สะพัด ครม.จ่อล้มสรรหา กสทช. อีกรอบ อ้างรอพ.ร.บ.แล้วเสร็จ สั่งสลค.เช็คกม.ยิบ หวั่นตกม้าตายใช้อำนาจมิชอบ วิจารณ์แซ่ดชุดรักษาการอยู่โยง10 ปี เข้าโหมดสุญญากาศ เปิดปม“บิ๊กรัฐบาล”ทุบโต๊ะล้มสรรหา เหตุ“ตัวเต็ง”ส่อร่วงคุณสมบัติต้องห้าม
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการประชุมครม.วันที่ 22 ธ.ค.นี้ จะมีการเสนอให้ที่ประชุมครม.มีมติให้ชะลอการสรรหา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ชุดใหม่ ที่กำลังดำเนินการอยู่ออกไปก่อน เนื่องจากมีข้อท้วงติงว่า หาก ร่าง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่...) พ.ศ.... (พ.ร.บ.กสทช.) ที่ขณะนี้อยู่ในชั้นวุฒิสภาพิจารณาแล้วเสร็จ อาจจะกระทบสิทธิกสทช. ที่กำลังสรรหาอยู่ เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.กสทช. กำหนดให้มีการสรรหา กสทช. ชุดใหม่ ตามกฎหมายใหม่ ภายใน 15 วัน อาจทำให้กสทช.ชุดใหม่ ทำงานได้เพียง 6 เตือน ก็ต้องสรรหาใหม่อีก
สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.กสทช.นั้นได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนฯ ไปแล้ว และเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา และเพิ่งเห็นชอบในหลักการวาระที่ 1 ไปเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีที่กำหนดพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับจากวันที่ 4 ธ.ค. ที่สภาผู้แทนฯ ส่งร่างกม.มาให้
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้สำนักเลขาธิการครม. (สลค.)กำลังพิจารณาข้อกม.ที่เกี่ยวข้องโดยละเอียดว่า ครม.มีอำนาจสั่งให้ชะลอ หรือยุติกระบวนการสรรหา กสทช.ชุดใหม่ที่ครม.มีมติเห็นชอบให้เริ่มกระบวนการสรรหา ไปตั้งแต่เมื่อการประชุมครม.วันที่16 มิ.ย. ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการสรรหา อยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติผู้ที่สมัครเข้ารับการสรรหา ทั้งสิ้น 80 คนหรือไม่ เนื่องจาก กสทช. ถือเป็นองค์กรอิสระอื่นตามรธน. ที่ ครม.ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายกระบวนการใดๆได้ อีกทั้ง พ.ร.บ.กสทช. ฉบับปัจจุบัน ก็ไม่ได้กำหนดแนวทางชะลอ หรือยุติการสรรหา กสทช. หากเข้าสู่กระบวนการสรรหาแล้วแต่อย่างใด โดยก่อนหน้านี้มีเพียงคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่อาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 แห่งรธน.ชั่วคราว 2557 เท่านั้น ที่สามารถกระทำได้
แต่ปัจจุบัน มาตรา 44 รวมทั้งคำสั่งหัวหน้า คสช.ดังกล่าว ได้ถือว่าสิ้นสุดไปแล้ว จึงเกิดข้อกังวลว่า หากครม.แทรกแซงกระบวนการสรรหา กสทช.อาจจะเกิดทำให้มีการตีความว่า ครม.ใช้อำนาจโดยมิชอบได้ รวมถึงการอ้างให้รอให้กฎหมายฉบับใหม่แล้วเสร็จ ก็อาจเข้าข่ายฝ่ายบริหาร ก้าวก่ายการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติอีกด้วย
อย่างไรก็ดี หาก สลค.หาข้อยุติได้ ก็จะนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่ 22 ธ.ค. หรืออย่างช้าวันที่ 29 ธ.ค.นี้ แต่หากสามารถชะลอ หรือยุติกระบวนการสรรหา กสทช.ตามกระแสข่าวได้จริง ก็อาจทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากในยุคคสช.ได้มีการออกประกาศแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมาย รวมทั้งยุติ และชะลอการสรรหา กสทช.ไปแล้วถึง 5 ครั้ง ด้วยกัน โดยกสทช. ชุดปัจจุบัน ได้สิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่เดือนต.ค.60 แล้ว ตลอดจนในแง่ประสิทธิภาพการทำงานของ กสทช. ชุดปัจจุบัน ที่เป็นชุดรักษาการ ซึ่งจะยังคงต้องทำหน้าที่ต่อไป เนื่องจากกรรมการ กสทช. ที่เหลืออยู่ 6 จาก 11 รายนั้น ดำรงตำแหน่งมาแล้ว ตั้งแต่เดือน ต.ค.54 รวมแล้วกว่า 10 ปี อีกทั้ง 2 ใน 6 ราย คือ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร และ นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ อายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ ซึ่งตามกฎหมายเดิม กำหนดให้หมดวาระทันที แต่ได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช. แก้ไขให้ทำหน้าที่ไปพลางก่อน ซึ่งที่ผ่านมา มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า การทำงานของ กสทช.ชุดรักษาการ ทำให้เกิดสุญญากาศการทำงานของ กสทช. มาระยะหนึ่งแล้ว
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สาเหตุที่แท้จริง ที่มีความพยายามล้มการสรรหา กสทช. อีกครั้งนั้น เนื่องจากพบว่า ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาบางราย ที่มีความใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจใน คสช. และในรัฐบาลปัจจุบัน ที่ถูกวางตัวให้เป็น กสทช.ชุดใหม่ มีคุณสมบัติต้องห้ามบางประการ โดยเฉพาะ มาตรา 7 ข. (12) ของ พ.ร.บ.กสทช.ในส่วนของคุณสมบัติต้องห้าม ที่ระบุว่า “เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ที่ปรึกษา พนักงาน ผู้ถือหุ้น หรือหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลอื่นใดบรรดาที่ประกอบธุรกิจด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม ในระยะเวลา 1 ปีก่อนได้รับการเสนอชื่อ”ส่งผลให้ผู้มีอำนาจต้องการให้มีการชะลอ กระบวนการสรรหา กสทช.ไปอีกอย่างน้อย 1 ปี
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการประชุมครม.วันที่ 22 ธ.ค.นี้ จะมีการเสนอให้ที่ประชุมครม.มีมติให้ชะลอการสรรหา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ชุดใหม่ ที่กำลังดำเนินการอยู่ออกไปก่อน เนื่องจากมีข้อท้วงติงว่า หาก ร่าง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่...) พ.ศ.... (พ.ร.บ.กสทช.) ที่ขณะนี้อยู่ในชั้นวุฒิสภาพิจารณาแล้วเสร็จ อาจจะกระทบสิทธิกสทช. ที่กำลังสรรหาอยู่ เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.กสทช. กำหนดให้มีการสรรหา กสทช. ชุดใหม่ ตามกฎหมายใหม่ ภายใน 15 วัน อาจทำให้กสทช.ชุดใหม่ ทำงานได้เพียง 6 เตือน ก็ต้องสรรหาใหม่อีก
สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.กสทช.นั้นได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนฯ ไปแล้ว และเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา และเพิ่งเห็นชอบในหลักการวาระที่ 1 ไปเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีที่กำหนดพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับจากวันที่ 4 ธ.ค. ที่สภาผู้แทนฯ ส่งร่างกม.มาให้
