ผู้จัดการรายวัน360- "กวิน-รุ้ง" รับทราบข้อกล่าวหา ม.112 และพ.ร.บ.คอมพ์ โวยเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ลั่นปีหน้ายกระดับชุมนุม เข้มข้น ขยายวงกว้าง พร้อมนัดระดมพลร่วมชุมนุมวันรัฐธรรมนูญ จี้ยกเลิกม.112 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่วางกำลังเข้มคุมม็อบ พร้อมดำเนินคดีม.112 หากพบการกระทำผิด ดีอีเอส พบตัวผู้กระทำผิดพ.ร.บ.คอมพ์ 19 บัญชี จากการยื่นดำเนินคดี 496 ยูอาร์แอล ขู่แม้ใช้บัญชีอวตาร ก็สืบหาตัวได้
บ่ายวานนี้ (9ธ.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมนายกฤษฎางค์ นุชจรัส และทีมทนายความ ในความผิดอาญา ตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามหมายเรียก
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ทราบแค่ว่าถูกเเจ้งข้อหา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งกฎหมายทั้ง 2 ตัว ยังมองว่าเป็นกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิ เสรีภาพ และการตั้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ มองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง อย่างไรก็ตาม เรื่องคดี ให้เป็นเรื่องของทนายความ ซึ่งตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด และจะไม่ยอมรับกระบวนการที่เกิดขึ้น เพราะการตั้งข้อกล่าวหาไม่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่แรก
ส่วนการชุมนุมในปีหน้า จะดุเดือดขึ้น กระบวนการจะเข้มข้นมากขึ้น รวมถึงแพร่หลายเป็นวงกว้าง และจะทำให้เรื่องปฏิรูปสถาบันฯ เป็นเรื่องของทุกคน เพราะปีนี้เป็นเหมือนการปักธง ปีหน้าจะไปให้ถึงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
ขณะที่ น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก คดี 112 ที่ นายนิติพงษ์ ห่อนาค ได้เข้าแจ้งความไว้ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด และมองว่า ม.112 ไม่ควรใช้ หากมีการหมิ่นประมาท ก็ควรใช้กฎหมายมาตราอื่นทั่วไป ดังนั้น เมื่อเป็นอาญาแผ่นดิน ใครก็ฟ้องได้ โดยที่คนๆนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำ จึงมองว่ายังเป็นช่องโหว่ของกฎหมาย
สำหรับการจัดกิจกรรมชุมนุม ในวันนี้ (10 ธ.ค.) จะจัดที่อนุสรณ์สถาน 14ตุลา โดยจะมีนิทรรศการ ยกเลิก ม.112 และจะพูดถึง ม.112 ซึ่งเป็นงานเสวนา ให้คนเข้าใจมากขึ้น ยืนยันจะไม่มีการเคลื่อนขบวน
"ครูใหญ่-ไผ่" รับทราบข้อหาฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ที่ สน.ลุมพินี นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ และจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สน.ลุมพินี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานร่วมกันชุมนุมโดยไม่แจ้งจัดการชุมนุมและไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันโรคอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากกรณีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันจะไม่ถอยวันนี้ (10 ธ.ค.) เข้าร่วมชุมนุมด้วยแน่นอน
ม็อบนัดเคลื่อนไหวจี้ยกเลิก ม.112
