xs
xsm
sm
md
lg

บุกสถานทูตเยอรมนี โพลเตือนม็อบอย่าชักศึกเข้าบ้าน แฉปั่นโซเชียลฯจากตปท.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

'ม็อบราชประสงค์' รวมตัว ชู 3 นิ้วไล่ "บิ๊กตู่" กดดันปล่อยตัวแกนนำ-ผู้ชุมนุม ยกระดับเคลื่นขบวนไปสถานทูตเยอรมนี เย็นวันนี้ ด้าน ”ทนายนกเขา” นัดคนไทย ไม่จำกัดสีเสื้อ ใส่รองเท้าผ้าใบ ใจถึงๆ ชิงไปยื่นหนังสือสถานทูตเยอรมนี ตอนบ่าย

เวลา 16.00 น. วานนี้ (25 ต.ค.) บรรยากาศที่บริเวณแยกราชประสงค์ กลุ่มมวลชนคณะราษฎร เดินทางมาร่วมชุมนุมตามนัด โดยผู้ชุมนุมพยายามตะโกนเรียกให้คนที่ยังอยู่บนสกายวอล์ก ลงมารวมกันที่บนถนน จากนั้นผู้ชุมนุมได้ชู 3 นิ้ว ตะโกนด่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำ และผู้ชุมนุมที่ยังถูกจับกุมดำเนินคดี ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามประสาน ไม่ให้ลงมาบนถนน เพราะประชาชนจะเดือดร้อน แต่มวลชน ก็ยังคงลงมาบนท้องถนน และ ปิดถนนแยกราชประสงค์ ด้านหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด –ห้างเกสร ในที่สุด

ต่อมา นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ "ไผ่ ดาวดิน" ได้มาถึงบริเวณพื้นที่ชุมนุม ได้มีการนัดหมาย คือ ช่วงเวลา 18.00 น. ชูสามนิ้วหลังเคารพธงชาติ พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้แตกคอกับกลุ่มราษฎร เป็นยุทธศาสตร์เดียว แต่แยกกันจัดการชุมนุม ทั้งนี้แม้ พล.อ. ประยุทธ์ จะไม่ลาออก เราจะจัดกิจกรรมเรื่อยๆ และในการชุมนุมที่สถานทูตเยอรมัน ตนก็จะเข้าร่วมด้วย

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ทวิตเตอร์ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก @ FreeYOUTHth ได้ออกมาประกาศว่า วันที่ 26 ต.ค.นี้ เวลา 17:00 น. จะมีการเดินขบวนจากสามย่าน ไปสถานทูตเยอรมนี

เวลา 17.55 น. ผู้ชุมนุมทำกิจกรรมเปิดแฟลชมือถือ โดยระบุว่า เป็นไฟแห่งเสรีชน นำประชาธิปไตยมาสู่มวลชน จากนั้นเวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมร่วมร้องเพลงชาติ และ ชู 3 นิ้ว กลางแยกราชประสงค์ พร้อมเปล่งเสียง “เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”

ต่อมานายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ The Bottom Blues ได้ปราศรัย เล่าเหตุการณืระหว่างถุกควบคุมตัว และได้ร่วมร้องเพลงขับไล่นายกรัฐมนตรี กับผู้ชุมนุม พร้อมพูดว่า "ทุกคนคือแกนนำ"

"พิชิต-ทนายนกเขา"นำทีมแจงเยอรมนี

ด้านนายพิชิต ไชยมงคล อดีตโฆษกกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า วันนี้ (26ต.ค.) เวลา 14.00 น. ตนเองพร้อมด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ (ทนายนกเขา) จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อสถานทูตเยอรมนี เพื่อชี้แจงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ขอให้ไปพบกันที่หน้าสถานทูตเยอรมนี ใส่รองเท้าผ้าใบ และใจถึงๆ

นางทยา ทีปสุวรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ภริยา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ไปร่วมแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันฯ กันค่ะ พบกันลานพระรูป ร.6 สวนลุมพินี วันอังคารนี้ 27 ต.ค. เวลา 5 โมงเย็น #พลังเงียบ # อนุชนรักชาติศาสน์ กษัตริย์"

แกนนำม็อบ"อย่าชักศึกเข้าบ้าน"

นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง "ต่างชาติ อย่ายุ่ง เรื่องของคนไทย" โดยสำรวจผ่าน "เสียงประชาชนในโลกโซเชียล" 21,393 ตัวอย่าง และ “เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม”1,742 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20 - 24 ต.ค.63 พบว่า

ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 98.3 ระบุ ขอต่างชาติรักษาความเป็นมหามิตรประเทศกันมายาวนาน ปล่อยให้ประเทศไทยมีอิสรเสรีภาพแก้ปัญหาเอง มันเป็นเรื่องของประเทศไทย รองลงมา คือ ร้อยละ 97.6 ระบุ ต้องการให้นักการเมือง พรรคการเมือง ร่วมมือกับประชาชนแก้ปัญหาภายในประเทศไทยด้วยกันเอง อย่าชักศึกเข้าบ้าน

