โควิด กระทบรถไฟฟ้า"ชมพู-เหลือง" นำเข้าอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าเครื่องกล สะดุด ส่งมอบขบวนรถดีเลย์ รฟม.ประเมินต.ค.64 ยังเปิดไม่ได้ ส่วนสายสีชมพูต่อขยาย เข้าเมืองทองฯ ส่งอัยการฯตรวจสัญญาแนบท้ายแล้ว คาดไม่เกิน 1เดือน เข้าครม.
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. ว่าการก่อสร้าง งานโยธายังเป็นไปตามแผน ซึ่งการแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ ไม่มีผลกระทบต่อแรงงาน เนื่องจากมีการเข้มงวดมาตรการป้องกันโควิดในแคมป์ก่อสร้าง
แต่ส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เป็นเรื่องของอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าเครื่องกล ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งยังมีการแพร่ระบาดของโควิด ด้วยเช่นกัน โดยอุปกรณ์บางชนิดยังสามารถผลิตได้ แต่จะมีขั้นตอนในการส่งลงเรือ หรือขั้นตอนทางศุลกากร ที่ต้องใช้เวลามากขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง ในการทำงานมากขึ้นด้วย ซึ่งทางบริษัทนอร์ทเทิร์น บางกอก โมโนเรล จำกัด (NBM)ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM)ผู้รับสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ ได้ปรับแผนการทำงานในส่วนที่ทำได้ ไปก่อน
อย่างไรก็ตาม แผนการเปิดเดินรถสายสีชมพู และสีเหลือง แบบเป็นช่วงๆ (Partial)ในเดือนต.ค.64 นั้น จะต้องมีการประเมินอีกครั้ง และอาจจะเลื่อนออกไปเป็นต้นปี 65
สำหรับ ขบวนรถไฟฟ้าจากที่มีการรับ 2 ขบวนแรก เข้ามาเมื่อเดือนต.ค.63 นั้น เป็นขบวนรถที่เข้ามาทดสอบไดนามิก และประเมินในส่วนของระบบเพื่อทำการติดตั้งในขบวนรถที่จะผลิตเพิ่มซึ่งเดิม สีชมพู มีรวม 42 ขบวน และ สีเหลือง 30 ขบวน จะส่งมาครบภายในปี 64 แต่ตอนนี้ต้องชะลอไปด้วย
นายภคพงศ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ว่า หลังจากมีประเด็นท้วงติง จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการเสนอครม. เพื่อเห็นชอบว่า รฟม.ยังดำเนินกระบวนการไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด เหตุไม่ได้ส่งร่างสัญญาทั้งฉบับ (สัญญาหลักและเอกสารแนบท้าย) ให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ ซึ่งเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 63 รฟม.ได้จัดส่งร่างเอกสารสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ฉบับเต็ม ให้อัยการสูงสุดอีกครั้ง ซึ่งจากการประสานทราบว่าอัยการสูงสุดจะมีการเสนอผู้มีอำนาจในการลงนาม คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน1 เดือน จากนั้นจะนำเสนอครม.ต่อไป
"เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดของรฟม. ที่ไม่ส่งสัญญาฉบับเต็มให้อัยการตรวจสอบ เพราะเห็นว่าโครงการที่ผ่านๆมา อัยการฯจะตอบว่า ส่วนนี้จะไม่ตรวจเพราะเอกสารแนบท้ายเป็นเรื่องทางเทคนิค ไม่ใช่เนื้อหากฎหมาย รฟม.จึงไม่ส่งสัญญาแนบท้าย เพราะเข้าใจว่าอัยการจะตอบเหมือนเดิม"นายภคพงศ์ กล่าว
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. ว่าการก่อสร้าง งานโยธายังเป็นไปตามแผน ซึ่งการแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ ไม่มีผลกระทบต่อแรงงาน เนื่องจากมีการเข้มงวดมาตรการป้องกันโควิดในแคมป์ก่อสร้าง
แต่ส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เป็นเรื่องของอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าเครื่องกล ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งยังมีการแพร่ระบาดของโควิด ด้วยเช่นกัน โดยอุปกรณ์บางชนิดยังสามารถผลิตได้ แต่จะมีขั้นตอนในการส่งลงเรือ หรือขั้นตอนทางศุลกากร ที่ต้องใช้เวลามากขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง ในการทำงานมากขึ้นด้วย ซึ่งทางบริษัทนอร์ทเทิร์น บางกอก โมโนเรล จำกัด (NBM)ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM)ผู้รับสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ ได้ปรับแผนการทำงานในส่วนที่ทำได้ ไปก่อน
อย่างไรก็ตาม แผนการเปิดเดินรถสายสีชมพู และสีเหลือง แบบเป็นช่วงๆ (Partial)ในเดือนต.ค.64 นั้น จะต้องมีการประเมินอีกครั้ง และอาจจะเลื่อนออกไปเป็นต้นปี 65
สำหรับ ขบวนรถไฟฟ้าจากที่มีการรับ 2 ขบวนแรก เข้ามาเมื่อเดือนต.ค.63 นั้น เป็นขบวนรถที่เข้ามาทดสอบไดนามิก และประเมินในส่วนของระบบเพื่อทำการติดตั้งในขบวนรถที่จะผลิตเพิ่มซึ่งเดิม สีชมพู มีรวม 42 ขบวน และ สีเหลือง 30 ขบวน จะส่งมาครบภายในปี 64 แต่ตอนนี้ต้องชะลอไปด้วย
นายภคพงศ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ว่า หลังจากมีประเด็นท้วงติง จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการเสนอครม. เพื่อเห็นชอบว่า รฟม.ยังดำเนินกระบวนการไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด เหตุไม่ได้ส่งร่างสัญญาทั้งฉบับ (สัญญาหลักและเอกสารแนบท้าย) ให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ ซึ่งเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 63 รฟม.ได้จัดส่งร่างเอกสารสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ฉบับเต็ม ให้อัยการสูงสุดอีกครั้ง ซึ่งจากการประสานทราบว่าอัยการสูงสุดจะมีการเสนอผู้มีอำนาจในการลงนาม คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน1 เดือน จากนั้นจะนำเสนอครม.ต่อไป
"เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดของรฟม. ที่ไม่ส่งสัญญาฉบับเต็มให้อัยการตรวจสอบ เพราะเห็นว่าโครงการที่ผ่านๆมา อัยการฯจะตอบว่า ส่วนนี้จะไม่ตรวจเพราะเอกสารแนบท้ายเป็นเรื่องทางเทคนิค ไม่ใช่เนื้อหากฎหมาย รฟม.จึงไม่ส่งสัญญาแนบท้าย เพราะเข้าใจว่าอัยการจะตอบเหมือนเดิม"นายภคพงศ์ กล่าว
