ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
อาจารย์ประจำสาขาวิชา Business Analytics and Intelligence
และ Actuarial Science and Risk Management
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
มาตรา 112 ในประมวลกฎหมายอาญา บัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี”
ทำไมต้องบังคับใช้มาตรา 112 อย่างเคร่งครัดและเป็นธรรม?
หนึ่ง มาตรา 112 มีสองมูลความผิด หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และ อาฆาตมาดร้าย ซึ่ง สำหรับคนปกติคือคดีหมิ่นประมาทและคดีขู่ฆ่าเอาชีวิต ในเมื่อคนธรรมดาสามัญ กฎหมายก็ยังต้องคุ้มครองหากมีมูลฐานความผิดเดียวกัน แล้วทำไมองค์พระประมุข ผู้ทรงเป็นรัฏฐาธิปัตย์ สำคัญยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ กฎหมายจะไม่คุ้มครอง
มีนักการเมืองที่มีความคิดล้มเจ้า เข้าไปร่วมการชุมนุมและให้เงินแก่แกนนำปลดแอก ตัวเองก็ยังฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทได้ แล้วเหตุไฉน จะยกเลิกมาตรา 112 จะให้พระเจ้าแผ่นดินได้รับความคุ้มครองน้อยกว่าตนเองจะได้รังแกพระเจ้าแผ่นดินได้ตามอำเภอใจเช่นนั้นหรือ
สอง สากลและนานาประเทศ ล้วนแล้วแต่มีการคุ้มครองประมุขและองค์พระประมุขของประเทศตนเองทั้งนั้น ไม่ว่าจะการปกครองในระบอบไหน ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาปกครองกันไม่ได้เลย
สาม เวลาประมุขของประเทศอื่น ๆ เสด็จหรือเดินทางมาเยือนประเทศไทยก็ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายแบบเดียวกันกับมาตรา 112 หรือบังคับใช้มาตรา 133 แล้วทำไมไม่คุ้มครององค์พระประมุขของประเทศตัวเอง คงเป็นเรื่องลักลั่นกันมากที่สุด
สี่ องค์พระประมุขไม่ทรงอยู่ในฐานะที่จะฟ้องร้องคดีต่อผู้ละเมิดพระองค์ได้ ไม่เหมือนกับบุคคลธรรมดา จำเป็นต้องมีกฎหมายมาตรา 112 เพื่อให้เจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ดำเนินการฟ้องร้องและจับกุมดำเนินคดีได้แทนองค์พระมหากษัตริย์
ห้า มาตรา 112 เป็นการคุ้มครององค์พระประมุขของประเทศ อันสอดคล้องกับ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ ดังรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา ๖ ได้บัญญัติไว้ว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้
หก การไม่มีการลงโทษผู้กล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทหรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้อย่างเสรี จะทำให้เกิดความเหยียดหยามได้ เพราะทำจนเคยชิน ดังภาษิตที่ว่า ความคุ้นเคยบ่มเพาะให้เกิดความเหยียดหยาม หากเป็นเช่นนั้น สถาบันพระมหากษัตริย์จะสั่นคลอนและเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
เจ็ด เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนว่า การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และการอาฆาตมาดร้าย เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศว่าพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่โปรดให้ใช้มาตรา 112 ทั้งที่ในความจริงอาจจะไม่โปรดให้ใช้เพราะจะเป็นการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง หรือใช้อย่างไม่เป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม การกระทำผิดโดยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและอาฆาตมาดร้ายนั้นเพิ่มขึ้นมาก เพราะไม่ต้องเกรงกลัวความผิดอีกต่อไป ทำให้สังคมขาดหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม ขาดการบังคับใช้กฎหมาย ทำให้บ้านเมืองไร้ขื่อไร้แป
