xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน”ลุยอัพเกรด“บัตรทอง” ปี65รักษาฟรีทั่วไทย ป่วยมะเร็งเข้าได้ทุก รพ.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“อนุทิน” ลุยอัพเกรด 4 บริการบัตรทอง ตามคอนเซปต์ “30 บาทรักษาทุกที่” นำร่องใน กทม. และตั้งเป้าขยายไปทั่วประเทศภายในปี 2565 ยกระดับให้ผู้ป่วยมะเร็งเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาลที่มีความพร้อม ตั้งแต่ 1 ม.ค.64

วานนี้ (5 พ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมสร้างความร่วมมือภาคีเครือข่ายภาคประชาชน และชี้แจงนโยบาย "ยกระดับบัตรทอง 4 บริการ สู่หลักประกันสุขภาพยุคใหม่" ที่จัดโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง โดย นายอนุทิน ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ ตอนหนึ่งว่า สปสช.ได้พัฒนาการทำงานมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในอดีต เมื่อครั้งมีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค การรักษายังไม่ครอบคลุมสารพัดโรคเช่นปัจจุบัน แต่ได้มีการเพิ่มสิทธิ์เข้าไปเรื่อยๆ จะเห็นว่าทุกนโยบายต้องอาศัยการพัฒนาต่อยอด และ 30 บาทรักษาทุกที่ ขอให้เป็นภาค 2 ของนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อยกระดับการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

"30 บาทรักษาทุกที่ คนไทยต้องเป็น VIP ทุกโรงพยาบาล คือจุดกำเนิดของการขยายสิทธิ์บัตรทองออกไปใน 4 บริการหลักที่มักจะถูกตั้งคำถามในเรื่องของความยากในการปฏิบัติไปจนถึงขั้นที่บางคนบอกว่าทำไม่ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเป็นงานที่ทำแล้วดี ย่อมสมควรทำ" นายอนุทิน ระบุ

สำหรับแนวทางการพัฒนาการให้บริการในสิทธิ์บัตรทอง ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด สปสช.นั้น ประกอบไปด้วย 4 บริการหลัก คือ 1.ประชาชนเจ็บป่วยไปรับบริการกับหมอประจำครอบครัวในหน่วยบริการปฐมภูมิทุกที่ในระบบบัตรทอง ตามนโยบาย "30 บาทรักษาทุกที่" โดยจะขยายเครือข่ายปฐมภูมิเชื่อมต่อข้อมูล ตรวจสอบสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน และมีระบบยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน ทั้งนี้จะเริ่มต้นได้ในวันที่ 1 พ.ย.63 นี้

2.ผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว โดย สปสช.ได้ปรับระบบให้ผู้ป่วยในสามารถรักษาต่อเนื่องได้ทันทีตามการวินิจฉัยของแพทย์โดยไม่ต้องใบส่งตัว ใช้เพียงบัตรประชาชนตรวจสอบตัวตนผู้ป่วย ซึ่งจะนำร่องในพื้นที่เขต 9 เริ่มวันที่ 1 พ.ย.นี้ ส่วนใน กทม. และปริมณฑล จะเริ่ม 1 ม.ค.64 ก่อนขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป

3.โรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ที่พร้อม โดย สปสช. ได้ปรับระบบการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ โดยผู้ป่วยที่ถูกวินิจฉัยแล้วว่าเป็นมะเร็งจะได้ใบรับรอง และประวัติ เพื่อเลือกไปรับบริการที่อื่นผ่าน 3 ช่องทาง คือ สายด่วน สปสช. 1330, แอปพลิเคชัน สปสช. และติดต่อที่หน่วยบริการโดยตรง เฉพาะที่โรงพยาบาลรักษามะเร็งที่มีความพร้อมเข้าร่วม ให้บริการตามโปรโตคอลรักษามะเร็ง บริการระบบสาธารณสุขทางไกล (Telehealth), บริการปรึกษาเภสัชกรทางไกล (Telepharmacy) และการให้ยาเคมีบำบัดที่บ้าน (Home Chemotherapy) โดยค่าบริการให้ส่งข้อมูลเบิกจ่ายมายัง สปสช. ทั้งนี้จะเริ่มในโรงพยาบาลที่มีความพร้อมทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ม.ค.64

และ 4.ย้ายหน่วยบริการได้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน ด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่พัฒนาก้าวหน้า โดยเฉพาะการเชื่อมต่อข้อมูลไปยังหน่วยบริการ ประชาชนสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการใหม่ได้ทันทีหลังเปลี่ยนหน่วยบริการประจำ รวมถึงกรณีที่ประชาชนเปลี่ยนหน่วยบริการเองผ่านแอปพลิเคชัน สปสช. โดยหน่วยบริการสามารถพิสูจน์สิทธิและเบิกจ่ายค่าบริการผ่านบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด ทั้งนี้จะเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 ม.ค.64


กำลังโหลดความคิดเห็น