กลเกมใช้“เยาวชน”แย่งอำนาจรัฐ?

“มหาราชผู้ยิ่งใหญ่ ที่ไม่ต้องสู้รบกับใคร แต่สามารถทำให้ทุกคน ยกย่องสรรเสริญได้ ทั่วโลกยอมแพ้ มีแค่คนเดียว คือ คิงภูมิพล”

นั่นเป็นคำพูดของผู้นำรัสเซีย “วลาดิมีร์ ปูติน” ที่ยกย่อง “ในหลวงรัชกาลที่ ๙” ของปวงชนชาวไทย ผู้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจมากมาย เพื่อดูแลพสกนิกร ตามพระปฐมบรมราโชวาท “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

ต้องยอมรับความจริงว่า “ในหลวงรัชกาลที่ ๙” ได้อุทิศพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจ บำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกรมาตลอดพระชนม์ชีพ พระองค์ทรงเป็น “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา”

ดังนั้น “ในหลวงรัชกาลที่ ๙” จึงมิใช่เป็นเพียง “พระเจ้าแผ่นดิน” ผู้ทรงเป็นที่รักเคารพอย่างยิ่งของปวงชนชาวไทยส่วนใหญ่ หากแต่พระราชกรณียกิจของพระองค์ ยังเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติอีกด้วย “โคฟี่ อันนัน” เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ทูลเกล้าถวายรางวัล “ความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์” (UNDP Human Development Lifetime Achievement Award) แด่ “ในหลวงรัชกาลที่ ๙” เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2549

โดย “โคฟี่ อันนัม” ได้กล่าวเรื่องนี้ไว้ว่า องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน โดยผ่านรายงานของสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) ทั้งระดับโลกและระดับประเทศ ผ่านโครงการพัฒนาจาก 166 ประเทศ ดังนั้น การพัฒนาคนหมายถึง ลำดับความสำคัญของประชาชนถือเป็นอันดับแรก ไม่มีสิ่งอื่นใดอีกแล้วที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการพัฒนาคน ภายใต้แนวทางการพัฒนาคนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

นอกจากนั้น ในการประชุมระดับนานาชาติ ขององค์การสหประชาชาติในวาระอื่นๆ ก็ได้มีการกล่าวชื่นชมยกย่อง “พระมหากษัตริย์นักพัฒนาของชาติไทย” ครั้งแล้วครั้งเล่า รวมทั้งยังได้ทูลเกล้าถวายรางวัลของสหประชาชาติจำนวนมาก เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแด่ “คิงภูมิพล”

คราวนี้มาดูการทำงานของ “ผู้บริหารชาติไทย” ทั้งมาจากการ “เลือกตั้ง” กับ “รัฐประหาร” ในมุมมองที่ว่า

“ผู้มีอำนาจ...ทำดีให้ชาติกับประชาชน-ผู้คนย่อมเห็น หากทำชั่วให้ชาติกับประชาชน-ผู้คนย่อมรู้”

การ “ทำดี-ทำชั่ว” สังเคราะห์ได้จากผลงาน ซึ่งจะบอกให้เห็นให้รู้อย่างแจ่มแจ้งว่า ผลงานของ “ผู้บริหารชาติไทยคนใด” ทำเพื่อชาติกับประชาชนเป็นหลัก? หรือผลงานส่วนใหญ่ทำเพื่อ “ตัวเอง” กับ “พวกพ้อง”?

ผลงาน “ทำดีหรือทำชั่ว” จึงต้องติดตามถึง “ผลลัพธ์” ที่ผู้คนเคยเชื่อมั่นมาตลอดว่า “ทำดีได้ดี-ทำชั่วได้ชั่ว” แต่ ณ วันนี้ได้เกิดความคิดแนวประชดประชัน ผิดเพี้ยนไปชนิด “หน้ามือเป็นหลังตีน” ในทำนองว่า “ทำดีได้ดีมีให้เห็นที่ไหน แต่ทำชั่วได้ดีมีให้เห็นถมไป” (ว่ะ)!