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันรัฐธรรมนูญ ได้มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายกลุ่มได้นัดชุมนุม จัดกิจกรรม อาทิ แฟนเพจเฟซบุ๊ก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration ได้โพสต์ข้อความนัดชุมนุม โดยระบุว่า “แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ x Mob Fest ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมงาน “ยกเลิก112 สิ แล้วเราจะเล่าให้ฟัง” ในวันที่ 10 ธันวาคม ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ตั้งแต่เวลา 10:00-18:00 น. พบกับวงเสวนาวิชาการ นิทรรศการม.112 วงดนตรี ปาฐกถา และบูธต่าง ๆ มากมาย แล้วเจอกัน”
หลังจากนั้น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำม็อบราษฎร ได้ออกมาโพสต์ข้อความเชิญชวนผ่านเฟซบุ๊ก เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak พร้อมระบุว่า “มาร่วมแสดงพลัง #ยกเลิก112 ด้วยกันในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป งานนี้มีทั้งเสวนา นิทรรศการ การแสดง และดนตรี ส่วนตัวผมจะขึ้นแสดงฉ่อยกับคณะลำตัดราษฎร จะฉ่อยเรื่องอะไรนั้น มาฟังกันนะครับ”
'บุ๊ง' ลั่น 'ม็อบค้อนเคียว' ไม่เกี่ยว "คณะราษฎร"
ด้านนายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และท่อน้ำเลี้ยงม็อบ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า คนมาถามเยอะจริงๆว่าม็อบค้อนเคียวคือไร เรียกร้องอะไร จะจัดเมื่อไร คือผมก็ตอบพวกคุณไม่ได้จริงๆ แต่ก็ต้องพูดกันตามตรงว่า "อันนี้น้องๆเค้าแยกออกไปทำตามแนวทางของเค้าเอง" (ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะนี่คือ ปชต.) ก็ต้องไปถามน้องๆที่แยกออกไปเอาเอง ว่าจะดำเนินทุกอย่างในแบบไหน
ส่วนทางนี้ น้องๆก็กำลังวุ่นกับคดี 112 ที่โดนยัดใส่มา ถ้าใครอยากให้กำลังใจ พรุ่งนี้ (10 ธ.ค.) ก็มากันได้ที่คอกวัว มากันเยอะๆ มากอดลูกกวิ้นกัน
ก่อนหน้านี้ นายปกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ก็ดีนะ แยกไปทำม็อบกันเอง คณะราษฎรจะได้หมดข้อครหาว่ามีพรรคการเมืองหนุนหลังสักที
ตร.คุมเข้มม็อบ10ธ.ค.-ฟันผิดม.112 ตามกม.
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวมาตรการดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมในวันนี้ (10 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นมีการแจ้งขออนุญาตจัดการชุมนุม 2 จุด ประกอบด้วยกลุ่ม 25 มิถุนาประชาธิปไตย บริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติหรือ ยูเอ็น ตั้งแต่เวลา 08.00 – 14.00 น. และกลุ่มชุมนุมเรียกร้องความเหลื่อมล้ำคนพิการบริเวณกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งแต่เวลา 16.00 -20.00 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ปฏิบัติตามข้อกำหนด โดยให้อยู่บริเวณทางเท้าไม่ลงมาพื้นผิวการจราจร ห้ามมีป้ายข้อความปลุกระดมยุยง ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุม ห้ามชุมนุมระยะ 50 เมตรจากทำเนียบรัฐบาล ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงเกินกว่าอัตรากำหนด ไม่เกิน 115 เดซิเบล และการชุมนุมจะต้องเป็นไปโดยสงบไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น
ส่วนการชุมนุมเสวนาที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ของเอกชน ยกเว้นแต่หากมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาเป็นจำนวนมากและเคลื่อนขบวนไปยังพื้นที่สาธารณะจะต้องมีการแจ้งขออนุญาตการชุมนุม โดยให้บก.น.6 ลงพื้นที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ส่วนการดำเนินการตรวจสอบเฝ้าระวังโควิด-19 นั้น ต้องดูตามสถานการณ์ แต่เนื่องจากมีการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ในขณะนี้ จึงขอให้มีการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง หากเป็นกลุ่มเสี่ยงขออย่าให้มาชุมนุมขอให้รับผิดชอบต่อสังคม
