xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ สู้แบบหน้ามืด เลือดเข้าตา

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
ถ้าเป็นนักชกบนสังเวียน โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำทำเนียบขาวของสหรัฐฯ คงอยู่ในสภาพเมาหมัด ชกสะเปะสะปะ ร่างกายอิดโรยด้วยความไม่สมบูรณ์ อาการติดเชื้อโรคโคโรนาไวรัสยังไม่หายขาด แต่ว่าเจ้าตัวไม่ยอมอยู่ในโรงพยาบาลรับการรักษาให้หายเท่านั้น

ยิ่งต่อยบนสังเวียน มีทั้งแผลแตก เลือดเข้าตา หน้ามืด อาการป้อแป้ แต่ยังฮึดสู้งัดลวดลายต่างๆ มาตอบโต้ เล่นงานคู่ต่อสู้ ใช้ทุกรูปแบบ ไม่คำนึงถึงกฎ กติกา

ช่วงการดวลน้ำลายดีเบตกับคู่ชิง โจ ไบเดน รอบแรก ทรัมป์ก็ใช้วิธีสกปรก ขัดจังหวะการเข้าทำของฝ่ายตรงข้ามซ้ำซาก กรรมการห้ามแล้วก็ไม่ฟัง ถ้าเป็นนักมวยคงเกือบเข้าข่ายถุยน้ำลายใส่หน้า เอานิ้วจิ้มตา กัดหู บีบไข่คู่ต่อสู้ไปแล้ว

เกมตัดจังหวะมีซ้ำซาก พิธีกรห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง เพราะไร้มารยาท!

คนรักความเป็นธรรม เล่นกันแบบแฟร์ๆ คงรู้สึกอิดหนาระอาใจกับระดับความคิดและพฤติกรรมต่ำทรามของทรัมป์ ถ้ายังเป็นเพียงนักธุรกิจหรือพิธีกรรายการ The Apprentice บนจอทีวี เยาะเย้ยถากถางคนร่วมรายการคงไม่กระไร

นี่เป็นผู้นำชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก พฤติกรรมน่ารังเกียจยิ่งนี้ย่อมทำให้คนอเมริกันส่วนหนึ่งต้องรู้สึกอัปยศ อดสู เพราะท่านผู้นำทำให้ขายหน้า เกียรติภูมิของสหรัฐฯ เสื่อม ในสายตาผู้นำพันธมิตรในยุโรป ดูตกต่ำเหลือเกิน

ระดับแกนนำของพรรครีพับลิกันคงถอดใจ และทำใจว่าทรัมป์แพ้การเลือกตั้งครั้งนี้แน่ เพียงแต่ไม่อยากแสดงออก รอให้ผลชี้ชัด หรือมีบางส่วนหวังว่าทรัมป์ยังอาจชนะ เพราะส่วนใหญ่คนลงคะแนนเสียงล่วงหน้าไปมากแล้ว

กว่าความฉาวโฉ่เรื่องข้อกล่าวหาว่าเลี่ยงภาษี การติดเชื้อโควิด-19 และอาการถ่อยบนเวทีดีเบตจะสร้างภาพให้ดูเลว พวกสาวกทรัมป์และพรรครีพับลิกันก็อาจลงคะแนนส่งไปแล้ว ที่เหลือก็ไปว่ากันในวันที่ 3 ตัดสินชะตากรรมของทรัมป์

หลังจากป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทหารวอลเตอร์รีด ทรัมป์และคณะแพทย์ยังไม่เคยตอบคำถามสำคัญ เช่น พบการติดเชื้อจากการตรวจครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กันแน่ ออกซิเจนในเลือดลดลงเท่าไหร่ อาการไข้เป็นอย่างไร

และที่คนอยากรู้คือ การติดเชื้อในปอดอยู่ในขั้นรุนแรงแค่ไหนที่จำเป็นต้องรับยา Dexamethasone ซึ่งเป็นยาสเตียรอยด์ แก้อาการติดเชื้อในปอดและมีผลข้างเคียงกดภูมิต้านทานในร่างการสำหรับการต้านโรคอย่างอื่นๆ

ทรัมป์ให้สัมภาษณ์สื่อฟ็อกซ์นิวส์ แบบคุยไปไอไปด้วย มีอาการเหมือนหอบ ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อพูดไปไม่ปรากฏภาพ ทรัมป์ต้องใช้ออกซิเจนช่วยการหายใจหรือไม่ ที่ผ่านมาทำตัวเป็นคนปากแข็ง คุยโม้ว่าเชื้อไวรัสทำอะไรไม่ได้ เป็นดั่งพระเจ้าอวยพร

ทรัมป์ยังบอกคนอเมริกันว่าอย่ากลัวเชื้อไวรัส ทั้งๆ ที่คนอเมริกันตายแล้วกว่า 2.2 แสนคน และตัวเลขการติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับสูงน่าตกใจ แต่ทรัมป์ไม่หวั่น