ทั้งนี้เพราะบรรดา “นักการเมืองสามานย์” ทั้งที่มาจากการ “เลือกตั้ง” และ “รัฐประหาร” ล้วนมิได้ใช้อำนาจทำเพื่อชาติและประชาชน หากใช้เล่ห์กลสารพัดเพื่อแสวงหา “อำนาจ” กอบโกยผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก เรียกว่า...ไม่ได้เข้ามาเพื่อ “ทำดีให้ชาติ” ส่วนใหญ่เข้ามา “ทำชั่วให้ชาติ” ต่างหาก!

การที่ “นักการเมืองสามานย์” ทั้งสองรูปแบบ ต่างมุ่งเข้ามาใช้อำนาจกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตนกับพวกพ้อง ด้วยการโกงชาติเสมอนั้น จึงต้องใช้ “คนเลวทุกวงการอาชีพ” เข้ามาทำงานรับใช้ “ตนเอง” กับ “พวกพ้อง” ให้เข้าสู่เป้าหมายตามต้องการ จนทำให้ “ผู้คน” จำนวนหนึ่งเกิดความคิดผิด ที่ว่า “ทำดีได้ดีมีให้เห็นที่ไหน...ทำชั่วได้ดีก็มีให้เห็นถมไป”

แถมยังเกิดความคิดอุบาทว์ว่า “นักการเมืองโกงชาติกูไม่ว่า แต่ขอให้พวกกูได้บ้างนะเว้ยเฮ้ย” โดยไม่สนใจว่าความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้นี้ จะทำให้ชาติกับประชาชน ต้องเผชิญกับวิบัติหนักหนาสาหัสอย่างไร

“นายกฯ บิ๊กตู่” กับพวกพ้อง อยู่ในอำนาจมานานเกือบ 7 ปี แก้เพียงแค่ปัญหาทั่วไป แต่ได้ทำ “ผิดคำพูด” เพราะไม่ได้แก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ให้ชาติกับประชาชน แถมยังซ้ำเติมปัญหาหลักให้วิกฤตยิ่งขึ้น เช่น นโยบายเศรษฐกิจชาติ ก็ยังคงเอื้อประโยชน์ให้กับคนส่วนน้อยรวยยิ่งขึ้นโดยไม่รู้จักพอ! ขณะที่คนส่วนใหญ่ต้องจนลงเรื่อยๆ ทุกวี่วัน

ส่วนการเมืองก็ไร้การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ผลจึงได้ “นักการเมืองสามานย์” ส่วนใหญ่เข้าไปนั่งในสภาฯ สถานการณ์การเมืองชาติก็ปั่นป่วนวุ่นวาย ขนาดว่ารัฐบาลนี้มี “สามอดีต ผบ.ทบ.” ครองเมืองอยู่แท้ๆ แต่กลับเกิดการจาบจ้วงโจมตี “สถาบันพระมหากษัตริย์” อย่างเปิดเผยรุนแรง ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ชาติไทย

เรื่องร้ายแรงเช่นนี้ คนแรกที่ต้องรับผิดชอบ ก็คือ “นายกฯ บิ๊กตู่”!

“กลุ่มคนที่ต้องรับผิดชอบถัดมา” คือ “กลุ่มนักการเมืองสามานย์” ที่กำลังแย่งอำนาจกัน โดยเฉพาะ “ไอ้โม่งผู้อยู่เบื้องหลัง” ที่สมคบกับ “มหาอำนาจบางชาติ” ใช้วิธียุยง “เยาวชน” กับ “ผู้คน” ที่ไม่รู้ในเล่ห์ร้าย ให้ออกมาเคลื่อนไหวจาบจ้วง ทำลาย “สถาบันพระมหากษัตริย์” อย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้

“กลุ่มไอ้โม่งชั่วช้าสามานย์” กำลังทำให้ “เยาวชน” ส่วนใหญ่ที่ไม่รู้เท่าทัน ต้องทำผิดกฎหมาย จนอาจตกเป็น “ผู้กระทำผิด” เสี่ยง “ติดคุก” หมดอนาคตไปโดยปริยาย

“ม็อบเด็ก” เป็นคนส่วนน้อยในชาติ ที่บังอาจบ่อนทำลาย “สถาบันพระมหากษัตริย์” เพราะไปฝักใฝ่หลงเชื่อ “กลุ่มนักการเมืองสามานย์” ที่มีพฤติกรรมจาบจ้วง “ในหลวงรัชกาลที่ ๙” มาตลอด...

รู้มั้ยว่า เขาหลอกใช้เพื่อแย่งอำนาจรัฐ...??