“ปปง.” แถลงมติยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายบ่อนพนัน "หลงจู้สมชาย-เสี่ยโป้" กว่า 1,200 ล้านบาท พบเส้นทางการเงินโยงกันมาจาก “บ่อนมาบตาพุด” ด้าน “จเรตำรวจ” เผย กก.สืบสวนข้อเท็จจริง 7 นายตำรวจ บกพร่องปล่อยให้มีบ่อนพนันระยอง-ชลบุรี
วานนี้ (11มี.ค.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการดำเนินคดี ยึดและอายัดทรัพย์สินจากเครือข่ายการพนันรายใหญ่ คือบ่อนการพนัน ต.มาบตาพุด จ.ระยอง ที่พบความเชื่อมโยง มาถึงนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ หลงจู๊ กับพวก และนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ น.ส.บานเย็น ชาญนรา มารดากับพวก โดยมีทรัพย์สินที่ยึดอายัด มีจำนวน 430 รายการ เช่นเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร เครื่องประดับ ทองรูปพรรณ ยานพาหนะ ห้องชุด ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นประมาณ1,200 ล้านบาท
พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. เปิดเผยว่า คดีนายสมชาย และนายเสี่ยโป้ ยืนยันว่าเส้นทางทางการเงินมีความสัมพันธ์กัน แต่ไม่สามารถระบุตัวเลข และแบ่งแยกรายการทรัพย์ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ถูกยึดทรัพย์ได้ โดยตอนนี้ ปปง.จะทำการยึดชั่วคราว รวบรวมหลักฐาน 60 วัน เพื่อสรุปสำนวนส่งให้อัยการ พิจารณาส่งฟ้องศาลแพ่งภายใน 30 วัน โดยระหว่าง 90 วันนี้ ผู้ที่ได้รับความเสียหาย หรือได้รับผลกระทบจากการถูกยึดอายัดทรัพย์สามารถ เข้าชี้แจงร้องขอความเป็นธรรมกับ ปปง.ได้ นอกจากนี้ ปปง.ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด และผู้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนายเสี่ยโป้ และนายสมชาย อีกกว่า 100 ราย เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรม และตัดเส้นทางทางการเงินของผู้กระทำความผิดในคดีดังกล่าว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินทั้งหมดได้
“ยืนยันว่าการตรวจสอบเส้นทางการเงินและยึดอายัดทรัพย์เป็นไปตามพยานหลักฐาน เน้นเส้นทางการเงินที่มีการโยกย้ายถ่ายโอน ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากคดีมูลฐานบ่อนมาบตาพุดจังหวัดระยอง ที่นายสมชายถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับบ่อนการพนัน” พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ระบุ
ด้าน พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานคณะกรรมการ ปปง. ย้ำว่า หากผู้ที่ได้รับความเสียหาย หรือได้รับผลกระทบจากการถูกยึดอายัดทรัพย์สามารถเข้าชี้แจง ร้องขอความเป็นธรรมกับปปง.ได้ ยืนยันการทำงานของปปง. เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายฟอกเงิน ที่จะยึดทรัพย์ของผู้กระทำความผิดให้ตกเป็นของแผ่นดิน ไม่เน้นตอบโต้กับผู้ใดทั้งสิ้น
สำหรับการแถลงครั้งนี้ ปปง.แถลงการยึดทรัพย์สินคดีสำคัญที่ประชาชน ให้ความสนใจในระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 59 ถึงปัจจุบัน สามารถยึดอายัดทรัพย์ได้ 28 คดีใหญ่ มูลค่า 47,469 ล้านบาท และในปี 64 ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.ถึงปัจจุบัน ระยะเวลากว่า 2 เดือน สามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้ 63 คดี รวมมูลค่าประมาณ 1,563 ล้านบาท
อีกด้าน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการทางวินัยกับตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบเล่นการพนันในบ่อนการพนันในพื้นที่ภาคตะวันออก สาเหตุหนึ่งในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกับ พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง และ พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กับพวกรวม 7 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนัน ในพื้นที่ จ.ระยองและชลบุรีนั้น คณะกรรมการฯรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว มีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดทราบ ตั้งแต่ วันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา และให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงเป็นเอกสาร หรือระบุพยานบุคคล เพื่อให้คณะกรรมการสอบปากคำพยานตามสิทธิภายใน 15 วัน เพื่อหักล้างข้อกล่าวหา
"ผู้ถูกกล่าวหาได้ร้องขอให้คณะกรรมการฯ สอบปากคำพยานอีกจำนวนหลายปาก และเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง เพื่อให้เกิดความยุติธรรม จึงมีเหตุผลและความจำเป็นต้องสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องขยายเวลาสืบสวนออกไป คณะกรรมการฯ จึงขออนุมัติขยายเวลาการสืบสวนออกไปอีก 30 วัน" จตช. ระบุ
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า เบื้องต้นคณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า เนื่องจากบ่อนการพนันดังกล่าวเปิดมานาน การสืบสวนจึงพาดพิงข้าราชการตำรวจเพิ่มอีก 253 นาย จำแนกเป็นระดับชั้น นายพล ถึง สว. 53 นาย ระดับรอง สว. ถึง ผบ.หมู่ 200 นาย ในสังกัด ภ.2 , บก.สส.ภ.2 , ภ.จว.ชลบุรี , ภ.จว.ระยอง , กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี , กก.สส.ภ.จว.ระยอง , สภ.เมืองระยอง และ สภ.บางละมุง ตรงนี้เป็นไปตามคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 เรื่องการพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ รายงานผลการสืบสวนพาดพิงให้ ผบ.ตร. (ผ่าน กองวินัย) เพื่อพิจารณาสั่งดำเนินการทางวินัยกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
