"ชวน" รับคนร่างวางเงื่อนไขให้แก้ รธน.ยาก "บิ๊กป้อม" ปัดหักหลังพรรคร่วม "จุรินทร์" ยันเดินหน้าแก้ รธน. สะเดาะกุญแจ ม.256 รุมโห่ “ภท.” เล่นละครวอล์กเอาต์ "อนุทิน" แจง ภท.วอล์กเอาต์ กลัวโดนร้องศาล ปัดหลอกประชาชน ยันไม่ถอนตัว รบ.
จากกรณีที่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาลงมติญัตติพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพิ่มเติมมาตรา 15/1 วาระ 3 เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่าน โดยผลโหวต 208 เสียง แบ่งเป็น ส.ส. 206 เสียง และ ส.ว. 2 เสียง, ไม่เห็นชอบ 4 เสียง เป็น ส.ว.ทั้ง 4 เสียง, งดออกเสียง 94 เสียง แบ่งเป็น ส.ส. 10 เสียง และ ส.ว. 84 เสียง และไม่ประสงค์ลงคะแนน 136 เสียง แบ่งเป็น ส.ส. 9 เสียง และ ส.ว. 127 เสียง ซึ่งคะแนนเห็นชอบไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งสองสภา หรือ 369 เสียง จาก 373 เสียงในปัจจุบัน และไม่ได้เสียง ส.ว.ถึง 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง ส่งผลให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตกไป
วานนี้ (18 มี.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการดำเนินการต่อไปหลังจากนี้ว่า หากจะเสนอแก้ไขรายมาตรา ก็ต้องรอเสนอในสมัยประชุมหน้า ส่วนในเรื่องประเด็นการร่างกฎหมายใหม่ทั้งฉบับ และการทำประชามติ ขณะนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน ทางรัฐสภาก็ได้มีการหารือว่า จะมีกระบวนการในการทำอย่างไร ซึ่งยังตอบไม่ได้ และต้องยอมรับว่า รัฐธรรมนูญเขียนมาเพื่อไม่ให้แก้ไข หรือให้แก้ยากที่สุด
"บิ๊กป้อม" ปัดหักหลังพรรคร่วมฯ
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลหลังโหวตวาระ 3 ที่ระบุว่าฉ้อฉลศรีธนญชัยว่า ไม่มีผลต่อการร่วมรัฐบาล เพราะเราปล่อยฟรีโหวต ยืนยันเราตั้งใจจะแก้ เราแก้อยู่แล้ว แต่จะแก้อย่างไร ต้องทำให้ถูกระเบียบตามที่มีอำนาจ
“หักหลังเรื่องอะไร ก็บอกว่าฟรีโหวต จะไปหักหลังอย่างไร คงเห็นว่าดึกแล้วก็เลยเสนอให้ลงมติ แต่ยืนยันว่าเราปล่อยฟรีโหวตอยู่แล้วไม่มีหักหลัง” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ปชป.ดิ้นหาช่องแก้ ม.256 อีก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคได้ทำหน้าที่สุดความสามารถแล้ว และยืนยันว่า พรรคจะยืนอยู่จุดเดิม ต้องการให้รับธรรมนูญ และประเทศ เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นกว่าเดิม ขณะนี้ที่คิดได้แบบเร็วๆ อย่างน้อย เราต้องเดินหน้าแก้ไขรายมาตรา โดยกล่าวไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า กุญแจดอกใหญ่ที่คล้องประตูประชาธิปไตยไว้ไม่ให้เปิดออก หรือเปิดได้ยาก คือ มาตรา 256 ว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรับธรรมนูญ ซึ่งกำหนดไว้อย่างซับซ้อน ถ้าไม่สะเดาะกุญแจดอกนี้ออกเสียก่อน ประตูประชาธิปไตยก็จะเปิดออกยาก
โห่ “ภท.” เล่นละครวอล์กเอาต์
นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เป็นการเล่นเกมการเมืองของหลายฝ่าย และชี้ให้เห็นแล้วว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใครของจริง ของปลอม โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ที่ส่วนตัวรู้สึกสับสน เพราะคาดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีการวอล์กเอาต์ เพราะฝ่ายค้านยังคาดหวังเสียงจากพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศมาตลอดว่าจะแก้ไขรับธรรมนูญ และคาดว่าจะสามารถพลิกเกม ให้ผ่านความเห็นชอบไปได้ แต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยใช้วิธีการนี้ ก็ยอมรับว่าผิดหวัง
เช่นเดียวกับ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ทวีตข้อความว่า “พรรคภูมิใจไทยหาเสียงกับประชาชนแท้ๆว่า จะแก้รัฐธรรมนูญ ถึงเวลาต้องโหวตกลับไม่โหวต เดินออกไปเฉย น่าไม่อายจริงๆ”