สำหรับ การดำเนินคดีกับแกนนำชุมนุมในพื้นที่นครบาล มีการดำเนินแล้ว 120 คดี ได้ส่งพนักงานอัยการ 39 คดี อีก 81 คดีที่เหลืออยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ส่วนคดีมาตรา 112 เป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายหนึ่งจะมีการเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป ส่วนกรณีกลุ่มการ์ดอาสาวีโว่ได้รื้อถอนทำลายทรัพย์สินบริเวณแยกอุรุพงษ์นั้น มีการจับกุมดำเนินคดี 19 ราย และพบว่ามีการทุบทำลายรถตู้ของราชการเสียหาย 3 คัน ซึ่งได้แจ้งร้องทุกข์อีกส่วนหนึ่งไว้แล้ว
ดีอีเอส เตรียมจับ 19 บัญชี ผิดพ.ร.บ.คอมพ์
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงดีอีเอส ได้ดำเนินคดีเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ระหว่างวันที่ 13 ต.ค. – 4 ธ.ค. 2563 ทั้งสิ้น 496 ยูอาร์แอล (แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 284 ยูอาร์แอล, ยูทูป 81 ยูอาร์แอล, ทวิตเตอร์ 130 ยูอาร์แอล และอื่นๆ 1 ยูอาร์แอล) ในจำนวนนี้ได้ดำเนินการพิสูจน์ทราบตัวตนบุคคลแล้ว จำนวน 19 บัญชี แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 15 ราย และ ทวิตเตอร์ 4 ราย และได้ส่งข้อมูลผู้กระทำความผิดให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้
ทั้งนี้ ผลการดำเนินการดังกล่าวเป็นการทำงานเชิงรุกที่ ไม่ได้ส่งแค่ยูอาร์แอลเท่านั้น แต่เป็นการสืบทราบหาผู้กระทำความผิดด้วย ดังนั้นขอให้ประชาชนระมัดระวังในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นบัญชีจริงหรืออวตาร เจ้าหน้าที่สามารถพิสูจน์ทราบตัวตนบุคคลได้ การโพสต์ใดๆ ควรมีมีวิจารณญาณ
ขณะที่การดำเนินการกับเจ้าของแพลตฟอร์มตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ที่ไม่ดำเนินการปิด หรือ ลบเนื้อหาผิดกฎหมายภายใน 15 วัน ตามที่มีการส่งหนังสือไปแจ้งเตือนให้ดำเนินการนั้น สำหรับชุดแรกที่ดำเนินการกับเฟซบุ๊กอยู่ในขั้นตอนของตำรวจในการเชิญตัวแทนมาสอบปากคำเพื่อส่งให้ศาลดำเนินคดีต่อไป
บ่ายวานนี้ (9ธ.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมนายกฤษฎางค์ นุชจรัส และทีมทนายความ ในความผิดอาญา ตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามหมายเรียก
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ทราบแค่ว่าถูกเเจ้งข้อหา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งกฎหมายทั้ง 2 ตัว ยังมองว่าเป็นกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิ เสรีภาพ และการตั้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ มองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง อย่างไรก็ตาม เรื่องคดี ให้เป็นเรื่องของทนายความ ซึ่งตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด และจะไม่ยอมรับกระบวนการที่เกิดขึ้น เพราะการตั้งข้อกล่าวหาไม่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่แรก
ส่วนการชุมนุมในปีหน้า จะดุเดือดขึ้น กระบวนการจะเข้มข้นมากขึ้น รวมถึงแพร่หลายเป็นวงกว้าง และจะทำให้เรื่องปฏิรูปสถาบันฯ เป็นเรื่องของทุกคน เพราะปีนี้เป็นเหมือนการปักธง ปีหน้าจะไปให้ถึงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
