเร็วพอที่จะตอบสนอง ครอบคลุมในทุกมิติ และกลุ่มเป้าหมาย จำเป็นต้องลงดาบข้าราชการเกียร์ว่างทุกระดับ ทั้งนี้ มีข้อเสนอแนะ 3 ประการ ดังนี้
1.ขรก.และจนท.รัฐ ในภาคส่วนราชการ ถือเป็นที่พึ่งยามทุกข์ยากของประชาชน หากไม่ตอบโจทย์ ประชาชนก็จำเป็นต้องเปลี่ยนตัว หัวหน้าส่วนราชการทุกระดับจึงจำเป็นต้องตื่นตัว ปรับเปลี่ยน และลงพื้นที่ตอบสนองแก้ไขปัญหาเดือดร้อนของประชาชนระดับพื้นที่ให้ได้
2. ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ นักลงทุน ที่ถูกมองว่าเอาเปรียบประชาชน ควรใช้โอกาสนี้ แสดงความจริงใจ รวมตัวกันจัดมหกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ปลดทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน ยอมตัดเฉือนกำไรและถอยมาใส่ใจทำเพื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อยและสังคมส่วนรวมให้มากขึ้น
3. ภาคประชาชน ที่ต้องไม่รอความช่วยเหลือเป็นลูกนก ต้องตื่นตัว เรียนรู้ ปรับเปลี่ยนตัวเอง ครอบครัว ชุมชน เพื่อความอยู่รอด ด้วยความรัก ความเข้าใจกันและพึ่งพากัน
นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอการผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง"จัดอันดับ กระทรวง" จากกลุ่มตัวอย่าง 3,010 คน ระหว่างวันที่ 22-27 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 93.7 ต้องการเห็น ขรก. เจ้าหน้าที่รัฐ รวดเร็วฉับไวทำงานเห็นผลงานแก้ปัญหาของประชาชนได้เมื่อเกิดเหตุ ในขณะที่ ร้อยละ 93.5 ต้องการให้ นายกฯและรัฐมนตรีว่าการ เปลี่ยนตัวหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่ไม่ตื่นตัวทำงานตอบโจทย์ตรงเป้าความต้องการของประชาชน
ที่น่าเป็นห่วง คือส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 90.6 ระบุ ตอนนี้ประหยัดจนไม่รู้ประหยัดตรงไหนอีกแล้ว อดอยากไม่รู้ว่าจะอดอยากไปอีกนานแค่ไหน นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.9 ระบุ ทุกวันนี้ พบว่า เจ้าสัวรวยแล้วรวยอีก คนจน จนแล้วจนลง เพราะคนจนถูกปิดทางเลือก ไม่มีโอกาสซื้อสินค้าราคาถูก ช่วงวิกฤตและคนกำลังตกงาน และ ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 89.3 ระบุ บรรดาเจ้าสัว ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ กำลังเอาเปรียบประชาชน ช่วงวิกฤต ประชาชนจำทนต้องซื้อสินค้าราคาสูง
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 90.5 และความเดือดร้อนของผู้อื่นและ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 89.6 ระบุ วันนี้ ฉันเป็นทุกข์ ฉันกำลังเดือดร้อน
ที่น่าสนใจคือ ผลการจัดอันดับกระทรวงตื่นตัว เป็นตัวช่วยดูแลประชาชนได้มากที่สุด ดังนี้ อันดับ1 หรือ ร้อยละ 45.4 ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข มีผลงานเด่น รวดเร็วฉับไวป้องกัน และแก้ไขวิกฤตแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ดูแลรักษาประชาชนผู้ติดเชื้อ ได้วัคซีนมาฉีดให้ประชาชนฟรี อันดับ 2 หรือ ร้อยละ 21.7 ได้แก่ ก.คลัง บางส่วนราชการ เช่น ธ.กรุงไทย ช่วยเหลือเยียวยา เอาใจใส่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย อันดับ3 หรือร้อยละ 7.7 ได้แก่ กระทรวงกลาโหม ทหารช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย พิบัติต่างๆ อันดับ 4 หรือร้อยละ 7.4 ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมมือกับภาคเอกชนขายสินค้าราคาถูก และอันดับ 5 หรือร้อยละ 6.2 ได้แก่ กระทรวงเกษตรฯ เยียวยากลุ่มเกษตรกร ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ประกันราคาพืชผล
ที่น่าเป็นห่วง คือผลการจัดอันดับหน่วยงานรัฐ ต้นตอปัญหาซ้ำเติมวิกฤต ความเดือดร้อนของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 79.0 ระบุ ตำรวจท้องที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ปล่อยปละละเลย แหล่งมั่วสุมบ่อนพนันในชุมชน ต้นตอแพร่ระบาดโควิด) รองลงมา เป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นกัน คือร้อยละ 72.1 ระบุ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เกี่ยวข้องขบวนการขนแรงงานเถื่อน) อันดับสาม หรือร้อยละ 70.2 ระบุ ข้าราชการ กระทรวงแรงงาน (ปล่อยปละละเลยแรงงานเถื่อน กระจายในสถานประกอบการ) อันดับสี่ หรือร้อยละ 69.8 ระบุ กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง (ปัญหาดั้งเดิมอันยาวนาน เรื่องผลประโยชน์ พิธีการศุลกากร) และอันดับห้า หรือร้อยละ 68.4 ระบุ กระทรวงมหาดไทย (ปล่อยปละละเลยแรงงานเถื่อน แหล่งมั่วสุมบ่อนพนันในชุมชน และบทบาทช่วยเหลือดูแลปัญหาเดือดร้อน ปัญหาปากท้องของประชาชนไม่มีผลงานประจักษ์โดดเด่น)
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลการจัดอันดับกระทรวง และส่วนราชการต่างๆ ครั้งนี้ สะท้อนถึงความตื่นตัวของกระทรวง และส่วนราชการต่าง ๆ ในการตอบสนองปัญหา และความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะรัฐบาล ที่ต้องมีนโยบายเข้ม รอบคอบและชัดเจน รวดเร็วพอที่จะตอบสนอง ครอบคลุมในทุกมิติ และกลุ่มเป้าหมาย จำเป็นต้องลงดาบข้าราชการเกียร์ว่างทุกระดับ ทั้งนี้ มีข้อเสนอแนะ 3 ประการ ดังนี้
1.ขรก.และจนท.รัฐ ในภาคส่วนราชการ ถือเป็นที่พึ่งยามทุกข์ยากของประชาชน หากไม่ตอบโจทย์ ประชาชนก็จำเป็นต้องเปลี่ยนตัว หัวหน้าส่วนราชการทุกระดับจึงจำเป็นต้องตื่นตัว ปรับเปลี่ยน และลงพื้นที่ตอบสนองแก้ไขปัญหาเดือดร้อนของประชาชนระดับพื้นที่ให้ได้
2. ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ นักลงทุน ที่ถูกมองว่าเอาเปรียบประชาชน ควรใช้โอกาสนี้ แสดงความจริงใจ รวมตัวกันจัดมหกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ปลดทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน ยอมตัดเฉือนกำไรและถอยมาใส่ใจทำเพื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อยและสังคมส่วนรวมให้มากขึ้น
3. ภาคประชาชน ที่ต้องไม่รอความช่วยเหลือเป็นลูกนก ต้องตื่นตัว เรียนรู้ ปรับเปลี่ยนตัวเอง ครอบครัว ชุมชน เพื่อความอยู่รอด ด้วยความรัก ความเข้าใจกันและพึ่งพากัน