อังกฤษเผชิญวิกฤตซ้อนวิกฤต

ความร้ายกาจของเชื้อโคโรนาไวรัสที่กำลังระบาดในปัจจุบันได้สร้างปัญหาจนถึงขั้นวิกฤตทั่วโลก หนักเบาเป็นไปตามสภาพของความรุนแรงและความสามารถในการจัดการ พื้นที่ยุโรปกำลังเผชิญความท้าทายรอบใหม่

ประเด็นข้อสงสัยว่าวัคซีน 3 ชนิดที่ใช้อยู่ปัจจุบันจะสามารถป้องกันอย่างได้ผลหรือไม่ ก็ยังต้องรอการพิสูจน์หลังจากเริ่มต้นฉีดในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ขณะที่อังกฤษได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันแล้วก็เผชิญปัญหาไม่คาดฝัน นั่นคือ การปรากฏของสายพันธุ์ใหม่ที่มีฤทธิ์ของการระบาดเร็วกว่าเดิม 70%

นายกรัฐมนตรีนายบอริส จอห์นสัน ต้องประกาศมาตรการเด็ดขาดด้วยการล็อกดาวน์มหานครลอนดอนเมืองหลวง และพื้นที่ย่านตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกินเนื้อที่ประมาณหนึ่งในสามของเกาะอังกฤษและประชาชนเกือบ 20 ล้านคน ต้องอยู่ภายใต้มาตรการคุมเข้ม

นอกจากการระบาดซึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อประมาณ 3 หมื่นราย มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 รายเป็นบางวัน ซึ่งทำให้อังกฤษมียอดผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 4 ของโลกและจะต้องมีปัญหาอีกมาก

การระบาดของสายพันธุ์ใหม่สร้างความตื่นตระหนกทั้งบนเกาะอังกฤษและบนทวีปยุโรปซึ่งทำให้หลายประเทศสั่งห้ามนักเดินทางจากเกาะอังกฤษเข้าประเทศอย่างเด็ดขาดนั่นหมายความว่าทางเครื่องบิน รถไฟ และรถยนต์ทุกประเภทถูกสั่งห้ามเข้าเช่นกัน

อังกฤษจึงเป็นเกาะที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพราะการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะตั้งรับอย่างไร

จึงเป็นปัญหาซับซ้อนของอังกฤษและสหราชอาณาจักร เพราะการเจรจาข้อตกลงเรื่องเบร็กซิตกับกลุ่มประชาคมยุโรปยังหาข้อสรุปไม่ได้ และเส้นตายภายในสิ้นปีนี้ก็เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังอยู่ห่างไกลจากข้อตกลง มีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่มีข้อตกลงอีกด้วย

เมื่ออังกฤษถูกปิดกั้นจากทวีปยุโรปหมายความว่าความเสี่ยงจากการขาดแคลนอาหาร สินค้าจำเป็น และยารักษาโรคจึงเป็นไปได้สูง เพราะอังกฤษต้องพึ่งอาหารจากทวีปยุโรปเป็นอย่างมาก ทำให้การคมนาคมเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการขนส่งสินค้า

ในภาวะปกติรถบรรทุกสินค้าเข้าออกอังกฤษจากยุโรปแต่ละวันมีประมาณ 30,000 คันเมื่อเกิดความล่าช้าในการตรวจสอบเชื้อโรคตรงจุดสกัด ทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัด และยิ่งมีการปิดเส้นทางการบินด้วยแล้วการขนส่งสินค้าต้องชะงัก

แม้จะไม่มีการระบาดของโคโรนาไวรัส การขนส่งสินค้าถ้าไม่มีข้อตกลงเรื่องเบร็กซิตก็จะเป็นปัญหาเช่นกัน ทั้งยังต้องมีอัตราภาษีรวมถึงค่าใช้จ่ายอย่างอื่นนั่นหมายถึงต้นทุนชีวิตที่ต้องจ่ายเพิ่มสำหรับคนอังกฤษ

การขนส่งสินค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญของทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะต้องมีระบบการจัดการไม่ให้เกิดความล่าช้าและความเสียหายต่อสินค้าสด ยิ่งในช่วงการระบาดขณะนี้ด้วยแล้ว คนขับรถยิ่งรู้สึกหวาดหวั่นว่าจะติดเชื้อโรคและรักษายากลำบากเพราะความขาดแคลนห้องไอซียู และบุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานอย่างหนัก

ดังนั้น ช่วงนี้บริษัทขนส่งก็ไม่อยากส่งรถสินค้าไปเกาะอังกฤษเพราะจะเกิดความล่าช้าในการตรวจสอบ และการขนถ่าย รวมทั้งระหว่างการผ่านแดนรอดอุโมงค์ใต้ช่องแคบอังกฤษจึงเชื่อมกับยุโรป

ดังนั้นจึงเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤตสำหรับคนอังกฤษเกือบ 70 ล้านคนซึ่งต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาวะลำบากอย่างมาก มีทั้งการขาดแคลนสินค้าจำเป็น คนว่างงาน และการสร้างรายได้เนื่องจากในแต่ละวันมีความลำบากในการสัญจรไปมาและซื้อหาอาหาร

นายกรัฐมนตรีอังกฤษจึงเผชิญวิกฤตที่หลากหลาย และสภาวะเช่นนี้ไม่มีใครจะช่วยใครได้เพราะทวีปยุโรปโดยเฉพาะอิตาลี ฝรั่งเศส และเยอรมนีต่างมีการระบาดระลอกสอง มีทั้งผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

และโคโรนาไวรัสจึงเป็นปัญหาที่คนทั้งโลกต้องหาทางออกในการรับมือ และจำเป็นต้องอยู่ภายใต้ความเครียดจนกว่าการระบาดจะหายขาดอย่างเด็ดขาด