ภาวะโควิดยาวนานทำให้การทำงานที่บ้าน Work From Home จาก New Normal กลายเป็นเรื่องปกติ และกำลังทำให้ทั้งสองฝ่ายคือลูกจ้างและนายจ้างมองเห็นว่า มันเป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่ได้ลดทอนประสิทธิภาพการทำงานลงมา ประหยัด และก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าผลเสีย
จนกระทั่งผมคิดว่า ทำไมรัฐบาลไม่ทำเรื่องการทำงานที่บ้านให้เป็นวาระแห่งชาติ
เมื่อมันส่งผลดีมากมายต่อทั้งชีวิตของคนและสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มต้นจากหน่วยงานรัฐนั่นแหละ หากหน่วยงานไหนที่ไม่ได้เป็นงานบริการประชาชน สามารถทำงานที่บ้านได้ก็ไม่ต้องมาทำงาน แน่นอนงานแบบตำรวจท้องที่นั้นต้องมาทำงานที่โรงพักเพราะต้องบริการประชาชน แต่ตำรวจที่ทำงานในกองบัญชาการจำเป็นไหม หลายตำแหน่งหน้าที่อาจจะเป็นคำถามก็จำแนกออกมา
ส่วนทหารนั้นคิดว่าหลายตำแหน่งที่ทำงานด้านธุรการไม่น่าจะทำงานที่บ้านได้ เช่นเดียวกับข้าราชการอีกหลายตำแหน่ง
เมื่อรัฐทำสำเร็จแล้วก็รณรงค์เชิญชวนให้เอกชนเห็นความสำคัญ และประโยชน์ของการทำงานที่บ้าน
ถามว่าประโยชน์ของการทำงานที่บ้านมีอะไรบ้าง พบว่ามีมากมายมหาศาล เริ่มจากเราไม่ต้องเร่งรีบตื่นในตอนเช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัว เพื่อจะไปใช้ชีวิตเคร่งเครียดอยู่บนท้องถนนวันละ 1-2 ชั่วโมง เราพร้อมจะทำงานทันทีที่ตื่นขึ้นมา หรือทำอาหารเช้าทานไปพร้อมกับทำงานไปด้วย สามารถออกกำลังกายที่บ้าน หรือเข้าฟิตเนสตอนเช้า มีนัดหมอ ทำสวนไป ทำงานไป หรือดูแลเมื่อช่างมาต่อเติมบ้านได้
การไม่ต้องเผชิญกับรถติดบนท้องถนน ลดความเครียดและวิตกกังวลลง มีผลดีต่อสุขภาพ เพราะความเครียดทำให้คอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หรืออาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ สุขภาพจิตและกายที่ดีย่อมจะส่งผลต่อประสิทธิภาพและสมาธิในการทำงานด้วย
การทำงานจากที่บ้านสามารถนำไปสู่สุขภาพที่ดีขึ้นได้ สามารถในการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพราะทำอาหารเอง ความสามารถในการฟื้นตัวจากความเจ็บไข้ได้ป่วย หรือหากได้รับการผ่าตัดสามารถพักฟื้นที่บ้านและทำงานไปด้วยได้ การสัมผัสกับความเจ็บป่วยจะน้อยลง และมีความสะดวกในการดูแลปัญหาสุขภาพ
นายจ้างสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในสำนักงาน ราชการก็ประหยัดงบประมาณเกี่ยวกับอุปกรณ์สำนักงานได้มาก ไม่ต้องสร้างออฟฟิศใหญ่ๆ หรือสามารถประหยัดค่าเช่าสำนักงานได้มาก ไม่ต้องอยู่ในย่านที่มีค่าเช่าสำนักงานที่สูง
ข้อจำกัดเรื่องระยะทางระหว่างบ้านกับสำนักงานหมดไปเช่น เดิมคนบางคนอาจจะปฏิเสธงานเพราะอยู่ไกลเกินไป คนจำนวนมากไม่ต้องเข้ามาอาศัยกระจุกอยู่ในเขตเมือง สามารถใช้ชีวิตอยู่รอบนอกได้ และเข้ามาเมื่อจำเป็นเป็นการลดความแอดอัดของเมืองซึ่งเดิมใช้เป็นสำนักงานมากกว่าเขตอยู่อาศัย
คนหลายคนอาจเป็นที่ต้องการของบริษัท แต่บางครั้งเขาเคยชินกับพื้นที่ที่อยู่และไม่อยากย้ายมา อุปสรรคเหล่านี้ก็อาจจะหมดไป
การทำงานที่บ้านยังช่วยให้ผู้ที่อาจมีปัญหาในการหางานทำอย่างต่อเนื่องในงานนอกสถานที่เช่น ผู้พิการหรือผู้ดูแลที่ต้องการตารางเวลาที่ยืดหยุ่นมีโอกาสทำตามเป้าหมายในอาชีพโดยไม่ต้องกังวลกับการเดินทางไปมาที่สำนักงาน และมีความยืดหยุ่นในการไปพบแพทย์และการนัดหมายด้านสุขภาพอื่นๆ เมื่อจำเป็น
ประโยชน์ที่สำคัญคือ สามารถประหยัดเงินมหาศาล เมื่อไม่ต้องคำนึงถึงชุดที่จะใส่ไปทำงาน รถยนต์ที่ใช้ ค่าน้ำมันรถ ค่าซ่อมบำรุง ค่าโดยสาร ลองคิดดูว่าเดือนหนึ่งจะประหยัดไปเท่าไหร่ ประโยชน์ของนายจ้างก็คือ การต่อรองเรื่องค่าจ้าง เพื่อตัดสิ่งเหล่านี้ไปการต่อรองก็อาจจะง่ายขึ้น คิดดูว่าจะมีผลประโยชน์ในทางเศรษฐกิจสูงขึ้นเท่าไหร่ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
และปัจจัยที่สำคัญมากก็คือ ช่วยให้การจราจรในเมืองไม่ติดขัด ความฝันของรัฐบาลที่จะแก้ปัญหาการจราจรนั้นสำเร็จลงง่ายๆ เหมือนความฝันในชั่วข้ามคืน ถ้าเราเห็นถึงการจราจรในช่วงนี้ที่ไปไหนมาไหนได้สะดวกและรวดเร็ว นอกจากนั้นยังช่วยลดมลพิษในอากาศ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสามารถแก้ปัญหา pm2.5 ได้อย่างทันท่วงที
เพราะช่วยในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือการลดการเดินทางของผู้โดยสาร ซึ่งทุกวันนี้ผลจากโควิดทำให้เราได้เห็นมลพิษความแออัดและการจราจรที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงการรับมือของโรคระบาด และการได้สัมผัสผลลัพธ์โดยตรงอยู่แล้ว
ในเชิงโครงสร้างของสังคมการทำงานที่บ้านสนับสนุนโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนที่หลากหลายตั้งแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการลดความเหลื่อมล้ำไปจนถึงเมืองที่ยั่งยืนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ มีการสำรวจพบว่า 65% ของผู้เชี่ยวชาญคิดว่าพวกเขาจะทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิผลมากกว่าการทำงานในสำนักงานแบบเดิม
ด้วยเทคโนโลยีทุกวันนี้การประชุมและระดมสมองการพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดนั้น ไม่จำเป็นต้องอยู่สถานที่เดียวกันอีกแล้ว เพราะเรามีเครื่องมือสื่อสารมากมาย ที่สำคัญการไม่อยู่ใกล้กันเกินไป การไม่เรียกประชุมบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ได้ เพราะจะมีเวลามากขึ้นและมีสิ่งรบกวนน้อยลงซึ่งนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ
พนักงานที่อยู่ห่างไกลและยืดหยุ่นมักจะมีความสุขและเป็นพนักงานที่ซื่อสัตย์มากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการทำงานจากที่บ้านแสดงให้เห็นว่ามีความเครียดลดลง ให้เวลากับงานอดิเรกและความสนใจมากขึ้น และปรับปรุงความสัมพันธ์ส่วนตัวและอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากสุขภาพส่วนบุคคลและความเป็นอยู่ที่ดีแล้วความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงานและผู้จัดการยังสามารถเป็นไปในเชิงบวกได้มากขึ้นโดยปราศจากสิ่งรบกวน และปัญหาที่มาพร้อมกับงานในสำนักงาน มีผลสำรวจบอกว่านายจ้างจำนวน 72% รายงานว่าการทำงานที่บ้านมีผลกระทบสูงต่อการรักษาพนักงานไว้อย่างชัดเจน พนักงานจะยึดติดกับนายจ้างเมื่อพวกเขามีทางเลือกในการทำงานที่บ้าน
ตอนนี้ในช่วงที่เราทำงานที่บ้านเพราะภาวะโควิดเป็นช่วงเวลาที่หน่วยงานธุรกิจเอกชนและราชการสามารถทดสอบได้ว่า งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือน้อยลง หากจะมองในแง่ไม่ดีของลูกจ้าง ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นายจ้างมองเห็นว่า ใครมีความจำเป็นที่บริษัทอาจไม่ต้องมีก็ได้ หรือใครที่มีประโยชน์อย่างมาก หน่วยงานราชการก็เช่นกันมันสามารถพิสูจน์ว่า เรามีอัตรากำลังที่มากจนเกินไปหรือไม่
โควิดไม่ใช่เพียงช่วยชี้ช่องว่าบ่อนการพนันอยู่ที่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลองใช้สายตาที่ยาวไกลมองเห็นผลดีของการทำงานที่บ้านได้ อยู่ดีๆ ปัญหารถติดบนท้องถนนที่ก่อให้เกิดมลพิษมหาศาล ก่อให้เกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจ และปัญหาด้านคุณภาพชีวิตของประชาชน ที่รัฐบาลไม่มีหนทางแก้ไข กลายเป็นว่าสิ่งเหล่านี้มลายหายไปทันที เมื่อท้องถนนโล่งไปไหนมาไหนสะดวกและท้องฟ้าก็แจ่มใสเพราะมลพิษน้อยลงไป
เราไม่เคยมีความหวังจะแก้ปัญหารถติดในท้องถนนกรุงเทพฯ ได้มาก่อน แต่โควิดก็ทำให้เห็นแล้ว เช่นเดียวกับปัญหาเรื่องมลพิษทางอากาศสิ่งเหล่านี้ก็หายไป
รัฐบาลต้องกล้าริเริ่มที่ให้หน่วยราชการที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาทำงานอยู่ที่บ้านอย่างถาวร หากยังไม่มั่นใจประสิทธิภาพก็ใช้ช่วงโควิดนี่แหละเป็นช่วงทดลอง ถ้าไม่ส่งผลดีก็กลับไปเผชิญกับปัญหาแบบเดิม
บางที Work From Home นี่แหละอาจจะเป็นทางรอดที่โควิดชี้ทางให้
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan