“ทนายนกเขา-พิชิต” นำกลุ่มประชาชนคนไทย ยื่นหนังสือชี้แจงสถานการณ์การเมืองที่ถูกต้อง ไม่ถูกบิดเบือนจากผู้ชุมนุมบางกลุ่ม ต่อเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
วันนี้ (26 ต.ค.) ที่บริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย สืบเนื่องกรณี นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา นัดหมายกลุ่มประชาชนคนไทยรวมตัวแสดงพลังปกป้องสถาบัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. กลุ่มคนสวมใส่เสื้อเหลืองจำนวนหนึ่งมาปักหลักถือธง และถือป้ายประณามผู้จาบจ้วงอยู่ด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
ต่อมาเวลา 13.45 น. ทนายนกเขา เดินทางมาถึงที่ด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย พบปะพูดคุยกับประชาชนเสื้อเหลืองคนอื่นๆ
จากนั้นในเวลา 14.23 น. นายพิชิต ไชยมงคล หรือ ตั้ม กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองของประเทศไทย ให้ทางรัฐบาลเยอรมนีได้เข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง และต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีเคารพต่อสิทธิของคนไทย เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนี้มีการชุมนุมของคนบางกลุ่ม พยายามจะดึงประเทศเยอรมนีเข้าสู่เวทีความขัดแย้งภายในประเทศไทย เพื่อช่วงชิงอำนาจทางการเมือง โดยนำความเชื่อทางการเมืองมาผสมผสานกับความเท็จ แล้วส่งต่อทางสื่อและโชเซียลเน็ตเวิร์ก
ทั้งนี้ รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ทางเอกอัครราชทูตสหพันธ์เยอรมนีประจำประเทศไทย ได้มารับหนังสือด้วยตัวเอง โดยบอกว่าเข้าใจสถานการณ์ของประเทศไทย และจะส่งหนังสือฉบับนี้ให้กับรัฐบาลของประเทศเยอรมนีต่อ
หนังสือดังกล่าวลงชื่อโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ นายพิชิต ไชยมงคล กลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) มีเนื้อหาดังนี้ เรียน ฯพณฯ Georg Schmidt
วันที่ 26 ตุลาคม 2563
เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย 9 ถนนสาธรใต้ ทุ่งมหาเมฆ กรุงเทพมหานคร
ข้าพเจ้าผู้ที่ลงนามข้างล่างนี้ พร้อมประชาชนคนไทยที่มาในวันนี้ มีความกังวลอย่างยิ่งต่อการที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องบางกลุ่มกำลังจะดึง สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเข้าสู่เวทีความขัดแย้งภายในประเทศไทย อันเกิดจากความพยายามต่อสู้ช่วงชิงอำนาจทางการเมืองเนื่องมาจากการกระทำที่ผิดกฎหมายของผู้นำของกลุ่ม จึงพยายามสร้างสถานการณ์ที่เอื้อต่อประโยชน์ทางการเมืองของตน โดยนำเอาความเชื่อทางการเมืองมาผสมผสานกับความเท็จนานัปการที่แพร่หลายไปทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media) และการปฏิบัติงานด้านข่าวสาร (IO) ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างกระแสครอบงำความคิดของนักรียนนักศึกษา ซึ่งอยู่ในวัยกำลังแสวงหา ให้มีความเกลียดชัง มีอคติให้ทำลายทุกสิ่งที่ต่างสมัยจากตนเองให้หมด ซึ่งรวมถึงการดึงเอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือในการทำลายล้างระบบสังคมแบบเดิมด้วย โดยนำหลักจิตวิทยาฝูงชนมาใช้ในการเร่งเร้าอารมณ์ให้เกิดพลังลบ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของอารมณ์และความหลงใหล ไม่ใช่อยู่บนพื้นฐานของเหตุผล ดังจะเห็นได้จากการเรียกร้องต่างๆ ของผู้ชุมนุมที่ขัดแย้งกันเอง และถ้าพิจารณาโดยเหตุผลแล้ว ข้อเรียกร้องเรื่องการแก้ไขบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฯก็อยู่ระหว่างการนำเข้าสู่การพิจารณาในรัฐสภาแล้ว อีกทั้งข้อเรียกร้องทางการเมืองประการอื่นที่สามารถแก้ไขได้ตามกลไกในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงใคร่ร้องขอให้รัฐบาลของท่านรับฟังและพิจารณาข้อมูลอย่างถ่องแท้จากทุกฝ่าย เพื่อระงับยับยั้งการบานปลายของเรื่องราวที่จะสร้างความเสียหายนานัปการต่อประเทศไทย อันเกิดจากข้อมูลที่ถูกบิดเบือนและเป็นเท็จโดยเจตนา ซึ่งเป็นสิ่งมิบังควรอย่างยิ่ง
ประวัติศาสตร์ได้สอนให้โลกเห็นแล้วว่า การนำเอาลัทธิความเชื่อที่สุดขั้ว นำความเกลียดชังและอคติมาครอบงำประชาชนเพียงเพื่อผลประโยชทางการเมืองส่วนตน เพื่อแย่งชิงอำนาจนั้นสามารถนำไปสู่ความสูญเสียมหาศาลต่อประเทศ และวิถีชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า ในการชุมนุมของคณะราษฎร 2563 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าการชุมนุมของกลุ่มเยาวชน นักศึกษามีผู้อยู่เบื้องหลัง โดยตนเองสันนิษฐานจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะเป็นแกนนำ และขับเคลื่อนทุกอย่างด้วยตนเอง จึงอยากเรียกร้องคนที่อยู่เบื้องหลัง ออกมาแสดงตนต่อสู้อย่างเปิดเผย อย่าใช้เยาวชนและนักศึกษาเป็นเครื่องมือ และย้ำว่ากลุ่มประชาชนคนไทยที่เดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้ไม่ได้มีความประสงค์ที่จะมาปะทะ หรือประชันหน้ากับมวลชนของคณะราษฎร 2563 แต่อย่างใด เพราะทราบมาก่อนหน้าแล้วว่ามวลชนคณะราษฎร 2563 มีการเคลื่อนขบวนจากตลาดสามย่านมาที่สถานทูตเยอรมนีในเวลา 17.00 น. จึงเลือกที่จะมาคนละเวลา
โดยหลังจากที่ปราศรัยกับมวลชนเสร็จ ทางแกนนำกลุ่มประชาชนคนไทยได้ประกาศยุติการมายื่นหนังสือในวันนี้ และให้ทุกคนกลับบ้าน พร้อมกับเคลียร์ขยะในพื้นที่ให้หมด
ต่อมาในเวลา 15.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำลวดหนามมากั้นบริเวณทางเท้าบนพื้นที่หน้าสถานทูต และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลอย่างเคร่งครัด