โพลสำรวจล่าสุดทำโดยซีเอ็นเอ็นและเครือข่ายชี้ชัดว่าไบเดนชนะ มีคะแนนแบบอิเล็กโทรัลโหวต อยู่ในระดับ 290 แล้ว เกินกว่า 270 ที่ต้องการให้ชนะไปมากโข และความนิยมห่างจากไบเดนเป็นตัวเลข 2 หลัก ถือว่าแก้ไขยาก เพราะมีเหลือน้อย

การไม่ยอมเข้าร่วมดีเบตรอบสอง เพราะเป็นการตอบคำถามผ่านสื่อระยะไกล อ้างว่าไร้สาระ เสียเวลา เอาไปหาเสียงดีกว่า ทำให้ทรัมป์ถูกมองว่าอยู่ในอาการทุรนทุราย กังวลอย่างมากกับคะแนนความนิยมตกต่ำ เพราะมีจุดอ่อนมากจนแก้ไขไม่ได้

เมื่อไม่ยอมดีเบต ทรัมป์อาจยกเป็นข้ออ้างได้ว่ารูปแบบการดีเบตแบบแยกกันอยู่เป็นการลำเอียงเพื่อต้องการช่วยเหลือไบเดน เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการเล่นไม่ซื่อกับการเลือกตั้งซึ่งคนส่วนใหญ่ใช้สิทธิทางไปรษณีย์ แต่ไม่เคยมีหลักฐานมาโชว์

การที่ไม่ยอมอาย รู้สึกว่าผิดเมื่อพูดโกหกหรือให้ข้อมูลเท็จเพื่อใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นถือว่าเป็นหลักปฏิบัติของทรัมป์ นักประวัติศาสตร์สหรัฐฯ วิเคราะห์ว่าไม่เคยมีผู้นำประเทศสหรัฐฯ รายใด ตั้งแต่ตั้งประเทศมา จะมีพฤติกรรมต่ำทรามน่ารังเกียจอย่างนี้

ความไม่ใส่ใจ ห่วงใยชีวิตและความปลอดภัยของผู้อื่นทำให้ทรัมป์ถูกมองว่าเป็นคนเลือดเย็น ล่าสุดได้เรียกคนมาฟังการปราศรัยหน้าทำเนียบขาว โดยทรัมป์ยืนบนระเบียง ผู้ที่มาเป็นกลุ่มคนผิวสี มีทั้งผิวดำและผิวเหลือง พยายามตีตื้นคะแนน

คำปราศรัยเป็นคำพูดหาเสียงอย่างโจ่งแจ้ง เป็นไปตามความคาดหมายว่าทรัมป์จะให้ทำเนียบขาวเป็นเวทีสำหรับหาเสียง ทำได้บ่อย ไม่ต้องมีต้นทุนอะไร และการปราศรัยบนระเบียงล่าสุดก็ใช้ข้อมูลเท็จและการโกหกเล่นงานโจ ไบเดนอีก

ทรัมป์ยังตอกลิ่มให้แยกความขัดแย้งในประเด็นสีผิว ให้ถ่างกว้างรุนแรงกว่าเดิม ไม่ยอมประณามกลุ่มผิวขาวแนวคิดขวาจัดหัวรุนแรง ทั้งยังให้ท้ายกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ เช่นกลุ่ม Proud Boys ยิ่งทำให้รู้สึกว่าสังคมอเมริกันกำลังป่วยหนัก

ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง และรู้ว่าจะพ่ายแพ้ ทรัมป์จะต้องออกฤทธิ์ออกเดช ฟาดงวงฟาดงาไปเรื่อย หาเรื่องโจมตีบิดเบือนประเด็นต่างๆ ให้สมกับคำประกาศแล้วว่า การเลือกตั้งครั้งนี้รับรอง “จบแบบไม่สวย” แต่ก็ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเป็นอะไร

แต่ทรัมป์คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ต้องใช้ศาลพิจารณา สู้ต่อเนื่องยื้อเวลาไปเรื่อยๆ ตัวเองก็จะไม่ยอมออกจากทำเนียบขาว รอจนกว่าศาลฎีกาจะว่าอย่างไร แต่นั่นเป็นความหวังของทรัมป์ ต้องดูว่าพรรครีพับลิกันจะว่าอย่างไร ยอมตามทรัมป์หรือไม่

การดึงดัน เล่นนอกกติกา รวมทั้งการใช้วิธีสกปรก ทำให้คนในพรรครีพับลิกันหวาดหวั่นเช่นกันว่าอาจมีหลายคนในกลุ่ม ส.ว. และ ส.ส.ต้องสอบตก เพราะผู้นำในวุฒิสภาห่วงว่าพรรคคู่แข่งมีโอกาสได้เสียงข้างมากทั้ง 2 สภา และจะฟื้นยาก

ถ้าทรัมป์แพ้ คงดูไม่จืด ทำใจได้ยาก ทั้งยังตากหน้ารอคดีที่จะมาเยอะด้วย!


กำลังโหลดความคิดเห็น