วานนี้ (11มี.ค.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการดำเนินคดี ยึดและอายัดทรัพย์สินจากเครือข่ายการพนันรายใหญ่ คือบ่อนการพนัน ต.มาบตาพุด จ.ระยอง ที่พบความเชื่อมโยง มาถึงนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ หลงจู๊ กับพวก และนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ น.ส.บานเย็น ชาญนรา มารดากับพวก โดยมีทรัพย์สินที่ยึดอายัด มีจำนวน 430 รายการ เช่นเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร เครื่องประดับ ทองรูปพรรณ ยานพาหนะ ห้องชุด ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นประมาณ1,200 ล้านบาท
พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. เปิดเผยว่า คดีนายสมชาย และนายเสี่ยโป้ ยืนยันว่าเส้นทางทางการเงินมีความสัมพันธ์กัน แต่ไม่สามารถระบุตัวเลข และแบ่งแยกรายการทรัพย์ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ถูกยึดทรัพย์ได้ โดยตอนนี้ ปปง.จะทำการยึดชั่วคราว รวบรวมหลักฐาน 60 วัน เพื่อสรุปสำนวนส่งให้อัยการ พิจารณาส่งฟ้องศาลแพ่งภายใน 30 วัน โดยระหว่าง 90 วันนี้ ผู้ที่ได้รับความเสียหาย หรือได้รับผลกระทบจากการถูกยึดอายัดทรัพย์สามารถ เข้าชี้แจงร้องขอความเป็นธรรมกับ ปปง.ได้ นอกจากนี้ ปปง.ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด และผู้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนายเสี่ยโป้ และนายสมชาย อีกกว่า 100 ราย เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรม และตัดเส้นทางทางการเงินของผู้กระทำความผิดในคดีดังกล่าว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินทั้งหมดได้
“ยืนยันว่าการตรวจสอบเส้นทางการเงินและยึดอายัดทรัพย์เป็นไปตามพยานหลักฐาน เน้นเส้นทางการเงินที่มีการโยกย้ายถ่ายโอน ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากคดีมูลฐานบ่อนมาบตาพุดจังหวัดระยอง ที่นายสมชายถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับบ่อนการพนัน” พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ระบุ
ด้าน พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานคณะกรรมการ ปปง. ย้ำว่า หากผู้ที่ได้รับความเสียหาย หรือได้รับผลกระทบจากการถูกยึดอายัดทรัพย์สามารถเข้าชี้แจง ร้องขอความเป็นธรรมกับปปง.ได้ ยืนยันการทำงานของปปง. เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายฟอกเงิน ที่จะยึดทรัพย์ของผู้กระทำความผิดให้ตกเป็นของแผ่นดิน ไม่เน้นตอบโต้กับผู้ใดทั้งสิ้น
สำหรับการแถลงครั้งนี้ ปปง.แถลงการยึดทรัพย์สินคดีสำคัญที่ประชาชน ให้ความสนใจในระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 59 ถึงปัจจุบัน สามารถยึดอายัดทรัพย์ได้ 28 คดีใหญ่ มูลค่า 47,469 ล้านบาท และในปี 64 ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.ถึงปัจจุบัน ระยะเวลากว่า 2 เดือน สามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้ 63 คดี รวมมูลค่าประมาณ 1,563 ล้านบาท
อีกด้าน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการทางวินัยกับตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบเล่นการพนันในบ่อนการพนันในพื้นที่ภาคตะวันออก สาเหตุหนึ่งในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกับ พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง และ พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กับพวกรวม 7 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนัน ในพื้นที่ จ.ระยองและชลบุรีนั้น คณะกรรมการฯรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว มีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดทราบ ตั้งแต่ วันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา และให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงเป็นเอกสาร หรือระบุพยานบุคคล เพื่อให้คณะกรรมการสอบปากคำพยานตามสิทธิภายใน 15 วัน เพื่อหักล้างข้อกล่าวหา
"ผู้ถูกกล่าวหาได้ร้องขอให้คณะกรรมการฯ สอบปากคำพยานอีกจำนวนหลายปาก และเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง เพื่อให้เกิดความยุติธรรม จึงมีเหตุผลและความจำเป็นต้องสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องขยายเวลาสืบสวนออกไป คณะกรรมการฯ จึงขออนุมัติขยายเวลาการสืบสวนออกไปอีก 30 วัน" จตช. ระบุ
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า เบื้องต้นคณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า เนื่องจากบ่อนการพนันดังกล่าวเปิดมานาน การสืบสวนจึงพาดพิงข้าราชการตำรวจเพิ่มอีก 253 นาย จำแนกเป็นระดับชั้น นายพล ถึง สว. 53 นาย ระดับรอง สว. ถึง ผบ.หมู่ 200 นาย ในสังกัด ภ.2 , บก.สส.ภ.2 , ภ.จว.ชลบุรี , ภ.จว.ระยอง , กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี , กก.สส.ภ.จว.ระยอง , สภ.เมืองระยอง และ สภ.บางละมุง ตรงนี้เป็นไปตามคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 เรื่องการพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ รายงานผลการสืบสวนพาดพิงให้ ผบ.ตร. (ผ่าน กองวินัย) เพื่อพิจารณาสั่งดำเนินการทางวินัยกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป