"ยุทธพงศ์" โว เพื่อไทย-ฝ่ายค้าน ทำรัฐบาลสั่นคลอนหลายเรื่อง เตรียมยื่นซักฟอก25ม.ค.นี้ ลั่นมีหมัดเด็ด "บิ๊กตู่" โดนหนักแน่-ต้องมีคนไปขึ้นศาลรธน.ต่อ ตั้งแท่นถล่มปมรถไฟฟ้า บี้ตัดงบปี 65 ดึงในส่วนของ 3 เหล่าทัพที่ยังไม่จำเป็นมา
วานนี้ (17ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะยื่นญัตติในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ว่าจะเป็นการอภิปรายเป็นรายบุคคล ซึ่งที่ผ่านมาเรามีเรื่องใหญ่ๆ หลายเรื่องที่ทำให้รัฐบาลสั่นคลอน เช่น เรื่องนายกฯอยู่บ้านหลวง จนเรื่องไปจบที่ศาลรธน. รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว ถ้าพรรค พท. ไม่พูด ป่านนี้ต่อสัญญาไปตั้งนานแล้ว และการอภิปรายครั้งนี้ เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยิ่งเข้มข้นขึ้น เพราะแม้แต่ รมว.คมนาคม ก็คัดค้านการต่อสัญญาดังกล่าว
ขณะนี้ กทม.เป็นหนี้ บีทีเอส อยู่ 9,000 ล้านบาท โดยกทม. อ้างว่ามีสาเหตุจาการให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าฟรี หากไม่ต่อสัญญา หลังวันที่ 16 ก.พ. นี้ ประชาชนอาจต้องจ่ายค่าโดยสารสูงสุดถึง 158 บาท ดังนั้น รมว.มหาดไทย ที่ควบคุม กทม. ดูแลอย่างไรถึงให้ประชาชนต้องจ่ายค่าโดยสารถึง 158 บาท และต้องเอาเงินของคน กทม. ที่ไม่ได้นั่งรถไฟฟ้ามาจ่ายด้วยหรือ และขอถามว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. มีอำนาจอะไร ถึงให้นั่งฟรี ดังนั้นการอภิปรายครั้งนี้ จะโยงไปถึงนายกฯ รมว.มหาดไทย และรมว.คลัง ในฐานะผู้ลงนามใน พ.ร.บ.ร่วมทุน
"ฝ่ายค้านมีหมัดเด็ด หลังการอภิปรายจะทำให้มีคนต้องไปศาลรธน.ต่ออีก และครั้งนี้ นายกฯโดนหนักแน่ ผมเชื่อว่ากรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว พรรคภูมิใจไทย จะยกมือให้กับฝ่ายค้านด้วย"
นายยุทธพงศ์ ยังกล่าวถึงการจัดงบปี 65ว่า ในสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ แต่รัฐบาลตัดงบลงทุนออกแบบนี้ ไม่มีใครเขาทำกัน เพราะเป็นงบฯ กระตุ้นศก. ขณะที่ประชาชนจ่ายเงินเยียวยา เพียงเดือนละ 3,500 บาท 2 เดือน เท่านั้น และยังบอกว่า จะให้แค่ 28 จังหวัดเพราะไม่มีเงินแล้ว จึงอยากบอกว่า ผลกระทบจากโควิดไม่ได้มีแค่ 28 จังหวัด หากจะพิจารณาให้เงินช่วยเหลือ ก็ควรช่วยชาวบ้านทั้งประเทศ เพราะเดือดร้อนกันหมด
"ในการจัดทำงบฯปี 65 โดยเฉพาะงบฯของทั้ง 3 เหล่าทัพ กองทัพเรือที่มีการจัดซื้อเรือดำน้ำจีน 2 ลำ จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ในการจัดทำงบปี 64 ก็ชะลอการจัดซื้อออกไป เพราะการระบาดของโควิด-19 ซึ่งการระบาดรอบ 2 ถือว่าหนักกว่า ควรที่จะชะลอการจัดซื้อออกไปแล้วนำเงินมาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดก่อน จึงขอถามว่า นายกฯ และรมว.กลาโหม ไม่ตัดสินใจยกเลิกการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพราะสถานการณ์ประเทศขณะนี้ เรือดำน้ำยังไม่จำเป็น ท่านควรทำเงินตรงนี้มาช่วยเหลือประชาชนก่อนดีหรือไม่"
ส่วนกองทัพบก มีรายการที่ต้องใช้งบฯ ก้อนใหญ่ คือ 1.จัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี วงเงินกว่า 4,200 ล้าน 2. จัดหารถยานเกราะ กว่า 1 พันล้าน และ 3. จัดหายานเกราะล้อยาง เพื่อเสริมสร้างการรบรูปแบบใหม่ 900 ล้าน ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดยังไม่จัดซื้อ เหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่สั่งให้เลื่อนหรือชะลอการซื้อสิ่งเหล่านี้ ส่วนงบฯ กองทัพอากาศ มีรายการใหม่ที่ยังไม่ได้จัดซื้อ คือโครงการจัดหาเครื่องบินโจมตีเบา 4,500 ล้านบาท โครงการสร้างคลังอาวุธ และจัดหาอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด 900 ล้านบาท และโครงการพัฒนาปฏิบัติการในห้วงอวกาศ 1,470 ล้านบาท
" สิ่งเหล่านี้สามารถชะลอได้ และเมื่อนำงบฯ ที่สามารถชะลอได้ของทั้ง 3 เหล่าทัพ มาคำนวณแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท หากเอาไปช่วยเหลือประชาชน คนละ 3,500 บาท คนละ 2 เดือน จะช่วยประชาชนได้อีก 5.43 ล้านคน และเมื่อท่านบอกว่างบประมาณในปีนี้ไม่เพียงพอท่านก็ต้องรู้จักประหยัด ขณะนี้ ที่ท่านสั่งให้หน่วยงานอื่นหั่นงบฯ ตัดงบฯลงทุน ที่จะสร้างงานในต่างจังหวัดให้กับประชาชน แต่ท่านกลับไม่แตะงบฯ กองทัพเลย" นายยุทธพงศ์ กล่าว
วานนี้ (17ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะยื่นญัตติในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ว่าจะเป็นการอภิปรายเป็นรายบุคคล ซึ่งที่ผ่านมาเรามีเรื่องใหญ่ๆ หลายเรื่องที่ทำให้รัฐบาลสั่นคลอน เช่น เรื่องนายกฯอยู่บ้านหลวง จนเรื่องไปจบที่ศาลรธน. รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว ถ้าพรรค พท. ไม่พูด ป่านนี้ต่อสัญญาไปตั้งนานแล้ว และการอภิปรายครั้งนี้ เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยิ่งเข้มข้นขึ้น เพราะแม้แต่ รมว.คมนาคม ก็คัดค้านการต่อสัญญาดังกล่าว
ขณะนี้ กทม.เป็นหนี้ บีทีเอส อยู่ 9,000 ล้านบาท โดยกทม. อ้างว่ามีสาเหตุจาการให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าฟรี หากไม่ต่อสัญญา หลังวันที่ 16 ก.พ. นี้ ประชาชนอาจต้องจ่ายค่าโดยสารสูงสุดถึง 158 บาท ดังนั้น รมว.มหาดไทย ที่ควบคุม กทม. ดูแลอย่างไรถึงให้ประชาชนต้องจ่ายค่าโดยสารถึง 158 บาท และต้องเอาเงินของคน กทม. ที่ไม่ได้นั่งรถไฟฟ้ามาจ่ายด้วยหรือ และขอถามว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. มีอำนาจอะไร ถึงให้นั่งฟรี ดังนั้นการอภิปรายครั้งนี้ จะโยงไปถึงนายกฯ รมว.มหาดไทย และรมว.คลัง ในฐานะผู้ลงนามใน พ.ร.บ.ร่วมทุน
