นายกฯ ห่วงผนังกั้นน้ำแตก ที่ อ.ปักธงชัย สั่งเฝ้าระวังระดับน้ำ พร้อมอพยพและช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วน ขณะที่ ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา เผยกว่า 565 หลังคาเรือน ใน 7 อำเภอได้รับความเดือดร้อน
วานนี้ (18 ต.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับรายงานและติดตามสถานการณ์ผนังกั้นน้ำ อ่างเก็บน้ำลำหินตะโง่ อ. ปักธงชัย จ.นครราชสีมา แตกเนื่องจากปริมาณฝนตกต่อเนื่อง และปริมาณน้ำเกินกว่าจะรับได้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่โดยรอบ และสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง โดยสั่งการให้หน่วยงาน เช่น กรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช) และจังหวัด เฝ้าติดตามและแก้ไขโดยด่วน พร้อมทั้งเร่งเตือนประชาชน ให้ได้รับรู้ข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และการรับมือในสถานการณ์
ทั้งนี้ หน่วยงานต่างๆได้รายงานผลการช่วยเหลือ และบรรเทาสาธารณภัย ให้นายกฯ ทราบทุกระยะ และนายกฯ ได้กำชับให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนทุกขณะ และระดมสรรพกำลัง เครื่องมือ และหน่วยแพทย์ เพื่อช่วยเหลือตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและเตรียมพร้อมอยู่ในพื้นที่ตลอดเวลา
อพยพด่วน 12 ตำบล อ.ปักธงชัย
นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา เปิดเผยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นครราชสีมาว่า รับรายงานน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร 7 อำเภอ 30 ตำบล 74 หมู่บ้าน 565 ครัวเรือน โดยมี อ.ปักธงชัย 12 ตำบล อ.โนนสูง 3 ตำบล อ.พิมาย 4 ตำบล อ.เมืองฯ 4 ตำบล อ.โชคชัย 5 ตำบล อ.ปากช่อง 8 ตำบล และอ.ขามทะเลสอ 2 ตำบล
ส่วนเหตุการณ์อ่างเก็บน้ำหินตะโง่ โดยสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ได้ถ่ายโอนภารกิจให้อบต. ต.ลำนางแก้ว อ.ปักธงชัย ดูแลรับผิดชอบและได้ปรับปรุงเสริมสันอ่างยาว 30 ม. เพื่อเพิ่มความจุจากเดิม 5 แสนลบ.เมตร เป็น 1.2 ล้าน ลบ.เมตร บานประตูถูกน้ำกัดเซาะชำรุด ทำให้มวลน้ำ 5 แสน ลบ.เมตร ไหลออกจาตัวอ่างที่ชำรุด โดยมีรัศมีการแพร่กระจายของกระแสน้ำประมาณ 1-2 กม. ส่งผลกระทบพื้นที่ บ้านลำประโคน บ้านโนนสำโรง ต.ลำนางแก้ว แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำ หรือเพิ่มปริมาณน้ำในคลองลำพระเพลิงตอนล่างแต่อย่างใด ทั้งนี้อาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ฮุก. 31 นครราชสีมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนแล้ว
ส่วนการเผชิญเหตุ และการช่วยเหลือประชาชน ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประกาศแจ้งเตือนการระบายจากเขื่อนลำพระเพลิง ซึ่งมีพื้นที่เสี่ยง ประกอบด้วย ตำบลตะขบ ตำบลตูม ตำบลลำนางแก้ว ตำบลบ่อปลาทอง ตำบลสุขเกษม ตำบลงิ้ว ตำบลนกออก ตำบลดอนตำบลสะแกราช ตำบลโคกไทย ตำบลตะคุ ทุกภาคส่วนได้ระดมกำลังนำเรือท้องแบนอพยพชาวบ้านนากลาง หมู่ 6 ต.บ่อปลาทอง เนื่องจากน้ำได้ล้นคลองลำพระเพลิงตอนล่างท่วมถนนและสะพานเข้า-ออกหมู่บ้าน ระดับน้ำสูงกว่า 1.20 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้ประชาชนอยู่ประมาณ 48 ครัวเรือนและถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามชาวบ้านส่วนหนึ่งที่เคยได้รับผลกระทบน้ำท่วมใหญ่ปี 53 ได้อพยพสิ่งของมีค่ากันและเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงไว้บนที่สูงรวมทั้งการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดการแตกตื่นตรวจสอบข่าวกันตลอดเวลา
