xs
xsm
sm
md
lg

เซ็นไฮสปีด5หมื่นล.-ศักดิ์สยามกำชับรฟท.เปิดใช้ปี68

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360- “นายกฯ”ประธานลงนามในสัญญา "รถไฟไทย-จีน" สัญญา 2.3 วงเงิน 5.06 หมื่นล้าน คาดออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (NTP) เริ่มออกแบบระบบและขบวนรถไฟได้ในปีนี้ “ศักดิ์สยาม”ยันเป้าเปิดให้บริการปี 68 ชี้ "EIA" ผ่านหมดปัญหาใหญ่แล้ว สั่งรฟท.เร่งสปีดงานก่อสร้าง เผยพ.ย. เตรียมเซ็นรับเหมา 5 สัญญารวมวงเงินรวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท

วานนี้ (28 ต.ค.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาจ้างงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญา 2.3) ของโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) วงเงิน 50,633.5 ล้านบาท ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)โดยนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯรฟท. กับ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์แนชันนัล (CHINA RAILWAY INTERNATIONAL CO., LTD.) โดย Mr.Gao Feng (เกา เฟิง) ประธานรัฐวิสาหกิจ และ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ ดีไซน์ คอร์เปอเรชัน (CHINA RAILWAY DESIGN CORPORATION) โดย Mr.Ma Shengshuang (หม่าเซิ่งซวง)

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งของประเทศ โดยมีกำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ซึ่งโครงการรถไฟความเร็วสูงจะเป็นทางเลือกในการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และเป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศ พัฒนาภูมิภาค ตามหัวเมืองหลักของแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และยังเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ในการเชื่อมไทยไปสู่ สปป.ลาว และจีน ในเส้นทางสายไหมยุคใหม่ ที่เรียกว่า Belt and Road Initiative หรือ BRI

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รฟท. กับ รัฐวิสาหกิจของจีน ลงนามสัญญา 2.3 ในลักษณะ G to G โดยมีขอบเขตงานได้แก่ งานวางระบบราง ระยะทาง 253 กม. งานระบบรถไฟความเร็วสูง ระบบไฟฟ้า ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบสื่อสาร งานจัดหาขบวนรถไฟ งานฝึกอบรมบุคลากรเพื่อการเดินรถและซ่อมบำรุง และงานถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยหลังจากนี้ รฟท.และจีน จะหารือในกรอบการทำงานเพื่อวางแผนในการส่งมอบพื้นที่และออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP)

“ขณะนี้งานโยธา ที่มีจำนวน 14 สัญญา ยังค่อนข้างล่าช้า ให้รฟท.ไปเร่งรัด เนื่องจากปัญหาข้อขัดข้องเรื่อง EIAเรื่องแบบสถานีอยุธยา ได้ข้อยุติแล้ว ถือว่าไม่มีปัญหาอุปสรรคใหญ่แล้ว”

ชงครม.ตั้งสถาบันระบบราง

นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้เสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.)แล้วคาดว่าจะมีการพิจารณาในช่วงกลางเดือนพ.ย. ซึ่งมีเป้าหมายเป็นสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางทั้งหมดของประเทศไทย เพื่อให้ไทยมีผู้เชี่ยวชาญระบบรางมากขึ้น มีองค์ความรู้ เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดไปสู่การออกแบบ ผลิตชิ้นส่วน ประกอบ และซ่อมบำรุงระบบราง เกิดงานวิจัย นวัตกรรม เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมระบบรางของไทยเทียบเท่า มาตรฐานระดับสากล และมีการใช้วัสดุภายในประเทศในอุตสาหกรรมระบบรางไทย เป้าหมายเป็นมูลค่าเพิ่มในประเทศ 21,600 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี

คาดแจ้งเริ่มงานออกแบบระบบ-ติดตั้งปีนี้

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯรฟท. กล่าวว่า ตามสัญญา 2.3 จะแบ่งงานออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1. งานออกแบบระบบทั้งหมดและขบวนรถไฟ วงเงินประมาณ 700-800 ล้านบาท ซึ่งจะมีการเจรจาและแจ้งให้จีนทราบล่วงหน้า 56 วันก่อนออก NTP คาดว่าจะสามารถออก NTP ให้จีนได้ภายในปี 2563 ใช้ระยะเวลาในการออกแบบ 10-12 เดือน

2. งานติดตั้ง วงเงินกว่า 40,000 ล้านบาท จะเริ่มหลังจากงานออกแบบเสร็จ และงานโยธามีความคืบหน้าสามารถส่งมอบพื้นที่ให้เข้าวางราง และติดตั้งระบบไฟฟ้า,อาณัติสัญญาณ,ระบบสื่อสารได้ รวมถึงการผลิตขบวนรถไฟ ซึ่งคาดว่าจะออกNTP ได้ช่วงปี 2564 และ 3. งานฝึกอบรม วงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีการจัดตั้งองค์กร บริหารรถไฟความเร็วสูงด้วย คาดว่าจะออก NTP หลังจากนี้ 1-2 ปี

เซ็นรับเหมา 5 สัญญา 4 หมื่นล้านพ.ย.นี้

ส่วนงานโยธา ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา จำนวน 14 สัญญา กรอบวงเงิน 117,914.08 ล้านบาทนั้น ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว 1 สัญญา คือสัญญา 1-1 ช่วงกลางดง – ปางอโศก อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 1 สัญญา คือสัญญา 2-1 ช่วงสีคิ้ว – กุดจิก ประกวดราคาเสร็จแล้วและเตรียมลงนามในเดือนพ.ย. จำนวน 5 สัญญา วงเงินรวม 40,275.33 ล้านบาท ได้แก่ สัญญา 3-2 ช่วงงานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ระยะทาง 12.23 กม. วงเงิน 4,279.33 ล้านบาท สัญญา 3-3 ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง ระยะทาง 21.60 กม. วงเงิน 9,838 ล้านบาท สัญญา3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้วและช่วงกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กม. วงเงิน 9,848 ล้านบาท สัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง12.38 กม. วงเงิน 7,750 ล้านบาท และสัญญา 4-7 ช่วงสระบุรี -แก่งคอย ระยะทาง 12.99 กม. วงเงิน 8,560 ล้านบาท

ส่วนอีก 7 สัญญา แบ่งเป็น สัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. รอความชัดเจนเนื่องจากโครงสร้างทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ส่วนสัญญาที่ 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.21 กม. อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาผลประมูล

อีก 5 สัญญา แนวเส้นทางอยู่ในช่วง บางซื่อ-บ้านภาชี ซึ่งจะมีประเด็นสถานีอยุธยา โดยล่าสุดได้ข้อยุติใช้แบบเดิม ซึ่งEIA เคยได้รับอนุมัติแล้ว แต่ทั้งนี้ จะต้องศึกษาประเด็นมรดกโลกเพิ่มเติม ใช้เวลาศึกษาประมาณ 3-4 เดือน จากนั้นจะเสนอ EIA อีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น