"ฝ่ายค้านมีหมัดเด็ด หลังการอภิปรายจะทำให้มีคนต้องไปศาลรธน.ต่ออีก และครั้งนี้ นายกฯโดนหนักแน่ ผมเชื่อว่ากรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว พรรคภูมิใจไทย จะยกมือให้กับฝ่ายค้านด้วย"
นายยุทธพงศ์ ยังกล่าวถึงการจัดงบปี 65ว่า ในสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ แต่รัฐบาลตัดงบลงทุนออกแบบนี้ ไม่มีใครเขาทำกัน เพราะเป็นงบฯ กระตุ้นศก. ขณะที่ประชาชนจ่ายเงินเยียวยา เพียงเดือนละ 3,500 บาท 2 เดือน เท่านั้น และยังบอกว่า จะให้แค่ 28 จังหวัดเพราะไม่มีเงินแล้ว จึงอยากบอกว่า ผลกระทบจากโควิดไม่ได้มีแค่ 28 จังหวัด หากจะพิจารณาให้เงินช่วยเหลือ ก็ควรช่วยชาวบ้านทั้งประเทศ เพราะเดือดร้อนกันหมด
"ในการจัดทำงบฯปี 65 โดยเฉพาะงบฯของทั้ง 3 เหล่าทัพ กองทัพเรือที่มีการจัดซื้อเรือดำน้ำจีน 2 ลำ จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ในการจัดทำงบปี 64 ก็ชะลอการจัดซื้อออกไป เพราะการระบาดของโควิด-19 ซึ่งการระบาดรอบ 2 ถือว่าหนักกว่า ควรที่จะชะลอการจัดซื้อออกไปแล้วนำเงินมาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดก่อน จึงขอถามว่า นายกฯ และรมว.กลาโหม ไม่ตัดสินใจยกเลิกการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพราะสถานการณ์ประเทศขณะนี้ เรือดำน้ำยังไม่จำเป็น ท่านควรทำเงินตรงนี้มาช่วยเหลือประชาชนก่อนดีหรือไม่"
ส่วนกองทัพบก มีรายการที่ต้องใช้งบฯ ก้อนใหญ่ คือ 1.จัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี วงเงินกว่า 4,200 ล้าน 2. จัดหารถยานเกราะ กว่า 1 พันล้าน และ 3. จัดหายานเกราะล้อยาง เพื่อเสริมสร้างการรบรูปแบบใหม่ 900 ล้าน ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดยังไม่จัดซื้อ เหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่สั่งให้เลื่อนหรือชะลอการซื้อสิ่งเหล่านี้ ส่วนงบฯ กองทัพอากาศ มีรายการใหม่ที่ยังไม่ได้จัดซื้อ คือโครงการจัดหาเครื่องบินโจมตีเบา 4,500 ล้านบาท โครงการสร้างคลังอาวุธ และจัดหาอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด 900 ล้านบาท และโครงการพัฒนาปฏิบัติการในห้วงอวกาศ 1,470 ล้านบาท
" สิ่งเหล่านี้สามารถชะลอได้ และเมื่อนำงบฯ ที่สามารถชะลอได้ของทั้ง 3 เหล่าทัพ มาคำนวณแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท หากเอาไปช่วยเหลือประชาชน คนละ 3,500 บาท คนละ 2 เดือน จะช่วยประชาชนได้อีก 5.43 ล้านคน และเมื่อท่านบอกว่างบประมาณในปีนี้ไม่เพียงพอท่านก็ต้องรู้จักประหยัด ขณะนี้ ที่ท่านสั่งให้หน่วยงานอื่นหั่นงบฯ ตัดงบฯลงทุน ที่จะสร้างงานในต่างจังหวัดให้กับประชาชน แต่ท่านกลับไม่แตะงบฯ กองทัพเลย" นายยุทธพงศ์ กล่าว