"จตุพร"เตรียมเดินสายคุยอดีตแกนนำ นปช. หารือแนวทางองค์กร นปช. ส่วนตัวมองว่าควรจะยุติองค์กรให้เป็นตำนาน ย้ำเป็นคนเดิม จ่อดำเนินคดีกับนักเลงคีย์บอร์ด ใส่ร้ายผลักไปอยู่ฝ่ายเผด็จการ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการดำเนินการทางการเมืองของตนว่า ได้ต่อสู้กับเผด็จการ แต่สู้ไปสู้มา ตนกลับถูกผลักไปอยู่ร่วมกับเผด็จการ ซึ่งเป็นข้อหาที่รุนแรงมากที่สุด โดยอ้างถึงเรื่องที่ตนไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ. ที่จ.เชียงใหม่
ที่ผ่านมา ตนตั้งใจจะไม่ฟ้องร้องดำเนินคดีกับใคร แต่เมื่อปล่อยไว้ยิ่งได้ใจ กล่าวหาทุกเรื่องที่เป็นเท็จ โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่า ไปอยู่กับเผด็จการ ก็ต้องไปสู้กันในชั้นศาล เพราะคนเราหากจะชั่ว ไปอยู่กับเผด็จการก็คงไม่มาเสียคนเอาตอนแก่ ซึ่งวิถีชีวิตของตน จากเด็กวัดไปเป็นครูดอย ที่ไม่มีเงินเดือนกว่า 3 ปี ออกมาเป็นผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ลงเวทีอย่างมือเปล่า กลับไปอยู่หอพัก ใช้ชีวิตเเบบเดิม และก่อนที่จะมาพรรคไทยรักไทย ตนก็ไปทำงานเกี่ยวกับภาคองค์กรประชาธิปไตยมาโดยตลอด
จนกระทั่งวันหนึ่ง ก็ลงมาสู่บนท้องถนนอย่างจริงจัง หลังจากการยึดอำนาจปี 2549 จาก นปก.จนกระทั่ง นปช. ตนไม่เคยคิดที่จะอยากเป็นประธาน นปช. แม้แต่วันเดียว
นายจตุพร กล่าวว่าหากยังจำกันได้ หลังเหตุการณ์ปี 53 กระแสคนเสื้อแดง และกระแสพรรคเพื่อไทยถึงจุดต่ำสุด เพราะถูกข้อหาเรื่องล้มล้างสถาบันฯ เรื่องเผาบ้านเผาเมือง และเรื่องก่อการร้าย หลังจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ก็มีความเข้าใจว่าตนต้องหลบหนี แต่ตนยืนยัน และให้เหตุผลว่าหากตนหนีไปแล้ว ใครจะอยู่ในการทวงหาความยุติธรรมให้กับคนที่เสียชีวิต และระหว่างทางถูกฟ้องดำเนินคดีหลายสิบคดี ปัจจุบันคดีก็ไม่หมด และไม่เคยรอดแม้แต่คดีเดียว
แต่กลับมีการไปอธิบายใส่ความตนว่า ออกมาจากคุกเเล้ว จะรอดเพราะไปเจรจาตกลง ซึ่งตนติดคุกรวมกัน 4รอบ 19 เดือน อีกทั้งยังมีคดีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ทนายความไปยื่นคำร้องขอให้ศาลนับใหม่ ศาลชั้นต้นยก ส่วนศาลอุทธรณ์ให้นับไป ขณะนี้รอระหว่างฎีกา นอกจากนี้ ยังมีศาลแพ่งอีก 2 คดี เฉพาะดอกเบี้ยกว่า 100 ล้านบาท ดังนั้น อยากถามว่าตนรอดอะไรสักเรื่องบ้าง รวมถึงคดีบ้านสี่เสาเทเวศร์ ในสำนวนที่ 2 หากใครได้ไปฟังคดีในสำนวนแรกทุกประโยค คล้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ทั้งนั้น ดังนั้นถามว่า ตนไปแลกเปลี่ยนอะไรกัน
