ผู้จัดการรายวัน 360 - “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas สหรัฐอเมริกา ออกมาโพสต์ข้อความแฉข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์เยาวชนปลดแอก @FreeYOUTHth พบว่ามีความผิดปกติเพราะมีการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือบอต มาทำ IO หรือ Information Operation โกหกตบตาคนไทยทั้งประเทศ
วานนี้ (2 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก “Suphanat Aphinyan” ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ การ Retweet ของเยาวชนปลดแอก ที่พบว่าเกือบ 80% มาจากนอกประเทศ ทั้งนี้ ดร.นิว ได้อธิบายว่า
“โป๊ะแตก! เกือบ 80% Retweet ของเยาวชนปลดแอกมาจากนอกประเทศ!!!
เปิดขบวนการปั่นกระแสโซเชียลฯ ของแอ็กเคาน์ทวิตเตอร์เยาวชนปลดแอก @FreeYOUTHthจำนวนเป็นล้านในโลกโซเชียลฯ เหลือนิดเดียวเมื่อเทียบกับความจริง...
ได้เห็นคุณช่อ พรรณิการ์ วานิช ออกมาให้ข่าวเปิดเผยเรื่อง IO (Information Operation) ถ้าคุณช่อจะรู้ดีขนาดนี้ ก็คงรู้ว่าแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์เยาวชนปลดแอก (@FreeYOUTHth) มีความผิดปกติเพราะมีการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือบอต มาทำ IO หรือ Information Operation โกหกตบตาคนไทยทั้งประเทศ และคุณช่อควรนำไปแถลงข่าวให้สังคมได้รับรู้เพิ่มเติมโดยทั่วถึงกัน
ในทุกๆ ครั้งที่ @FreeYOUTHth ใช้งานทวิตเตอร์จะมีการแชร์ หรือรีทวีต (Retweet) ภายใต้แฮชแท็กเดียวกันซ้ำๆ เพื่อให้แฮชแท็กที่ต้องการสามารถติดเทรนด์ขึ้นเป็นกระแสบนทวิตเตอร์ในปริมาณมากอย่างรวดเร็ว มุ่งหวังทำให้สังคมไทยหลงเข้าใจผิดว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นด้วยกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก ผู้เป็นเจ้าของแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ @FreeYOUTHth และหัวหอกสำคัญในการเคลื่อนไหวของม็อบราษฎร
แต่หลังจากที่มีการตรวจสอบข้อมูลและเข้าไปดูในรายละเอียดเชิงลึกพบว่า @FreeYOUTHth มีขบวนการรีทวิตปั่นกระแสจอมปลอมจำนวนมากที่เชื่อได้ว่าไม่ได้มาจากฝีมือของมนุษย์ แต่เกิดจากการปั่นกระแสโดยใช้เทคโนโลยีที่อาศัยกลุ่มคนที่มีความชำนาญระดับสูงจากต่างประเทศ เพื่อให้สำเร็จตามความประสงค์ที่ต้องการ ในการชี้นำทางความคิดเชิงปริมาณผ่านยอดของการปั่นแฮชแท็กในทวิตเตอร์ซึ่งมีการสร้างขึ้นอย่างบิดเบือน ทำให้คนไทยที่รู้ไม่เท่าทันจำนวนหนึ่งหลงเชื่อตกเหยื่อของการหลอกใช้ทางการเมือง โดยที่ 76.69% ของการรีทวีตเกิดขึ้นภายนอกประเทศ ในขณะที่เพียง 23.31% เท่านั้นที่เกิดขึ้นจากการปั่นกระแสภายในประเทศ
การจะทำแบบนี้ได้ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่สามารถเขียนโปรแกรมซึ่งมีอัลกอริทึมสั่งการให้ระบบคลาวด์ หรือ ระบบประมวลผลคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ทำการรีทวีตแทนมนุษย์ และอาศัยความได้เปรียบนี้มาปั่นกระแสโซเชียลฯ เชิงปริมาณ เพื่อสั่นคลอนความมั่นคงของประเทศ ยุยงปลุกปั่นคนภายในประเทศให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองซึ่งมีคนกลุ่มหนึ่งชักใยอยู่เบื้องหลังอย่างเป็นระบบ ผ่านการชักจูงให้หลงเชื่อว่ากระแสโซเชียลฯ ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ ทั้งๆ ที่เป็นความเห็นของคนส่วนน้อย
นอกจากนี้ยังพบการใช้งานทวิตเตอร์ของบรรณาธิการสำนักข่าวต่างประเทศ บรรดานักเคลื่อนไหวที่เรียกร้องเอกราชให้กับฮ่องกง และอุยกูร์ เป็นแกนหลักสำคัญในการรีทวีตให้กับ @FreeYOUTHth และยังมีบอทอีกจำนวนมากมารับช่วงต่อในการรีทวีตอีกชั้นหนึ่ง เพื่อหลบหลีกระบบตรวจจับบอตของทวิตเตอร์ ไม่ให้ถูกบล็อกการใช้งาน จึงทำให้ขบวนการนี้สามารถปั่นแฮชแท็กที่ตัวเองต้องการให้ติดกระแสได้อย่างต่อเนื่องเรื่อยมา
มาถึงวันนี้ เราน่าจะประเมินได้แล้วว่า “ใคร” ที่กำลังคิดร้ายต่อประเทศไทยของเรา ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน พยายามทุกวิถีทางตั้งแต่ใช้บอตตลอดจนรวมหัวกับชาวต่างชาติ บ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศด้วยข้อมูลกับชุดความคิดที่บิดเบือน พยายามชี้นำสังคมจากขบวนการปั่นกระแสโซเชียลฯ ด้วยเทคโนโลยีแบบผิดๆ เพื่อปลุกม็อบแล้วชักใยเป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างเห็นแก่ตัว นี่ต่างหากคือเบื้องหลังทั้งหมดของปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกของประเทศเราในปัจจุบัน”
วานนี้ (2 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก “Suphanat Aphinyan” ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ การ Retweet ของเยาวชนปลดแอก ที่พบว่าเกือบ 80% มาจากนอกประเทศ ทั้งนี้ ดร.นิว ได้อธิบายว่า
“โป๊ะแตก! เกือบ 80% Retweet ของเยาวชนปลดแอกมาจากนอกประเทศ!!!
เปิดขบวนการปั่นกระแสโซเชียลฯ ของแอ็กเคาน์ทวิตเตอร์เยาวชนปลดแอก @FreeYOUTHthจำนวนเป็นล้านในโลกโซเชียลฯ เหลือนิดเดียวเมื่อเทียบกับความจริง...
ได้เห็นคุณช่อ พรรณิการ์ วานิช ออกมาให้ข่าวเปิดเผยเรื่อง IO (Information Operation) ถ้าคุณช่อจะรู้ดีขนาดนี้ ก็คงรู้ว่าแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์เยาวชนปลดแอก (@FreeYOUTHth) มีความผิดปกติเพราะมีการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือบอต มาทำ IO หรือ Information Operation โกหกตบตาคนไทยทั้งประเทศ และคุณช่อควรนำไปแถลงข่าวให้สังคมได้รับรู้เพิ่มเติมโดยทั่วถึงกัน
ในทุกๆ ครั้งที่ @FreeYOUTHth ใช้งานทวิตเตอร์จะมีการแชร์ หรือรีทวีต (Retweet) ภายใต้แฮชแท็กเดียวกันซ้ำๆ เพื่อให้แฮชแท็กที่ต้องการสามารถติดเทรนด์ขึ้นเป็นกระแสบนทวิตเตอร์ในปริมาณมากอย่างรวดเร็ว มุ่งหวังทำให้สังคมไทยหลงเข้าใจผิดว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นด้วยกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก ผู้เป็นเจ้าของแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ @FreeYOUTHth และหัวหอกสำคัญในการเคลื่อนไหวของม็อบราษฎร
แต่หลังจากที่มีการตรวจสอบข้อมูลและเข้าไปดูในรายละเอียดเชิงลึกพบว่า @FreeYOUTHth มีขบวนการรีทวิตปั่นกระแสจอมปลอมจำนวนมากที่เชื่อได้ว่าไม่ได้มาจากฝีมือของมนุษย์ แต่เกิดจากการปั่นกระแสโดยใช้เทคโนโลยีที่อาศัยกลุ่มคนที่มีความชำนาญระดับสูงจากต่างประเทศ เพื่อให้สำเร็จตามความประสงค์ที่ต้องการ ในการชี้นำทางความคิดเชิงปริมาณผ่านยอดของการปั่นแฮชแท็กในทวิตเตอร์ซึ่งมีการสร้างขึ้นอย่างบิดเบือน ทำให้คนไทยที่รู้ไม่เท่าทันจำนวนหนึ่งหลงเชื่อตกเหยื่อของการหลอกใช้ทางการเมือง โดยที่ 76.69% ของการรีทวีตเกิดขึ้นภายนอกประเทศ ในขณะที่เพียง 23.31% เท่านั้นที่เกิดขึ้นจากการปั่นกระแสภายในประเทศ
การจะทำแบบนี้ได้ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่สามารถเขียนโปรแกรมซึ่งมีอัลกอริทึมสั่งการให้ระบบคลาวด์ หรือ ระบบประมวลผลคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ทำการรีทวีตแทนมนุษย์ และอาศัยความได้เปรียบนี้มาปั่นกระแสโซเชียลฯ เชิงปริมาณ เพื่อสั่นคลอนความมั่นคงของประเทศ ยุยงปลุกปั่นคนภายในประเทศให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองซึ่งมีคนกลุ่มหนึ่งชักใยอยู่เบื้องหลังอย่างเป็นระบบ ผ่านการชักจูงให้หลงเชื่อว่ากระแสโซเชียลฯ ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ ทั้งๆ ที่เป็นความเห็นของคนส่วนน้อย
นอกจากนี้ยังพบการใช้งานทวิตเตอร์ของบรรณาธิการสำนักข่าวต่างประเทศ บรรดานักเคลื่อนไหวที่เรียกร้องเอกราชให้กับฮ่องกง และอุยกูร์ เป็นแกนหลักสำคัญในการรีทวีตให้กับ @FreeYOUTHth และยังมีบอทอีกจำนวนมากมารับช่วงต่อในการรีทวีตอีกชั้นหนึ่ง เพื่อหลบหลีกระบบตรวจจับบอตของทวิตเตอร์ ไม่ให้ถูกบล็อกการใช้งาน จึงทำให้ขบวนการนี้สามารถปั่นแฮชแท็กที่ตัวเองต้องการให้ติดกระแสได้อย่างต่อเนื่องเรื่อยมา
มาถึงวันนี้ เราน่าจะประเมินได้แล้วว่า “ใคร” ที่กำลังคิดร้ายต่อประเทศไทยของเรา ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน พยายามทุกวิถีทางตั้งแต่ใช้บอตตลอดจนรวมหัวกับชาวต่างชาติ บ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศด้วยข้อมูลกับชุดความคิดที่บิดเบือน พยายามชี้นำสังคมจากขบวนการปั่นกระแสโซเชียลฯ ด้วยเทคโนโลยีแบบผิดๆ เพื่อปลุกม็อบแล้วชักใยเป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างเห็นแก่ตัว นี่ต่างหากคือเบื้องหลังทั้งหมดของปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกของประเทศเราในปัจจุบัน”