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านทำเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่มีขบวนการเหนี่ยวรั้งตลอดเวลา เมื่อคืนก็แสดงบทบาทไม่เอาอย่างนั้น อย่างนี้ โวยวายในสภาแล้วก็หลบไม่ลงคะแนน ควรจะลงคะแนน ไม่ใช่มาเล่นบทหลอกลวงประชาชนไปวันๆ
“อนุทิน” แจงเหตุต้องวอล์กเอาต์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยพยายามจะรักษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเอาไว้ แต่ต้องไม่ทำผิดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจะให้พรรคภูมิใจไทย ไปโหวตก็ไม่ได้ เพราะวันนี้ก็มีคนไปร้องต่อศาลแล้ว เราต้องการความชัดเจน ถ้าตีความกันเองแล้วตีความผิด จะวุ่นวาย เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะนำไปสู่การยุบสภาหรือไม่ นายอนุทิน ได้ชี้นิ้วไปที่ตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมระบุว่า ต้องไปถามคนบนตึกไทยฯ ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าภูมิใจไทย ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล จะทำให้มีการยุบสภา หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ไม่มีถ้า อยู่ เพราะคนละเรื่องกัน"
เมื่อถามว่า หากเลือกตั้งคราวหน้า จะชูเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แก้เป็นบางส่วนที่พรรคเห็นว่าสมควรแก้ เรื่องที่ไม่ค่อยเป็นประชาธิปไตย เช่น ที่มา ส.ว. ตนไม่เห็นด้วย แต่ก็ทนเอา
“อย่างมากก็ 5 ปี เมื่อบทเฉพาะกาลหมด ก็หมด มันไม่ใช่เป็นปัญหา แล้วเราจะชักใบให้เรือเสียทำไม ไดโนเสาร์มันก็ไปเอง ไม่มีใครไปทำลายเขาได้” นายอนุทิน กล่าว
ออกแถลงการณ์ขอโทษ ปชช.
วันเดียวกัน พรรคภูมิใจไทย ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ทุกประการ เพราะเราพลาดจริงๆ ที่ตามเกมการเมืองของผู้ที่จ้องจะล้มกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทัน เนื่องจากเราคิดไม่ถึงว่าจะมีการพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงกันตลอดทั้งวัน เป็นการเล่นเกมที่จะเอาชนะกัน โดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชนที่จับตาดูการประชุมรัฐสภา และเฝ้ารอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องขอโทษที่ไม่สามารถรักษาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ให้มี ส.ส.ร.ไว้ได้
“เนาวรัตน์-พิศาล” ส.ว.เห็นชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ วาระ 3 พบว่า ในส่วนคะแนนเห็นชอบ 208 เสียงนั้น เป็นของส.ส. 206 คน ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนอีก 2 เสียงเป็นของ ส.ว.ได้แก่ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และนายพิศาล มาณวพัฒน์ ซึ่งเป็น 2 ใน 3 ส.ว.ที่เคยลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์
ขณะที่คะแนนเสียงไม่เห็นชอบ จำนวน 4 เสียงเป็นของ ส.ว.ทั้งหมดคือ นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม, นพ.พลเดช ปิ่นประทีป, นายไพฑูรย์ หลิมวัฒนา และนายเสรี สุวรรณภานนท์
ส่วนผู้ที่ไม่ประสงค์ลงคะแนน 136 เสียง เป็น ส.ส. 9 เสียง อาทิ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา, นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ, นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นต้น และ ส.ว. 127 เสียง อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก, นายคำนูณ สิทธิสมาน, นายเจตน์ ศิรธรานนท์, พล.อ.นพดล อินทปัญญา, พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา และนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ เป็นต้น
“26 เพื่อไทย” ชิ่งโหวตด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก ส.ส.ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา ที่วอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุม ไม่ร่วมลงมติวาระ 3 แล้ว ยังพบว่า มี ส.ส.อีก 200 กว่าคน และ ส.ว.อีก 33 คนที่ไม่ขานมติลงมติใดๆ โดยบางรายอยู่ในห้องประชุมขณะลงมติด้วย