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้สำนักเลขาธิการครม. (สลค.)กำลังพิจารณาข้อกม.ที่เกี่ยวข้องโดยละเอียดว่า ครม.มีอำนาจสั่งให้ชะลอ หรือยุติกระบวนการสรรหา กสทช.ชุดใหม่ที่ครม.มีมติเห็นชอบให้เริ่มกระบวนการสรรหา ไปตั้งแต่เมื่อการประชุมครม.วันที่16 มิ.ย. ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการสรรหา อยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติผู้ที่สมัครเข้ารับการสรรหา ทั้งสิ้น 80 คนหรือไม่ เนื่องจาก กสทช. ถือเป็นองค์กรอิสระอื่นตามรธน. ที่ ครม.ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายกระบวนการใดๆได้ อีกทั้ง พ.ร.บ.กสทช. ฉบับปัจจุบัน ก็ไม่ได้กำหนดแนวทางชะลอ หรือยุติการสรรหา กสทช. หากเข้าสู่กระบวนการสรรหาแล้วแต่อย่างใด โดยก่อนหน้านี้มีเพียงคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่อาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 แห่งรธน.ชั่วคราว 2557 เท่านั้น ที่สามารถกระทำได้
แต่ปัจจุบัน มาตรา 44 รวมทั้งคำสั่งหัวหน้า คสช.ดังกล่าว ได้ถือว่าสิ้นสุดไปแล้ว จึงเกิดข้อกังวลว่า หากครม.แทรกแซงกระบวนการสรรหา กสทช.อาจจะเกิดทำให้มีการตีความว่า ครม.ใช้อำนาจโดยมิชอบได้ รวมถึงการอ้างให้รอให้กฎหมายฉบับใหม่แล้วเสร็จ ก็อาจเข้าข่ายฝ่ายบริหาร ก้าวก่ายการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติอีกด้วย
อย่างไรก็ดี หาก สลค.หาข้อยุติได้ ก็จะนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่ 22 ธ.ค. หรืออย่างช้าวันที่ 29 ธ.ค.นี้ แต่หากสามารถชะลอ หรือยุติกระบวนการสรรหา กสทช.ตามกระแสข่าวได้จริง ก็อาจทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากในยุคคสช.ได้มีการออกประกาศแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมาย รวมทั้งยุติ และชะลอการสรรหา กสทช.ไปแล้วถึง 5 ครั้ง ด้วยกัน โดยกสทช. ชุดปัจจุบัน ได้สิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่เดือนต.ค.60 แล้ว ตลอดจนในแง่ประสิทธิภาพการทำงานของ กสทช. ชุดปัจจุบัน ที่เป็นชุดรักษาการ ซึ่งจะยังคงต้องทำหน้าที่ต่อไป เนื่องจากกรรมการ กสทช. ที่เหลืออยู่ 6 จาก 11 รายนั้น ดำรงตำแหน่งมาแล้ว ตั้งแต่เดือน ต.ค.54 รวมแล้วกว่า 10 ปี อีกทั้ง 2 ใน 6 ราย คือ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร และ นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ อายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ ซึ่งตามกฎหมายเดิม กำหนดให้หมดวาระทันที แต่ได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช. แก้ไขให้ทำหน้าที่ไปพลางก่อน ซึ่งที่ผ่านมา มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า การทำงานของ กสทช.ชุดรักษาการ ทำให้เกิดสุญญากาศการทำงานของ กสทช. มาระยะหนึ่งแล้ว
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สาเหตุที่แท้จริง ที่มีความพยายามล้มการสรรหา กสทช. อีกครั้งนั้น เนื่องจากพบว่า ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาบางราย ที่มีความใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจใน คสช. และในรัฐบาลปัจจุบัน ที่ถูกวางตัวให้เป็น กสทช.ชุดใหม่ มีคุณสมบัติต้องห้ามบางประการ โดยเฉพาะ มาตรา 7 ข. (12) ของ พ.ร.บ.กสทช.ในส่วนของคุณสมบัติต้องห้าม ที่ระบุว่า “เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ที่ปรึกษา พนักงาน ผู้ถือหุ้น หรือหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลอื่นใดบรรดาที่ประกอบธุรกิจด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม ในระยะเวลา 1 ปีก่อนได้รับการเสนอชื่อ”ส่งผลให้ผู้มีอำนาจต้องการให้มีการชะลอ กระบวนการสรรหา กสทช.ไปอีกอย่างน้อย 1 ปี