ทั้งนี้ สิ่งที่ตนอยากจะบอกในวันนี้ว่า เราพยายามประคับประคองทุกสถานการณ์ และตนก็เป็นนายจตุพรเหมือนเดิม ส่วนทิศทางของ นปช. จะเป็นอย่างไรนั้น จะเดินสายคุยกับแกนนำ แต่ส่วนตัวเห็นว่า ควรจะยุติองค์กร นปช.ให้เป็นตำนาน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการดำเนินการทางการเมืองของตนว่า ได้ต่อสู้กับเผด็จการ แต่สู้ไปสู้มา ตนกลับถูกผลักไปอยู่ร่วมกับเผด็จการ ซึ่งเป็นข้อหาที่รุนแรงมากที่สุด โดยอ้างถึงเรื่องที่ตนไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ. ที่จ.เชียงใหม่
ที่ผ่านมา ตนตั้งใจจะไม่ฟ้องร้องดำเนินคดีกับใคร แต่เมื่อปล่อยไว้ยิ่งได้ใจ กล่าวหาทุกเรื่องที่เป็นเท็จ โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่า ไปอยู่กับเผด็จการ ก็ต้องไปสู้กันในชั้นศาล เพราะคนเราหากจะชั่ว ไปอยู่กับเผด็จการก็คงไม่มาเสียคนเอาตอนแก่ ซึ่งวิถีชีวิตของตน จากเด็กวัดไปเป็นครูดอย ที่ไม่มีเงินเดือนกว่า 3 ปี ออกมาเป็นผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ลงเวทีอย่างมือเปล่า กลับไปอยู่หอพัก ใช้ชีวิตเเบบเดิม และก่อนที่จะมาพรรคไทยรักไทย ตนก็ไปทำงานเกี่ยวกับภาคองค์กรประชาธิปไตยมาโดยตลอด
จนกระทั่งวันหนึ่ง ก็ลงมาสู่บนท้องถนนอย่างจริงจัง หลังจากการยึดอำนาจปี 2549 จาก นปก.จนกระทั่ง นปช. ตนไม่เคยคิดที่จะอยากเป็นประธาน นปช. แม้แต่วันเดียว
นายจตุพร กล่าวว่าหากยังจำกันได้ หลังเหตุการณ์ปี 53 กระแสคนเสื้อแดง และกระแสพรรคเพื่อไทยถึงจุดต่ำสุด เพราะถูกข้อหาเรื่องล้มล้างสถาบันฯ เรื่องเผาบ้านเผาเมือง และเรื่องก่อการร้าย หลังจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ก็มีความเข้าใจว่าตนต้องหลบหนี แต่ตนยืนยัน และให้เหตุผลว่าหากตนหนีไปแล้ว ใครจะอยู่ในการทวงหาความยุติธรรมให้กับคนที่เสียชีวิต และระหว่างทางถูกฟ้องดำเนินคดีหลายสิบคดี ปัจจุบันคดีก็ไม่หมด และไม่เคยรอดแม้แต่คดีเดียว
แต่กลับมีการไปอธิบายใส่ความตนว่า ออกมาจากคุกเเล้ว จะรอดเพราะไปเจรจาตกลง ซึ่งตนติดคุกรวมกัน 4รอบ 19 เดือน อีกทั้งยังมีคดีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ทนายความไปยื่นคำร้องขอให้ศาลนับใหม่ ศาลชั้นต้นยก ส่วนศาลอุทธรณ์ให้นับไป ขณะนี้รอระหว่างฎีกา นอกจากนี้ ยังมีศาลแพ่งอีก 2 คดี เฉพาะดอกเบี้ยกว่า 100 ล้านบาท ดังนั้น อยากถามว่าตนรอดอะไรสักเรื่องบ้าง รวมถึงคดีบ้านสี่เสาเทเวศร์ ในสำนวนที่ 2 หากใครได้ไปฟังคดีในสำนวนแรกทุกประโยค คล้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ทั้งนั้น ดังนั้นถามว่า ตนไปแลกเปลี่ยนอะไรกัน
ทั้งนี้ สิ่งที่ตนอยากจะบอกในวันนี้ว่า เราพยายามประคับประคองทุกสถานการณ์ และตนก็เป็นนายจตุพรเหมือนเดิม ส่วนทิศทางของ นปช. จะเป็นอย่างไรนั้น จะเดินสายคุยกับแกนนำ แต่ส่วนตัวเห็นว่า ควรจะยุติองค์กร นปช.ให้เป็นตำนาน