xs
xsm
sm
md
lg

ลากไส้“น้องชายธนาธร”ยัดใต้โต๊ะ หวังฮุบที่ดิน“สนง.ทรัพย์สินฯ”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“อัษฎางค์ ยมนาค” นักวิชาการดัง โพสต์ตอก “ธนาธร” ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายพยายามโจมตีสถาบันฯ ตั้งคำถามถึง “สำนักงานทรัพย์สินฯ” แต่ “น้องชาย” กลับแอบยัดเงินใต้โต๊ะ 20 ล้านบาทให้กับคนในของสำนักทรัพย์สินฯ หวังจะฮุบสัมปทานที่ดินทำเลทอง

วานนี้ (3 ธ.ค.) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ร.10 ทรงงานแบบเก็บเงียบ ด้วยนัยยะแห่งปัญหา อันซ่อนเร้น เกาะกิน จนฝั่งรากลึก แต่ถูกบางคนเอาไปบิดเบือนเพื่อหากิน” ที่คุณหรือใคร...อาจไม่เคยรู้ ตลอดเวลา 4 ปีที่ในรัชสมัยมีข่าวการกวาดล้าง จับกุม และเปลี่ยนแปลง โยกย้ายข้าราชการและสำนักงานในพระองค์ หรือในราชสำนัก หรือที่เป็นดราม่าใหญ่สุดคือการรวมสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ฝ่ายต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ นำไปเล่นเกมการเมืองเพื่อโจมตีให้ร้ายจาบจ้วงต่อในหลวงรัชกาลปัจจุบันและลามไปถึงในหลวงรัชกาลก่อน

นายอัษฎางค์ ยังได้ยกตัวอย่างการทุจริตในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ด้วยว่า “ในขณะที่นายธนาธร (จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า) พี่ชาย พยายามโจมตีสถาบันฯ ด้วยการโจมตีว่าสำนักงานทรัพย์สินฯมีความไม่ชอบมาพากล น้องชายธนาธรก็แอบยัดเงินใต้โต๊ะถึง 20 ล้านบาทให้กับคนในของสำนักทรัพย์สินฯ เพื่อหวังจะฮุบสัมปทานที่ดินทำเลทองย่านชิดลม”

นายอัษฎางค์ ระบุต่อว่า นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายของธนาธร เป็นนักพัฒนาที่ดินที่เริ่มต้นธุรกิจด้วยการนำที่ดินจากคุณแม่ที่เป็นนักสะสมที่ดินตัวยงมาพัฒนาต่อยอด เมื่อปี 2560 เกิดคดีที่นายสกุลธร ยัดเงินใต้โต๊ะถึง 20 ล้านบาทให้กับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยหวังจะฮุบสัมปทานที่ดินทำเลทองย่านชิดลม เพื่อนำมาพัฒนาที่ดินบริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาเช่า แต่สถานการณ์พลิกล็อกกลับกลายเป็นว่า นายสกุลธร โดนหลอกอีกที จากจำเลยในคดีดังกล่าว 2 ราย ที่เรียกรับเงินจากนายสกุลธร 3 งวด รวม 20 ล้านบาท คดีนี้จบลงด้วยคำพิพากษาจำคุก 2 จำเลย ที่เป็นนายหน้าและเจ้าพนักงานสำนักทรัพย์สินฯ

“น้องชายหวังจะกอบโกยผลประโยชน์จากสำนักทรัพย์สินฯ ในขณะที่พี่ชาย นายธนาธรคือหัวหอกเรียกร้องในปฏิรูปสถาบัน ด้วยข้อกล่าวหาอันจาบจ้วงว่า พระมหากษัตริย์กินรวบสถาบันทรัพย์สินฯ” นายอัษฎางค์ ระบุ

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีอยู่ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุก 3 ปี นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ กับนายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช จำเลยที่ 1-2 กรณีปลอมเอกสารสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เรียกรับเงินค่าเช่าที่ดินจาก นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจที่ดิน ซึ่งนายสกุลธรได้จ่ายเงินให้รวม 20 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจำเลยที่ 1 ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพย์สินฯจริง แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการจัดซื้อจัดจ้างใดๆ จึงไม่เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน เพราะไม่มีความเป็นเจ้าพนักงาน จึงมีความผิดฐานเป็นคนกลางเรียกรับสินบนเท่านั้น ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นเอกชน มีความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 การที่นายสกุลธรไม่ถูกดำเนินคดี เนื่องจากถูกหลอกลวง ที่สามารถแจ้งความฐานฉ้อโกงได้ แต่ไม่ปรากฏว่านายสกุลธรไปแจ้งความ


กำลังโหลดความคิดเห็น