xs
xsm
sm
md
lg

แฉม็อบบุกทำเนียบฯแผนลวง-เป้าหมายลานพระรูป-ศาลฯถก"อานนท์-ไมค์-รุ้ง"ล้มล้าง!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360 - สันติบาลตรึงกำลังที่ทำเนียบฯ 3 กองร้อย รับมือม็อบ ติดกล้องซีซีทีวี ตึกจุดสูงข่ม พร้อมเตรียมรถปั่นไฟฟ้าสำรองกรณีฉุกเฉิน "วิษณุ"กางกฎหมาย ห้ามเฉียดใกล้ทำเนียบฯ ระยะ 50 เมตร "ส.ว.สมชาย" ปูดรายงานลับ10 กลุ่ม ขนคนร่วมม็อบ แฉบุกทำเนียบฯแค่แผนลวง เป้าหมายจริงที่ลานพระรูป ตร.ระดมกำลังพล 9 พันนายดูแลม็อบ "ก้าวไกล" ยันยกทีมไป มธ. อ้างสังเกตการณ์ ห่วงมีการละเมิดสิทธิ "พี่ศรี" ส่งรายชื่อ 11 ท่อน้ำเลี้ยงให้ ปปง.ไต่สวน ชี้เปิดรับบริจาค ผิดกม.ฟอกเงิน ข้อหา"ตัวการร่วม" ขณะที่ศาลรธน. รับคำร้องวินิจฉัย “อานนท์-ไมค์-รุ้ง” ปราศรัยชุมนุม 10 ส.ค. เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ มธ.ท่าพระจันทร์ ให้ความร่วมมือฝ่ายความมั่นคง ปิดเรียน19-20 ก.ย.นี้

วานนี้ (16ก.ย.) นางวิสุนี บุนนาค รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในนามสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เชิญหน่วยงาน ในกำกับดูแลภายในทำเนียบรัฐบาล และด้านการรักษาความปลอดภัย อาทิ ตำรวจสันติบาล ตำรวจนครบาล เข้าร่วมประชุมและรายงานแผน เตรียมความพร้อมในการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ โดยใช้เวลาประชุมนานประมาณ 1 ชม.

พล.ต.ต.สุรชาติ มณีจักร ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล3 ( ผบก.ส.3 ) กล่าวว่า ประเด็นนี้ขอให้สอบถาม จากผู้บังคับบัญชาของทำเนียบรัฐบาล เกรงว่าจะให้ข้อมูลผิดพลาด เพราะเรื่องนี้อยู่ในชั้นความลับ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นนี้ ยังไม่มีเหตุหรือสิ่งบ่งบอกที่จะเกิดความรุนแรง เป็นเพียงการคาดการณ์ ส่วนจะมีการเตรียมการอย่างไรบ้างนั้น เป็นแผนในชั้นความลับขออนุญาตไม่ตอบ อย่างไรก็ตาม โดยปกติหน่วยงานของทำเนียบรัฐบาลจะมีแผนหลักในเรื่องการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว รวมถึงแผนของตำรวจนครบาลในเรื่องของการชุมนุมต่างๆ

ทั้งนี้มีรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. ตำรวจนครบาลจะเข้าประจำการในทำเนียบฯ 3 กองร้อย มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่มตามตึกจุดสูงข่มภายในทำเนียบฯ ทุกตึก รวมทั้งได้นำรถเครื่องปั่นไฟสำรอง 3 คันมาประจำการ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งมอบหมายให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.

นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยังไม่มีการตัดการทำงานของกลุ่มศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC) หรือ พีมอกใหม่ โดยมอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ดูแลทั้งหมดโดยจะมีการมอนิเตอร์สถานการณ์ และบรรยากาศโดยเฉพาะการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นตลอด 24 ชม.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามพ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มีมาตรการกำหนดไว้ว่ าห้ามผู้ชุมนุมเข้ามาชุมนุมปักหลักในสถานที่ หรืออาคารสำคัญ โดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาล ที่ถือเป็นศูนย์กลางบริหารราชการแผ่นดินของประเทศ โดยกฎหมายระบุไว้ว่า ห้ามเข้าใกล้ในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบสถานที่ หากฝ่าฝืนถือว่าผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ทันที

