xs
xsm
sm
md
lg

แฉสมาคมวิทยาการวัชพืชฯ รับทุนเอกชนหนุนพาราควอต

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ไบโอไทย แฉ “สมาคมวิทยาการวัชพืชฯ” หนุน “พาราควอต” เพราะได้รับทุนวิจัย เรียกร้องให้กรมวิชาการเกษตร ทบทวนให้ที่ตั้ง แต่ทำงานสวนทางนโยบายรัฐ และ รมช.เกษตรฯ

นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี หรือ “ไบโอไทย” ออกมาตั้งข้อสังเกต กรณี “สมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย” ได้จัดประชุมใหญ่ และจัดการเสวนาในหัวข้อ “ก้าวต่อไปอย่างไร เมื่อเกษตรกรไทยไร้พาราควอต” เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีเนื้อหาให้ทบทวนการแบนสารเคมีพิษภาคเกษตร (พาราควอต) โดยอ้างว่า มีเกษตรกรยกเลิกอาชีพไป 25% ว่า สมาคมนี้ มีบทบาทเชิงวิชาการ ส่วนใหญ่เป็นพวกอาจารย์ในภาควิชาพืชไร่ ใน ม.เกษตรศาสตร์ มาเป็นกรรมการและนายกสมาคม ในช่วงหลังมานี้ สมาคมนี้เริ่มมีการแต่งตั้งให้บริษัทสารเคมี เข้ามาเป็นกรรมการ ซึ่งก่อนหน้านี้มีกรรมการที่มาจากบริษัทขายสารเคมี เป็นกรรมการ เราเห็นบทบาทสมาคมนี้ เริ่มไม่เป็นวิชาการ ตั้งแต่ข้อเรียกร้องให้มีการแบนพาราควอต

“เรามีหลักฐานอยู่นะครับ อยู่ที่ น.ส.ปรกชล อู๋ทรัพย์ เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ว่า สมาคมได้รับทุนวิจัยจากบริษัท ซินเจนทา เจ้าของที่ผลิตพาราควอต เพราะฉะนั้นก็อาจจะกล่าวได้ว่า สมาคมนี้ ไม่ได้ยืนอยู่บนฐานวิชาการจริงๆ แต่มามีบทบาทสนับสนุน บริษัท ซินเจนทา ซึ่งเป็นเจ้าของ พาราควอต ซึ่งเรามีหลักฐานอยู่ชิ้นหนึ่งนะครับ ที่มันเกี่ยวพันกัน” นายวิฑูรย์ กล่าว

ทั้งนี้ สมาคมวิทยาการวัชพืชฯ มีที่ตั้งอยู่ในกรมวิชาการเกษตร ม.เกษตรศาสตร์ นั้น เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะบทบาทของมหาวิทยาลัย หรือกรมวิชาการเกษตร หากองค์กรที่มีบทบาททางวิชาการ มีคนมาขอใช้ประโยน์ตั้งเป็นสำนักงาน ก็อาจจะพอรับได้ แต่ถ้าตราบใดที่ไม่ได้ยืนอยู่บนวิชาการอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีบทบาทในการคัดค้านนโยบายของรัฐบาล คัดค้านโยบาย รมช.เกษตรฯ ที่คุมกรมวิชาการเกษตร ซึ่งการคัดค้านนโยบายมาจากการสนับสนุนของบริษัทสารเคมีข้ามชาติพวกนี้

“กรมวิชาการฯ อาจจะต้องทบทวนนะครับ เรื่องของการให้พื้นที่เป็นที่ตั้งสำนักงานของคนพวกนี้นะครับ เพราะว่าเวลามีการเผยแพร่ งานพวกนี้ไป คนก็จะสับสนระหว่างบทบาทของสมาคม ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ กับบทบาทของสถาบันทางวิชาการ กลายเป็นว่า จัดตั้งสถาบันเพื่อคัดค้านนโยบายของราชการเสียเอง ซึ่งอันนั้นผมพอเข้าใจได้ ในการคัดค้านนโยบายของทางราชการ ถ้ามันไม่ถูกต้องอะไรพวกนี้นะครับ ก็สามารถทำได้ แต่ว่าการที่สมาคม ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนนะครับว่าพึงรับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชน ซึ่งแน่นอนขัดแย้งกับนโยบายของรัฐ มันก็มีปัญหานะครับ มันเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันทางวิชาการ ที่ดำเนินการโดยรัฐ โดยภาษีของประชาชน มันกลายเป็นว่า คนจะจำแนกไม่ออกระหว่างสมาคม ที่ได้รับการอุดหนุนจากภาคเอกชน กับสถาบันทางวิชาการ ถ้าจะทำควรจะแยกตัวออกไปเลยนะครับ ไปทำการโดยเอกเทศ และต้องเปิดเผยด้วยว่า งานวิจัยแต่ละอัน ได้รับการสนับนุนจากใคร” ผอ.ไบโอไทย กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น