กองปราบปรามเร่งประสาน ปปง. จ่อยึดทรัพย์โครงการหมู่บ้านหรูร้อยล้าน หลังพบความเชื่อมโยง “หลงจู๊สมชาย-เสี่ยโป้”ร่วมลงทุน พร้อมรุกตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากพบหลักฐานมีการโยกย้ายการเงินเกี่ยวกับการพนัน จะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินทันที
วานนี้ (14 ก.พ.) พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้า คดีนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ "หลงจู๊สมชาย" เจ้าของบ่อนอิทธิพลในพื้นที่ภาคตะวันออกว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้กองปราบปรามเป็นผู้ทำสำนวน ในส่วนของทางกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 รับผิดชอบในส่วนของการติดตามตัว 4 ผู้ต้องหา ที่มีส่วนร่วมกับกระทำความผิดกับนายสมชาย ในส่วนนี้ตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดติดตามตัวอยู่
ทั้งนี้ ขอฝากประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนไปยังพี่น้องประชาชนว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดช่องทาง LINE OFFICIAL และเว็บไซต์ รับแจ้งเบาะแสการลักลอบเล่นการพนันทุกรูปแบบ ชื่อว่า Gambling Report ให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสได้อย่างสะดวก หากพบเบาะแสของผู้ต้องหาที่หลบหนี สามารถแจ้งได้ตลอด 24 ชม. โดยจะเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ ขอให้สบายใจได้
ด้านพ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. กล่าวว่า ทางกองปราบฯ ได้ประสานไปยัง สำนักงาน ปปง. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของ"หลงจู๊สมชาย" ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบหาพยานหลักฐาน และความเชื่อมโยง ทั้งนี้หากพบหลักฐานปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการนำเงินที่ได้จากการจัดให้มีการเล่นพนัน หรือจากการกระทำความผิด ยักย้ายถ่ายเทไปลงทุน แปรรูปในกิจการอื่นใด หากพบก็จะเข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงิน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ชุดสืบสวนพบข้อมูลสำคัญว่า นายสมชาย และครอบครัว ลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ในพื้นที่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง สอดรับกับก่อนหน้านี้ ที่นายเสี่ยโป้ เคยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการแฉ ที่มี นายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ, นายวรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ หรือ น็อต และ นายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม หรือ ดีเจเชาเชา เป็นพิธีกร ถึงความร่ำรวย การได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง โดยเนื้อหาในรายการเป็นการสัมภาษณ์นายเสี่ยโป้ ในวันที่ 7 ต.ค. 62 หัวข้อ “เปิดความร่ำรวย เสี่ยโป้ อานนท์ อายุ 27 ทำธุรกิจรอบด้าน ทั้งธุรกิจสีขาว และสีเทา”ซึ่งบางช่วงบางตอนของการสัมภาษณ์ นายเสี่ยโป้ ได้เปิดเผยว่า มีการลงทุนทำอสังหาริมทรัพย์กับหุ้นส่วนในจ.ระยอง มีหุ้นส่วนกันหลายคนในการลงทุนทำอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้ พร้อมระบุว่า โครงการอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมี "เสี่ยสมชาย ระยอง" หรือ นายสมชาย จุติกิติ์เดชา เป็นประธานบริษัท
นอกจากนี้ นายเสี่ยโป้ ได้เปิดเผยอีกว่าโครงการดังกล่าว ลงทุนเป็นร้อยล้าน ส่วนของเสี่ยโป้เองได้ลงทุนไปส่วนหนึ่ง นอกจากการสัมภาษณ์โปรโมตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว นายเสี่ยโป้ ยังระบุว่าได้ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เป็นครีมบำรุงผิวจากประเทศเกาหลี ซึ่งธุรกิจนี้ทางภรรยาเสี่ยโป้ เป็นผู้นำเข้า
รายงานข่าวระบุว่า สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่นายเสี่ยโป้อ้างว่าได้ทำร่วมกับนายสมชายนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ชื่อโครงการเดอะ แคปปิทอล ซอย 6 จดทะเบียนในนาม บริษัท เดอะ แคปปิทอล จำกัด ซึ่งมีที่ตั้งของโครงการอยู่ที่ ซอย 6 ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง โดยบริษัทดังกล่าว มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท มีนายสมชาย จุติกิติ์เดชา และ นายธนา จุติกิติ์เดชา (บุตรชาย) เป็นกรรมการผู้จัดการ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนก.พ.62 เสร็จสิ้นเดือนก.พ.63 ซึ่งโครงการบ้านจัดสรรดังกล่าว ได้มีการประชาสัมพันธ์ว่า เป็นบ้านที่มีวิวธรรมชาติ ภูเขาล้อมรอบ รวมทั้งมีบ้านที่เป็นพูลวิลล่าอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องนี้