ปูด10 กลุ่มขนคนร่วมม็อบ

นายสมชาย แสวงการ ส.ว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า....มีรายงานลับ ที่ประมวลจากหลายหน่วยข่าวกรอง ถึงการเตรียมการเข้าร่วมของมวลชนกลุ่มต่างๆ ดังนี้ 1.การจัดหาของส.ส.พรรค ก. และพรรค พ. ประมาณ 5,000 คน โดยส.ส.ที่เข้าร่วมโครงการนี้ จากพรรค ก. 60 คน หาผู้ชุมนุมมาคนละ 50 คน รวม 3,000 คน และเครือข่าย ส.ส.พรรค พ. ในพื้นที่รอบนอกกทม. และปริมณฑล ประมาณ 2,000 คน

2. คนงานในเครือข่ายสหพันธ์แรงงานเกี่ยวกับรถยนต์ และสหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมด้านสิ่งทอ จะเข้ามาร่วมได้ ในตอนเย็นวันที่ 19ก.ย. ประมาณ 1,000 คน (มีค่าใช้จ่ายเป็นเบี้ยเลี้ยง และรถรับส่ง)

3. การจัดหาผู้ชุมนุมของเครือข่ายพันธมิตรของพรรค ก. และคณะ ก. (นาย ธ.) ประกอบด้วยสมัชชาคนจน กลุ่มหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กลุ่มหาเสียงเลือกตั้ง สมุทรปราการ

4. กลุ่มนิสิตนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาที่มีหอพัก ของ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มหิดล จุฬาฯ เกษตรศาสตร์ ฯลฯ ประมาณ 1,000 คน

5.กลุ่มนักเรียน ประมาณ 500 คน ผ่านการชักชวนของนิสิต นักศึกษารุ่นพี่ โดยวิธีเคาะประตูโรงเรียน และแจกคำชักชวนพร้อมเบอร์โทรศัพท์ผู้ติดต่อทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันมีการตอบรับเท่าที่มีรายงานให้ทราบ ประมาณ 500 คน แต่ทางคณะ ก. คาดว่าจะมีจำนวนมากขึ้นตามลำดับไม่ต่ำกว่า 1,000 คน

6.กลุ่มนักเรียนเลว นำโดยน.ส.เบญจมาภรณ์ …หรือ “พลอย”เป็นแกนนำประมาณ1,000 คน

7. เครือข่ายคนเสื้อแดงรอบกรุงเทพฯ นายส. กลุ่มแดงล้มเจ้า เป็นแกนนำประมาณ 500 คน

8. ผู้ผ่านการอบรมของพรรคก้าวไกล 4 รุ่น ประมาณ 500 คน

9. เครือข่ายนักศึกษามุสลิม 3 จ.ชายแดนใต้ ประมาณ 200 คน (นายว. เป็นผู้สนับสนุน)

10. ประชาชนที่ชื่นชอบพรรค ก. และพรรคพ. ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณ10,000 คน

แฉบุกทำเนียบฯแค่เป้าหมายลวง

กำหนดการชุมนุมจะปักหลัก ค้างคืนใน ม.ธรรมศาสตร์ หรือสนามหลวง หากมหาวิทยาลัยไม่ให้เข้าจัดงาน จะหาทางกดดัน บุกเข้าไป และจะปิดประตูมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ 21.00 น. แต่จะมีผู้ปฏิบัติงาน ประมาณ 1,000 คน ที่ผ่านการคัดเลือกว่า เป็นกลุ่มเหนียวแน่นให้กลับบ้านนอนได้ เพื่อเตรียมย้อนกลับมาปิดถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในเช้าวันรุ่งขึ้น

วันที่ 20 ก.ย. มวลชนจะปิดถนนราชดำเนิน เพื่อจัดแสดงโปสเตอร์ต่างๆ โดยจะมีภาพ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ และ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ติดตามจุดต่างๆ ไว้ให้มวลชนทำความเคารพ

ถ้ามวลชนรวมได้ 20,000 คน จะเคลื่อนขบวนบนถนนราชดำเนิน ไปทำเนียบรัฐบาล (เป้าหมายลวง) และกองบัญชาการกองทัพบก (เป้าหมายลวง) เพื่อโจมตีผบ.ทบ. พร้อมประกาศเจตนารมย์ ห้ามทำการรัฐประหาร โดยจะมีการเชิญตัวแทนทูตต่างประเทศบางประเทศ เป็นสักขีพยานและถ่ายทอดสดทาง facebooklive และเพจในเครือข่าย (เป้าหมายลวง)

และจากนั้นจะนำมวลชนเคลื่อนไปลานพระบรมรูปทรงม้า (เป้าหมายจริง) เพื่อกระทำการ....