ขณะเดียวกันยังมี ส.ส.เพื่อไทย 26 คน ที่ลงมติใดๆเช่นกัน อาทิ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์, นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม, นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม., นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม เป็นต้น
“เลขาฯ พท.”ฮึ่มชี้แจงด่วน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงมาตรการลงโทษ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้ง 26 คน ที่ไม่ลงมติว่า ขณะนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงนามในหนังสือแจ้งให้ ส.ส.ทั้ง 26 คน ชี้แจงเหตุผลกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรถึงเหตุผลที่ไม่ลงคะแนนแล้ว โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ถือว่าขัดมติพรรค ที่สำคัญร่างรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายใหญ่ ดังนั้นส.ส.ทั้ง 26 คนต้องมีเหตุผลที่ฟังขึ้นมากพอ ทั้งนี้ พรรคให้เวลา 7 วันในการทำหนังสือชี้แจงเหตุผลกลับมา จากนั้นพรรคจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาบทลงโทษต่อไป
“วัน” รับกลัวมีความผิด
นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า ขณะที่มีการลงมติแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ได้ออกจากรัฐสภาแล้วเนื่องจากมีภารกิจ ประกอบกับได้ศึกษาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้ระบุว่าให้ลงมติได้ พร้อมย้ำว่าเคารพพรรคและข้อบังคับพรรคอย่างเคร่งครัด เมื่อพรรคมีมติซึ่งเชื่อว่าขัดแย้งกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญซึ่งผูกพันทุกองค์กร ส่วนข้อบังคับพรรค เป็นเรื่องภายในของพรรค
“เกรงว่าการลงมติจะมีความผิด จึงตัดสินใจออกจากรัฐสภาและหากว่าการกระทำเป็นความผิดก็ขอน้อมรับการพิจารณาของพรรคทุกกรณี” นายวัน ระบุ
“พี่ศรี” จ่อร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า....คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ" ทุกสมาชิกรัฐสภาที่โหวตให้ผ่าน วาระ 3 ไปเมื่อคืน..."ต้องรับผิดชอบ" เพราะเข้าข่ายผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง เดี๋ยวเจอกันที่ ป.ป.ช..
จากกรณีที่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาลงมติญัตติพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพิ่มเติมมาตรา 15/1 วาระ 3 เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่าน โดยผลโหวต 208 เสียง แบ่งเป็น ส.ส. 206 เสียง และ ส.ว. 2 เสียง, ไม่เห็นชอบ 4 เสียง เป็น ส.ว.ทั้ง 4 เสียง, งดออกเสียง 94 เสียง แบ่งเป็น ส.ส. 10 เสียง และ ส.ว. 84 เสียง และไม่ประสงค์ลงคะแนน 136 เสียง แบ่งเป็น ส.ส. 9 เสียง และ ส.ว. 127 เสียง ซึ่งคะแนนเห็นชอบไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งสองสภา หรือ 369 เสียง จาก 373 เสียงในปัจจุบัน และไม่ได้เสียง ส.ว.ถึง 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง ส่งผลให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตกไป
วานนี้ (18 มี.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการดำเนินการต่อไปหลังจากนี้ว่า หากจะเสนอแก้ไขรายมาตรา ก็ต้องรอเสนอในสมัยประชุมหน้า ส่วนในเรื่องประเด็นการร่างกฎหมายใหม่ทั้งฉบับ และการทำประชามติ ขณะนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน ทางรัฐสภาก็ได้มีการหารือว่า จะมีกระบวนการในการทำอย่างไร ซึ่งยังตอบไม่ได้ และต้องยอมรับว่า รัฐธรรมนูญเขียนมาเพื่อไม่ให้แก้ไข หรือให้แก้ยากที่สุด
"บิ๊กป้อม" ปัดหักหลังพรรคร่วมฯ