ขณะที่ น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก คดี 112 ที่ นายนิติพงษ์ ห่อนาค ได้เข้าแจ้งความไว้ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด และมองว่า ม.112 ไม่ควรใช้ หากมีการหมิ่นประมาท ก็ควรใช้กฎหมายมาตราอื่นทั่วไป ดังนั้น เมื่อเป็นอาญาแผ่นดิน ใครก็ฟ้องได้ โดยที่คนๆนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำ จึงมองว่ายังเป็นช่องโหว่ของกฎหมาย
สำหรับการจัดกิจกรรมชุมนุม ในวันนี้ (10 ธ.ค.) จะจัดที่อนุสรณ์สถาน 14ตุลา โดยจะมีนิทรรศการ ยกเลิก ม.112 และจะพูดถึง ม.112 ซึ่งเป็นงานเสวนา ให้คนเข้าใจมากขึ้น ยืนยันจะไม่มีการเคลื่อนขบวน
"ครูใหญ่-ไผ่" รับทราบข้อหาฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ที่ สน.ลุมพินี นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ และจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สน.ลุมพินี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานร่วมกันชุมนุมโดยไม่แจ้งจัดการชุมนุมและไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันโรคอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากกรณีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันจะไม่ถอยวันนี้ (10 ธ.ค.) เข้าร่วมชุมนุมด้วยแน่นอน
ม็อบนัดเคลื่อนไหวจี้ยกเลิก ม.112
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันรัฐธรรมนูญ ได้มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายกลุ่มได้นัดชุมนุม จัดกิจกรรม อาทิ แฟนเพจเฟซบุ๊ก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration ได้โพสต์ข้อความนัดชุมนุม โดยระบุว่า “แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ x Mob Fest ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมงาน “ยกเลิก112 สิ แล้วเราจะเล่าให้ฟัง” ในวันที่ 10 ธันวาคม ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ตั้งแต่เวลา 10:00-18:00 น. พบกับวงเสวนาวิชาการ นิทรรศการม.112 วงดนตรี ปาฐกถา และบูธต่าง ๆ มากมาย แล้วเจอกัน”
หลังจากนั้น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำม็อบราษฎร ได้ออกมาโพสต์ข้อความเชิญชวนผ่านเฟซบุ๊ก เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak พร้อมระบุว่า “มาร่วมแสดงพลัง #ยกเลิก112 ด้วยกันในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป งานนี้มีทั้งเสวนา นิทรรศการ การแสดง และดนตรี ส่วนตัวผมจะขึ้นแสดงฉ่อยกับคณะลำตัดราษฎร จะฉ่อยเรื่องอะไรนั้น มาฟังกันนะครับ”
'บุ๊ง' ลั่น 'ม็อบค้อนเคียว' ไม่เกี่ยว "คณะราษฎร"
ด้านนายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และท่อน้ำเลี้ยงม็อบ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า คนมาถามเยอะจริงๆว่าม็อบค้อนเคียวคือไร เรียกร้องอะไร จะจัดเมื่อไร คือผมก็ตอบพวกคุณไม่ได้จริงๆ แต่ก็ต้องพูดกันตามตรงว่า "อันนี้น้องๆเค้าแยกออกไปทำตามแนวทางของเค้าเอง" (ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะนี่คือ ปชต.) ก็ต้องไปถามน้องๆที่แยกออกไปเอาเอง ว่าจะดำเนินทุกอย่างในแบบไหน
ส่วนทางนี้ น้องๆก็กำลังวุ่นกับคดี 112 ที่โดนยัดใส่มา ถ้าใครอยากให้กำลังใจ พรุ่งนี้ (10 ธ.ค.) ก็มากันได้ที่คอกวัว มากันเยอะๆ มากอดลูกกวิ้นกัน
ก่อนหน้านี้ นายปกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ก็ดีนะ แยกไปทำม็อบกันเอง คณะราษฎรจะได้หมดข้อครหาว่ามีพรรคการเมืองหนุนหลังสักที
ตร.คุมเข้มม็อบ10ธ.ค.-ฟันผิดม.112 ตามกม.