ระดมกำลังตร.ทั่วประเทศ 9 พันนายดูแลม็อบ

พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผบ.ตร. มีหนังสือวิทยุในราชการศูนย์ปฎิบัติการตร. เลขที่ 0007.33/160 ลงวันที่ 16 กันยายน ถึง ผบช.น., ภ.1-8, และ ตชด. ใจความว่า 1.อ้างถึงหนังสือ บช.น. ลง 14 กันยายน 2563 ขอรับการสนับสนุนกองร้อยควบคุมฝูงชน จำนวน 57 กองร้อย จากตร. เพื่อปฎิบัติภารกิจการรักษาความปลอดภัยและรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่ได้เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุม "19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร์" ในวันที่ 19 ก.ย.63 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ

'ก้าวไกล'ยกทีมไปมธ.19 กันยาฯ

ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล จะลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์ชุมนุม วันที่ 19 ก.ย.นี้ ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ มีการทำให้การใช้เสรีภาพในการแสดงออกของคนที่มาชุมนุมตามรัฐธรรมนูญไม่ได้หรือไม่

"เราจะไปสังเกตการณ์ วันที่ 19 ก.ย. แน่ๆ ในส่วนของพรรคก้าวไกล ไม่ได้ตั้งคณะทำงาน หากตั้งคงต้องตั้งทั้งพรรค เพราะทุกคนให้ความสำคัญเรื่องของสิทธิมนุษยชน เราสามารถลงพื้นที่แล้วใช้กลไกของกรรมาธิการ ในการปกป้องสิทธิมนุษยชนของพี่น้องประชาชนได้ ในกรณีที่มีการละเมิด สำคัญที่เราลงไปเพื่อให้เห็นว่าการชุมนุมทางการเมืองของประชาชน ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ หมายความว่า ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ คาดว่าคงไปกันหลายคน ถ้าใครอยู่ต่างจังหวัดไม่สะดวกก็ไม่ได้บังคับใครมา" นายรังสิมันต์ กล่าว

"พี่ศรี" ส่ง11ชื่อท่อน้ำเลี้ยงให้ป.ป.ง.สอบ

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อ พล.ต.ท.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขาธิการ ปปง. เพื่อขอให้ไต่สวน สอบสวนบุคคลที่เป็นท่อน้ำเลี้ยง หรือเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มม็อบ 19 ก.ย. พร้อมทั้งส่งรายชื่อท่อน้ำเลี้ยง 11 คน และให้ ปปง. ใช้อำนาจตามกม. ในการสั่งให้ธนาคารต่างๆ ที่บุคคล หรือกลุ่มต่างๆ เปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อจัดการชุมนุมที่ผิดกม.

การที่มีผู้ร่วมบริจาคเงินผ่านบัญชีของกลุ่มต่างๆ ที่เปิดรับการบริจาค เพื่อเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับการชุมนุมที่ผิดกฎหมายนั้น ถือได้ว่าเป็น ตัวการร่วม ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.83 และ ม.86 และในฐานะผู้สนับสนุนให้มีการกระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯ จึงจะนำรายชื่อท่อน้ำเลี้ยง 11 คน มาร้องเรียนต่อ ปปง. เพื่อให้ใช้อำนาจตามกฎหมาย ในการสั่งให้ธนาคารต่างๆ ที่บุคคล หรือกลุ่มต่างๆ เปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อจัดการชุมนุม รายงานให้กับ ปปง. ทราบว่ามีใครบ้าง ที่บริจาคเข้าบัญชีเหล่านั้นบ้าง เพื่อที่ ปปง. จะได้เรียกมาดำเนินการไต่สวนสอบสวนเอาผิดต่อไป

จี้'ทรัมป์'ไม่แทรกแซงกิจการภายในไทย

วันเดียวกันนี้ ที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นายพิชิต ไชยมงคล อดีตโฆษกกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ นายธวัชชัย จรูญชาติ ในนามตัวแทนกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) เดินทางไปยื่นหนังสือถึง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประเทศสหรัฐอเมริก และเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อขอคำยืนยันไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย พร้อมกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามคำแถลง อันจะมีผลทำให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ส่วนหนึงสืออีกฉบับ ที่ส่งถึงเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ขอให้ส่งหนังสือดังกล่าว ไปยังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ด้วย