ร้อยละ 97.5 ระบุ นักการเมือง พรรคการเมืองบางพรรค แกนนำม็อบบางคน ร่วมมือต่างชาติ ช่วยยุยง ปลุกปั่นความแตกแยกของคนในชาติ หวังแลกผลประโยชน์กัน , ร้อยละ 97.1 ระบุ ต่างชาติเข้าแทรกแซง อ้างความชอบธรรม หลังประเทศไทยพังพินาศ เข้ามาจัดระเบียบ กอบโกยผลประโยชน์ชาติไทยไป , ร้อยละ 87.6 ระบุ ต่างชาติอย่าเข้ามายุ่ง ยุยง ปลุกปั่นกระแส สนับสนุนม็อบ เพราะหวั่นว่าจะพังพินาศ เหมือนหลายประเทศที่ต่างชาติเข้าแทรกแซง เช่น ลิเบีย ฮ่องกง ตูนิเซีย และ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ที่ทุกวันนี้ประชาชนในแต่ละประเทศเป็นทุกข์ เดือดร้อน หลังความแตกแยกของคนในชาติ และรุนแรงบานปลาย

ที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 96.8 ระบุ ม็อบไม่ใช่ทางออก เพราะซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตโควิด-19 แต่ให้ทุกฝ่ายหันมาเจรจาแก้ปัญหาวิกฤตร่วมกันคือทางออก ในขณะที่มีเพียง ร้อยละ 3.2 เท่านั้น ที่ระบุ ม็อบ คือทางออก

ตปท.ร่วมปั่นกระแสโซเชียลฯ

ทั้งนี้ ผลการสำรวจจาก "เสียงประชาชนในโลกโซเชียล" ในการศึกษาแนวโน้มความเคลื่อนไหว ข้อความการเมือง 4 ข้อความ ได้แก่ เยาวชนปลดแอก หยุดคุกคามประชาชน สู้เป็นไทถอยเป็นทาส และ WhatHappenInThailand พบข้อมูลที่น่าพิจารณา คือกลุ่มผู้ใช้งานเคลื่อนไหวสูง (High-Active Users) ระดมปั่นกระแสเข้ามาในประเทศไทยจากต่างประเทศ ทำให้เกิดภาพลวงตาสูงกว่าความเป็นจริง 7 เท่า โดยพบว่าเมื่อมีจำนวนผู้เคลื่อนไหว 1 หมื่นคน จะทำให้เห็นเป็นว่ามี 7 หมื่นคน ถ้ามี 1 แสนคน จะทำให้เห็นว่ามี 7 แสนคน

นอกจากนี้ยังพบว่า มีกลุ่มผู้ใช้งานในโลกโซเชียลฯที่เคลื่อนไหวสูง ขับเคลื่อนข้อความการเมืองในช่วง 30 วันที่ผ่านมา จากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ มีจำนวนมากกว่ากลุ่มผู้ใช้งานในโลกโซเชียลฯ ที่เคลื่อนไหวสูงภายในประเทศ บางข้อความการเมืองเพื่อยุยงปลุกปั่นกระแส เกือบ 200 เท่า มากกว่าความเป็นจริงในประเทศไทย เพราะมาจากต่างชาติ เช่น จำนวนผู้ใช้งานเคลื่อนไหวข้อความการเมืองที่ว่า WhatHappenInThailand มีจำนวนในไทย เพียง 12,290 บัญชี แต่เมื่อรวมต่างชาติเข้ามาพบว่า มีจำนวนถึง 2,379,617 บัญชี

ที่น่าพิจารณาคือ ข้อความการเมืองที่ว่า "หยุดคุกคามประชาชน" มีกลุ่มบัญชีเคลื่อนไหวสูง อยู่ในประเทศไทย 20,517 บัญชี แต่มาจากต่างชาติ 1,557,871 บัญชี นอกจากนี้ ข้อความ "เยาวชนปลดแอก" มีอยู่ในประเทศไทย 20,440 บัญชี แต่มาจากต่างชาติ 636,715 บัญชี

"ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า มีขบวนการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติจริง และกำลังสุมหัวกันอยู่ทุกวันเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของขบวนการสร้างความแตกแยกของคนในชาติ เหมือนที่ทำให้ประเทศต่างๆ เช่น ลิเบีย ตูนิเซีย เกาะฮ่องกง และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ที่สุดท้ายองค์การต่างชาติและรัฐบาลต่างชาติ จะอ้างความชอบธรรมเข้ามาจัดระเบียบในประเทศไทย และย่อมจะกอบโกยผลประโยชน์ชาติ ทรัพยากรของชาติจากประเทศไทยไป ยิ่งไปกว่านั้นจะเห็นได้ว่า ประเทศต่างๆ ที่มีจลาจลกลางเมือง มีความแตกแยกของคนในชาติ ไม่มีประเทศไหนเลยเจริญมั่นคง และพวกเราคนไทย ต้องการพาประเทศและประชาชนตกต่ำเหมือนประเทศเหล่านั้นหรือ" ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น