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลหลังโหวตวาระ 3 ที่ระบุว่าฉ้อฉลศรีธนญชัยว่า ไม่มีผลต่อการร่วมรัฐบาล เพราะเราปล่อยฟรีโหวต ยืนยันเราตั้งใจจะแก้ เราแก้อยู่แล้ว แต่จะแก้อย่างไร ต้องทำให้ถูกระเบียบตามที่มีอำนาจ
“หักหลังเรื่องอะไร ก็บอกว่าฟรีโหวต จะไปหักหลังอย่างไร คงเห็นว่าดึกแล้วก็เลยเสนอให้ลงมติ แต่ยืนยันว่าเราปล่อยฟรีโหวตอยู่แล้วไม่มีหักหลัง” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ปชป.ดิ้นหาช่องแก้ ม.256 อีก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคได้ทำหน้าที่สุดความสามารถแล้ว และยืนยันว่า พรรคจะยืนอยู่จุดเดิม ต้องการให้รับธรรมนูญ และประเทศ เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นกว่าเดิม ขณะนี้ที่คิดได้แบบเร็วๆ อย่างน้อย เราต้องเดินหน้าแก้ไขรายมาตรา โดยกล่าวไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า กุญแจดอกใหญ่ที่คล้องประตูประชาธิปไตยไว้ไม่ให้เปิดออก หรือเปิดได้ยาก คือ มาตรา 256 ว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรับธรรมนูญ ซึ่งกำหนดไว้อย่างซับซ้อน ถ้าไม่สะเดาะกุญแจดอกนี้ออกเสียก่อน ประตูประชาธิปไตยก็จะเปิดออกยาก
โห่ “ภท.” เล่นละครวอล์กเอาต์
นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เป็นการเล่นเกมการเมืองของหลายฝ่าย และชี้ให้เห็นแล้วว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใครของจริง ของปลอม โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ที่ส่วนตัวรู้สึกสับสน เพราะคาดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีการวอล์กเอาต์ เพราะฝ่ายค้านยังคาดหวังเสียงจากพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศมาตลอดว่าจะแก้ไขรับธรรมนูญ และคาดว่าจะสามารถพลิกเกม ให้ผ่านความเห็นชอบไปได้ แต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยใช้วิธีการนี้ ก็ยอมรับว่าผิดหวัง
เช่นเดียวกับ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ทวีตข้อความว่า “พรรคภูมิใจไทยหาเสียงกับประชาชนแท้ๆว่า จะแก้รัฐธรรมนูญ ถึงเวลาต้องโหวตกลับไม่โหวต เดินออกไปเฉย น่าไม่อายจริงๆ”
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านทำเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่มีขบวนการเหนี่ยวรั้งตลอดเวลา เมื่อคืนก็แสดงบทบาทไม่เอาอย่างนั้น อย่างนี้ โวยวายในสภาแล้วก็หลบไม่ลงคะแนน ควรจะลงคะแนน ไม่ใช่มาเล่นบทหลอกลวงประชาชนไปวันๆ
“อนุทิน” แจงเหตุต้องวอล์กเอาต์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยพยายามจะรักษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเอาไว้ แต่ต้องไม่ทำผิดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจะให้พรรคภูมิใจไทย ไปโหวตก็ไม่ได้ เพราะวันนี้ก็มีคนไปร้องต่อศาลแล้ว เราต้องการความชัดเจน ถ้าตีความกันเองแล้วตีความผิด จะวุ่นวาย เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะนำไปสู่การยุบสภาหรือไม่ นายอนุทิน ได้ชี้นิ้วไปที่ตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมระบุว่า ต้องไปถามคนบนตึกไทยฯ ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าภูมิใจไทย ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล จะทำให้มีการยุบสภา หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ไม่มีถ้า อยู่ เพราะคนละเรื่องกัน"
เมื่อถามว่า หากเลือกตั้งคราวหน้า จะชูเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แก้เป็นบางส่วนที่พรรคเห็นว่าสมควรแก้ เรื่องที่ไม่ค่อยเป็นประชาธิปไตย เช่น ที่มา ส.ว. ตนไม่เห็นด้วย แต่ก็ทนเอา
“อย่างมากก็ 5 ปี เมื่อบทเฉพาะกาลหมด ก็หมด มันไม่ใช่เป็นปัญหา แล้วเราจะชักใบให้เรือเสียทำไม ไดโนเสาร์มันก็ไปเอง ไม่มีใครไปทำลายเขาได้” นายอนุทิน กล่าว
ออกแถลงการณ์ขอโทษ ปชช.