วานนี้ (14 ก.พ.) พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้า คดีนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ "หลงจู๊สมชาย" เจ้าของบ่อนอิทธิพลในพื้นที่ภาคตะวันออกว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้กองปราบปรามเป็นผู้ทำสำนวน ในส่วนของทางกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 รับผิดชอบในส่วนของการติดตามตัว 4 ผู้ต้องหา ที่มีส่วนร่วมกับกระทำความผิดกับนายสมชาย ในส่วนนี้ตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดติดตามตัวอยู่
ทั้งนี้ ขอฝากประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนไปยังพี่น้องประชาชนว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดช่องทาง LINE OFFICIAL และเว็บไซต์ รับแจ้งเบาะแสการลักลอบเล่นการพนันทุกรูปแบบ ชื่อว่า Gambling Report ให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสได้อย่างสะดวก หากพบเบาะแสของผู้ต้องหาที่หลบหนี สามารถแจ้งได้ตลอด 24 ชม. โดยจะเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ ขอให้สบายใจได้
ด้านพ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. กล่าวว่า ทางกองปราบฯ ได้ประสานไปยัง สำนักงาน ปปง. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของ"หลงจู๊สมชาย" ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบหาพยานหลักฐาน และความเชื่อมโยง ทั้งนี้หากพบหลักฐานปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการนำเงินที่ได้จากการจัดให้มีการเล่นพนัน หรือจากการกระทำความผิด ยักย้ายถ่ายเทไปลงทุน แปรรูปในกิจการอื่นใด หากพบก็จะเข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงิน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ชุดสืบสวนพบข้อมูลสำคัญว่า นายสมชาย และครอบครัว ลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ในพื้นที่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง สอดรับกับก่อนหน้านี้ ที่นายเสี่ยโป้ เคยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการแฉ ที่มี นายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ, นายวรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ หรือ น็อต และ นายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม หรือ ดีเจเชาเชา เป็นพิธีกร ถึงความร่ำรวย การได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง โดยเนื้อหาในรายการเป็นการสัมภาษณ์นายเสี่ยโป้ ในวันที่ 7 ต.ค. 62 หัวข้อ “เปิดความร่ำรวย เสี่ยโป้ อานนท์ อายุ 27 ทำธุรกิจรอบด้าน ทั้งธุรกิจสีขาว และสีเทา”ซึ่งบางช่วงบางตอนของการสัมภาษณ์ นายเสี่ยโป้ ได้เปิดเผยว่า มีการลงทุนทำอสังหาริมทรัพย์กับหุ้นส่วนในจ.ระยอง มีหุ้นส่วนกันหลายคนในการลงทุนทำอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้ พร้อมระบุว่า โครงการอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมี "เสี่ยสมชาย ระยอง" หรือ นายสมชาย จุติกิติ์เดชา เป็นประธานบริษัท
นอกจากนี้ นายเสี่ยโป้ ได้เปิดเผยอีกว่าโครงการดังกล่าว ลงทุนเป็นร้อยล้าน ส่วนของเสี่ยโป้เองได้ลงทุนไปส่วนหนึ่ง นอกจากการสัมภาษณ์โปรโมตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว นายเสี่ยโป้ ยังระบุว่าได้ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เป็นครีมบำรุงผิวจากประเทศเกาหลี ซึ่งธุรกิจนี้ทางภรรยาเสี่ยโป้ เป็นผู้นำเข้า
รายงานข่าวระบุว่า สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่นายเสี่ยโป้อ้างว่าได้ทำร่วมกับนายสมชายนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ชื่อโครงการเดอะ แคปปิทอล ซอย 6 จดทะเบียนในนาม บริษัท เดอะ แคปปิทอล จำกัด ซึ่งมีที่ตั้งของโครงการอยู่ที่ ซอย 6 ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง โดยบริษัทดังกล่าว มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท มีนายสมชาย จุติกิติ์เดชา และ นายธนา จุติกิติ์เดชา (บุตรชาย) เป็นกรรมการผู้จัดการ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนก.พ.62 เสร็จสิ้นเดือนก.พ.63 ซึ่งโครงการบ้านจัดสรรดังกล่าว ได้มีการประชาสัมพันธ์ว่า เป็นบ้านที่มีวิวธรรมชาติ ภูเขาล้อมรอบ รวมทั้งมีบ้านที่เป็นพูลวิลล่าอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องนี้