ศาลรธน.รับคำร้องปมล้มล้างการปกครองหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องของนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 เฉพาะในส่วนที่กล่าวหาการกระทำของ นายอานนท์ นำภา นายภานุพงศ์ จาดนอก และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ที่ชุมุนมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 เข้าข่ายเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ศาลรัฐธรรมนูญสามารถมีคำสั่งให้คณะบุคคลดังกล่าวเลิกการกระทำดังกล่าวได้ ไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยมีคำสั่งให้แจ้งนายณฐพร ผู้ร้องทราบและส่งสำเนาคำร้องให้กับผู้ถูกร้องทั้งสามเพื่อยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามายังศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง รวมทั้งมีคำสั่งให้อัยการสูงสุดแจ้งผลการดำเนินการและส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามที่นายณฐพร ยื่นร้องเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 63 ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

กรณีคดีดังกล่าว นายณฐพร ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยกล่าวอ้างว่าผู้ถูกร้องซึ่งประกอบด้วยคณะบุคคลกลุ่มต่างๆ จัดการชุมนุมปราศรัยเมื่อวันที่ 3,9,10,20,21,30 ส.ค. 63 ซึ่งเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ตนเองได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสองแล้ว จึงยื่นคำร้องต่อศาลารัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยและมีคำสั่งให้คณะบุคคลเลิกการกระทำดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้อง เอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า แม้นายณฐพร ขอให้ศาลวินิจฉัยการกระทำของคณะบุคคลกลุ่มต่างๆ ในการจัดการชุมนุมปราศรัย รวม 6 ครั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 หรือไม่ ก็ตามแต่ข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค.นายณฐพรได้ยื่นต่ออัยการสูงสุดขอให้พิจารณาเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับการชุมนุมปราศรัยของคณะบุคคลในวันที่ 10 ส.ค. 63 ณ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งตามคำร้องระบุว่าการชุมนุมปราศรัยในวันดังกล่าวมีผู้กล่าวปราศรัย 3 คน ที่มีการกระทำตามที่นายณฐพรอ้างคือ นายอานนท์ นำภา นายภานุพงศ์ จาดนอก และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล กรณีจึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสาม ที่นายณฐพรจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ส่วนตามคำร้องที่กล่าวอ้างว่ามีการปราศรัยชุมนุมครั้งอื่น ไม่ปรากฏว่านายณฐพรได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดตามมาตรา 49 วรรคสอง ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งรับเฉพาะการกระทำของ นายอานนท์ นำภา นายภานุพงศ์ จาดนอก และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่ชุมุนมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63

สำหรับการปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ชื่อกิจกรรม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน “ ซึ่งมีการประกาศข้อเรียกร้อง 10 ข้อว่าด้วยการแก้ปัญหาเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์

มธ. ท่าพระจันทร์งดเรียน 19-20 ก.ย.นี้

ขณะที่รองศาสตราจารย์ มุนินทร์ พงศาปาน คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ทำหนังสือถึงคณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ ว่า จากการนัดชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และคณะประชาชนปลดแอก ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ขอความร่วมมือจาก ธม. ท่าพระจันทร์ ให้งดการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการติดต่อระหว่างวันที่ 19 - 20 ก.ย. แบะให้ปิดประตูทางเข้า-ออกด้านสนามหลวง และด้านท่าพระจันทร์ โดยให้เข้า-ออกด้านพระอาทิตย์ เพียงประตูเดียว และต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานมหาวิทยาลัย หรือบัตรประชาชน โดยแจ้งเหตผลความจำเป็นแก่เจ้าหน้าที่

ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเป็นไปตามแนวทางของฝ่ายความมั่นคง คณะนิติศาสตร์จึงงดจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการติดต่อที่ท่าพระจันทร์ ระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย. และคณะนิติศาสตร์ มีความจำเป็นต้องปิดประตูทางเข้า-ออกทุกจุดภายในอาคารคณะนินิศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จึงขอความร่วมมือคณาจารย์ และเจ้าหน้าที่งดเว้นการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น