วันเดียวกัน พรรคภูมิใจไทย ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ทุกประการ เพราะเราพลาดจริงๆ ที่ตามเกมการเมืองของผู้ที่จ้องจะล้มกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทัน เนื่องจากเราคิดไม่ถึงว่าจะมีการพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงกันตลอดทั้งวัน เป็นการเล่นเกมที่จะเอาชนะกัน โดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชนที่จับตาดูการประชุมรัฐสภา และเฝ้ารอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องขอโทษที่ไม่สามารถรักษาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ให้มี ส.ส.ร.ไว้ได้
“เนาวรัตน์-พิศาล” ส.ว.เห็นชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ วาระ 3 พบว่า ในส่วนคะแนนเห็นชอบ 208 เสียงนั้น เป็นของส.ส. 206 คน ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนอีก 2 เสียงเป็นของ ส.ว.ได้แก่ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และนายพิศาล มาณวพัฒน์ ซึ่งเป็น 2 ใน 3 ส.ว.ที่เคยลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์
ขณะที่คะแนนเสียงไม่เห็นชอบ จำนวน 4 เสียงเป็นของ ส.ว.ทั้งหมดคือ นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม, นพ.พลเดช ปิ่นประทีป, นายไพฑูรย์ หลิมวัฒนา และนายเสรี สุวรรณภานนท์
ส่วนผู้ที่ไม่ประสงค์ลงคะแนน 136 เสียง เป็น ส.ส. 9 เสียง อาทิ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา, นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ, นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นต้น และ ส.ว. 127 เสียง อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก, นายคำนูณ สิทธิสมาน, นายเจตน์ ศิรธรานนท์, พล.อ.นพดล อินทปัญญา, พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา และนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ เป็นต้น
“26 เพื่อไทย” ชิ่งโหวตด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก ส.ส.ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา ที่วอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุม ไม่ร่วมลงมติวาระ 3 แล้ว ยังพบว่า มี ส.ส.อีก 200 กว่าคน และ ส.ว.อีก 33 คนที่ไม่ขานมติลงมติใดๆ โดยบางรายอยู่ในห้องประชุมขณะลงมติด้วย
ขณะเดียวกันยังมี ส.ส.เพื่อไทย 26 คน ที่ลงมติใดๆเช่นกัน อาทิ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์, นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม, นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม., นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม เป็นต้น
“เลขาฯ พท.”ฮึ่มชี้แจงด่วน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงมาตรการลงโทษ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้ง 26 คน ที่ไม่ลงมติว่า ขณะนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงนามในหนังสือแจ้งให้ ส.ส.ทั้ง 26 คน ชี้แจงเหตุผลกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรถึงเหตุผลที่ไม่ลงคะแนนแล้ว โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ถือว่าขัดมติพรรค ที่สำคัญร่างรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายใหญ่ ดังนั้นส.ส.ทั้ง 26 คนต้องมีเหตุผลที่ฟังขึ้นมากพอ ทั้งนี้ พรรคให้เวลา 7 วันในการทำหนังสือชี้แจงเหตุผลกลับมา จากนั้นพรรคจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาบทลงโทษต่อไป
“วัน” รับกลัวมีความผิด
นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า ขณะที่มีการลงมติแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ได้ออกจากรัฐสภาแล้วเนื่องจากมีภารกิจ ประกอบกับได้ศึกษาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้ระบุว่าให้ลงมติได้ พร้อมย้ำว่าเคารพพรรคและข้อบังคับพรรคอย่างเคร่งครัด เมื่อพรรคมีมติซึ่งเชื่อว่าขัดแย้งกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญซึ่งผูกพันทุกองค์กร ส่วนข้อบังคับพรรค เป็นเรื่องภายในของพรรค
“เกรงว่าการลงมติจะมีความผิด จึงตัดสินใจออกจากรัฐสภาและหากว่าการกระทำเป็นความผิดก็ขอน้อมรับการพิจารณาของพรรคทุกกรณี” นายวัน ระบุ
“พี่ศรี” จ่อร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า....คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ" ทุกสมาชิกรัฐสภาที่โหวตให้ผ่าน วาระ 3 ไปเมื่อคืน..."ต้องรับผิดชอบ" เพราะเข้าข่ายผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง เดี๋ยวเจอกันที่ ป.ป.ช..