แปด ทั้งนี้การไม่บังคับใช้มาตรา 112 ทำให้คนหลายคนคะนอง เหิมเกริม จ้วงจาบหยาบช้ามากยิ่งขึ้น เพราะรู้ว่าไม่ว่าจะทำผิดกฎหมายมาตรา 112 มากเพียงใดก็จะปลอดภัยไม่ได้รับการลงโทษ ทั้งยังได้รับแรงเสริมทางบวกจากหลายๆ คน เพราะจะได้กลายเป็นจ่าฝูง เป็นแกนนำ ในการล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ ในหมู่มวลชนปฏิกษัตริย์นิยม ยิ่งทำให้เกิดการกระทำผิดมากยิ่งขึ้น
เก้า กฎหมายทุกมาตรามีสภาพเป็นบทลงโทษและความรุนแรง เพื่อใช้ระงับและข่มขู่คาดโทษไม่ให้เกิดความรุนแรงที่ไม่พึงปรารถนาแก่สังคม การลงโทษและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดหลักนิติรัฐ ซึ่งนำไปสู่รัฐในอุดมคติหรืออุตมรัฐ สังคมใดก็ตามที่การบังคับใช้กฎหมายย่อหย่อนมากจะมีปัญหาอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมายอย่างมากมาย เพราะคนในสังคมจะไม่เกรงกลัวต่อการกระทำความผิด เนื่องจากจะไม่ได้รับโทษ ลอยนวล
สิบ ที่ผ่านมา การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มักเกิดจากการใช้ข้อความอันเป็นเท็จ โกหก ใส่ร้ายป้ายสี แทบทั้งสิ้น ไม่ได้นำความจริงมาพูดอย่างตรงไปตรงมา การแอบอ้างว่าให้ยกเลิกมาตรา 112 แล้วจึงจะพูดหรือวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่เป็นจริง ในเมือก็สามารถพูดได้อย่างตรงไปตรงมา หากเป็นข้อเท็จจริงและมีหลักฐานรองรับอย่างถูกต้อง
ยกตัวอย่าง เช่น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดการทรงงานแบบเงียบ ไม่โปรดให้ประชาสัมพันธ์ ไม่โปรดให้เป็นข่าว เรื่องนี้เป็นพระนิสัยส่วนพระองค์ แต่การที่ทรงทำเช่นนี้เป็นการไม่ถูกต้อง เพราะคนที่จ้องจะใส่ร้ายสถาบัน โพนทะนา โฆษณา ทำสงครามไซเบอร์ล้มเจ้าไม่หยุดหย่อน การนิ่งเฉยจะกลายเป็นการยอมรับ หากพระองค์ท่านจะเลือกทรงงานแบบเดิม ไม่โปรดให้ประชาสัมพันธ์เลยจะเป็นเรื่องแย่ ต้องปรับพระองค์ ยอมให้ประชาสัมพันธ์ ลดความเป็นส่วนพระองค์ลงบ้าง เพื่อไม่ให้ทรงถูกใส่ร้ายป้ายสีมากจนทำให้บ้านเมืองและสถาบันสั่นคลอน ผมมีความเห็นและวิเคราะห์ว่าทรงปรับพระองค์เองในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และกำลังทรงพยายามอยู่ ขอกราบบังคมทูล ถวายกำลังพระทัย
สิบเอ็ด สถาบันพระมหากษัตริย์มีการปรับตัวเองมาตลอดเวลา ในทุกยุคทุกสมัย แต่ขบวนการล้มเจ้าในประเทศไทยก็มีมาต่อเนื่องนับแต่รัชกาลที่ 6 ปฏิวัติ 2475 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และนักการเมืองล้มเจ้า
สิบสอง พวกที่เรียกร้องเรื่องให้ยกเลิกมาตรา 112 นี้ล้วนแต่ปากว่าตาขยิบ มีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะตนเองกระทำผิดมาตรา 112 หรือสนับสนุนผู้คิดล้มเจ้า แต่กลับมาเรียกร้องให้ยกเลิก มาตรา 112 คนมีผลประโยชน์ทับซ้อนเช่นนี้ น้ำหนักคำพูดไม่มีเลย ทำเพื่อให้ตัวเองรอด หรือทำเพื่อให้พวกตัวเองรอด ไม่ได้กระทำโดยบริสุทธิ์ใจ ยกอย่าให้น้ำหนักให้มากนัก
สิบสาม หากมิได้หมิ่นประมาทหรืออาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ จะต้องเดือดร้อน กินปูนร้อนท้องไปทำไมเล่า การบังคับใช้มาตรา 112 ส่งผลดีต่อสังคมมากกว่าผลเสีย ในปัจจุบันที่เห็นชัดเจนก็พบว่ามีการกระทำความผิดชัดแจ้ง ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งไม่เป็นธรรมในการบังคับใช้กฎหมายแต่อย่างใดเลย
ข้าพเจ้า ผศ.ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ขอสนับสนุน การบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112. และต่อต้านการยกเลิกใช้กฎหมายดังกล่าว