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวมาตรการดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมในวันนี้ (10 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นมีการแจ้งขออนุญาตจัดการชุมนุม 2 จุด ประกอบด้วยกลุ่ม 25 มิถุนาประชาธิปไตย บริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติหรือ ยูเอ็น ตั้งแต่เวลา 08.00 – 14.00 น. และกลุ่มชุมนุมเรียกร้องความเหลื่อมล้ำคนพิการบริเวณกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งแต่เวลา 16.00 -20.00 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ปฏิบัติตามข้อกำหนด โดยให้อยู่บริเวณทางเท้าไม่ลงมาพื้นผิวการจราจร ห้ามมีป้ายข้อความปลุกระดมยุยง ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุม ห้ามชุมนุมระยะ 50 เมตรจากทำเนียบรัฐบาล ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงเกินกว่าอัตรากำหนด ไม่เกิน 115 เดซิเบล และการชุมนุมจะต้องเป็นไปโดยสงบไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น
ส่วนการชุมนุมเสวนาที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ของเอกชน ยกเว้นแต่หากมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาเป็นจำนวนมากและเคลื่อนขบวนไปยังพื้นที่สาธารณะจะต้องมีการแจ้งขออนุญาตการชุมนุม โดยให้บก.น.6 ลงพื้นที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ส่วนการดำเนินการตรวจสอบเฝ้าระวังโควิด-19 นั้น ต้องดูตามสถานการณ์ แต่เนื่องจากมีการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ในขณะนี้ จึงขอให้มีการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง หากเป็นกลุ่มเสี่ยงขออย่าให้มาชุมนุมขอให้รับผิดชอบต่อสังคม
สำหรับ การดำเนินคดีกับแกนนำชุมนุมในพื้นที่นครบาล มีการดำเนินแล้ว 120 คดี ได้ส่งพนักงานอัยการ 39 คดี อีก 81 คดีที่เหลืออยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ส่วนคดีมาตรา 112 เป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายหนึ่งจะมีการเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป ส่วนกรณีกลุ่มการ์ดอาสาวีโว่ได้รื้อถอนทำลายทรัพย์สินบริเวณแยกอุรุพงษ์นั้น มีการจับกุมดำเนินคดี 19 ราย และพบว่ามีการทุบทำลายรถตู้ของราชการเสียหาย 3 คัน ซึ่งได้แจ้งร้องทุกข์อีกส่วนหนึ่งไว้แล้ว
ดีอีเอส เตรียมจับ 19 บัญชี ผิดพ.ร.บ.คอมพ์
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงดีอีเอส ได้ดำเนินคดีเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ระหว่างวันที่ 13 ต.ค. – 4 ธ.ค. 2563 ทั้งสิ้น 496 ยูอาร์แอล (แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 284 ยูอาร์แอล, ยูทูป 81 ยูอาร์แอล, ทวิตเตอร์ 130 ยูอาร์แอล และอื่นๆ 1 ยูอาร์แอล) ในจำนวนนี้ได้ดำเนินการพิสูจน์ทราบตัวตนบุคคลแล้ว จำนวน 19 บัญชี แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 15 ราย และ ทวิตเตอร์ 4 ราย และได้ส่งข้อมูลผู้กระทำความผิดให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้
ทั้งนี้ ผลการดำเนินการดังกล่าวเป็นการทำงานเชิงรุกที่ ไม่ได้ส่งแค่ยูอาร์แอลเท่านั้น แต่เป็นการสืบทราบหาผู้กระทำความผิดด้วย ดังนั้นขอให้ประชาชนระมัดระวังในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นบัญชีจริงหรืออวตาร เจ้าหน้าที่สามารถพิสูจน์ทราบตัวตนบุคคลได้ การโพสต์ใดๆ ควรมีมีวิจารณญาณ
ขณะที่การดำเนินการกับเจ้าของแพลตฟอร์มตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ที่ไม่ดำเนินการปิด หรือ ลบเนื้อหาผิดกฎหมายภายใน 15 วัน ตามที่มีการส่งหนังสือไปแจ้งเตือนให้ดำเนินการนั้น สำหรับชุดแรกที่ดำเนินการกับเฟซบุ๊กอยู่ในขั้นตอนของตำรวจในการเชิญตัวแทนมาสอบปากคำเพื่อส่งให้ศาลดำเนินคดีต่อไป