วานนี้ (18 ต.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับรายงานและติดตามสถานการณ์ผนังกั้นน้ำ อ่างเก็บน้ำลำหินตะโง่ อ. ปักธงชัย จ.นครราชสีมา แตกเนื่องจากปริมาณฝนตกต่อเนื่อง และปริมาณน้ำเกินกว่าจะรับได้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่โดยรอบ และสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง โดยสั่งการให้หน่วยงาน เช่น กรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช) และจังหวัด เฝ้าติดตามและแก้ไขโดยด่วน พร้อมทั้งเร่งเตือนประชาชน ให้ได้รับรู้ข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และการรับมือในสถานการณ์
ทั้งนี้ หน่วยงานต่างๆได้รายงานผลการช่วยเหลือ และบรรเทาสาธารณภัย ให้นายกฯ ทราบทุกระยะ และนายกฯ ได้กำชับให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนทุกขณะ และระดมสรรพกำลัง เครื่องมือ และหน่วยแพทย์ เพื่อช่วยเหลือตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและเตรียมพร้อมอยู่ในพื้นที่ตลอดเวลา
อพยพด่วน 12 ตำบล อ.ปักธงชัย
นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา เปิดเผยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นครราชสีมาว่า รับรายงานน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร 7 อำเภอ 30 ตำบล 74 หมู่บ้าน 565 ครัวเรือน โดยมี อ.ปักธงชัย 12 ตำบล อ.โนนสูง 3 ตำบล อ.พิมาย 4 ตำบล อ.เมืองฯ 4 ตำบล อ.โชคชัย 5 ตำบล อ.ปากช่อง 8 ตำบล และอ.ขามทะเลสอ 2 ตำบล
ส่วนเหตุการณ์อ่างเก็บน้ำหินตะโง่ โดยสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ได้ถ่ายโอนภารกิจให้อบต. ต.ลำนางแก้ว อ.ปักธงชัย ดูแลรับผิดชอบและได้ปรับปรุงเสริมสันอ่างยาว 30 ม. เพื่อเพิ่มความจุจากเดิม 5 แสนลบ.เมตร เป็น 1.2 ล้าน ลบ.เมตร บานประตูถูกน้ำกัดเซาะชำรุด ทำให้มวลน้ำ 5 แสน ลบ.เมตร ไหลออกจาตัวอ่างที่ชำรุด โดยมีรัศมีการแพร่กระจายของกระแสน้ำประมาณ 1-2 กม. ส่งผลกระทบพื้นที่ บ้านลำประโคน บ้านโนนสำโรง ต.ลำนางแก้ว แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำ หรือเพิ่มปริมาณน้ำในคลองลำพระเพลิงตอนล่างแต่อย่างใด ทั้งนี้อาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ฮุก. 31 นครราชสีมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนแล้ว
ส่วนการเผชิญเหตุ และการช่วยเหลือประชาชน ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประกาศแจ้งเตือนการระบายจากเขื่อนลำพระเพลิง ซึ่งมีพื้นที่เสี่ยง ประกอบด้วย ตำบลตะขบ ตำบลตูม ตำบลลำนางแก้ว ตำบลบ่อปลาทอง ตำบลสุขเกษม ตำบลงิ้ว ตำบลนกออก ตำบลดอนตำบลสะแกราช ตำบลโคกไทย ตำบลตะคุ ทุกภาคส่วนได้ระดมกำลังนำเรือท้องแบนอพยพชาวบ้านนากลาง หมู่ 6 ต.บ่อปลาทอง เนื่องจากน้ำได้ล้นคลองลำพระเพลิงตอนล่างท่วมถนนและสะพานเข้า-ออกหมู่บ้าน ระดับน้ำสูงกว่า 1.20 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้ประชาชนอยู่ประมาณ 48 ครัวเรือนและถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามชาวบ้านส่วนหนึ่งที่เคยได้รับผลกระทบน้ำท่วมใหญ่ปี 53 ได้อพยพสิ่งของมีค่ากันและเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงไว้บนที่สูงรวมทั้งการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดการแตกตื่นตรวจสอบข่าวกันตลอดเวลา