ซูเปอร์โพล ชี้คนไทยตาสว่าง เชื่อมีขบวนการต่างชาติ-นักการเมือง อยู่เบื้องหลัง "ม็อบ" เป้าหมายทำลายเสาหลักของชาติ ห่วงซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจ ขณะที่ดุสิตโพล ระบุเสียงก้ำกึ่ง"เชื่อ-ไม่เชื่อ" ข่าวรัฐประหาร แต่ส่วนมากไม่คิดว่าจะมีรัฐบาลแห่งชาติ
วานนี้ (13 ก.ย.) นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง "หยุดแกนนำม็อบ" กรณีศึกษาจากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,575 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 9-12 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 85.1 เชื่อว่า ม็อบต่างๆ มีขบวนการนักการเมืองและต่างชาติหนุนอยู่เบื้องหลัง ในขณะที่ ร้อยละ 14.9 เชื่อว่าไม่มี
ที่น่าเป็นห่วง คือ ภาพลักษณ์ของ"เพนกวิน" พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำม็อบที่เคยนั่งทานชีสเค้ก กับเจ้าหน้าที่รัฐของต่างชาติ สร้างความเสื่อมเสียต่อตัวเองและประเทศชาติ ร้อยละ 85.2 ในขณะที่ ร้อยละ 14.8 ระบุไม่เสื่อมเสีย นอกจากนี้ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 63.1 ระบุ ภาพลักษณ์ของ "เพนกวิน-ไมค์ ระยอง" แกนนำม็อบ ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ทำงานให้ใครบางคน มีฝ่ายการเมืองอยู่เบื้องหลัง หรือทำงานให้ต่างชาติผู้หนุนอยู่เบื้องหลัง ในขณะที่ ร้อยละ 36.9 ระบุ ทำเพื่อผลประโยชน์ชาติ
ที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 75.1 เชื่อว่า มีขบวนการต่างชาติจริง ที่จ้องทำลายเสาหลักของประเทศไทยให้อ่อนแอ สั่นคลอน ไร้ระเบียบ จลาจล ควบคุมไม่ได้ เพื่อเป็นข้ออ้างในการเข้ามาจัดระเบียบใหม่ หวังกอบโกยผลประโยชน์จากประเทศไทย โดยมีนักการเมืองไทย และแกนนำม็อบร่วมมือกับต่างชาติ ในขณะที่ ร้อยละ 24.9 ไม่เชื่อว่ามี
นอกจากนี้คนไทยเกือบทั้งประเทศ เป็นส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 92.2 ระบุ ความเครียดว่าม็อบต่างๆ จะซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจ ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 7.8 บอกไม่เครียด
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลนี้ชี้ให้เห็นว่า คนไทยส่วนใหญ่กำลังเครียด ว่าม็อบต่างๆ จะเป็นอีกเหตุปัจจัยสำคัญที่ซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตต่าง ๆ ที่เกิดจากโควิด-19 สร้างความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศให้หนักขึ้นไปอีก การขยายผลความขัดแย้งรุนแรงบานปลายจึงไม่ส่งผลดีต่อทุกคนในชาติ ที่คนไทยส่วนใหญ่กำลังเชื่อว่า มีขบวนการต่างชาติและนักการเมืองไทยบางคน และแกนนำม็อบ กำลังทำให้เสาหลักของชาติ เช่น กระบวนการยุติธรรม สถาบันหลักของชาติ กองทัพ สั่นคลอน อ่อนแอ จนควบคุมไม่อยู่
"ฝ่ายตรงข้ามกำลังยั่วยุให้เกิดเสียงปืนแตก ชีวิตเด็กและเยาวชนสูญเสีย มือที่สามก็จะเข้ามาซ้ำเติมให้บ้านเมืองหยุดเติบโต จึงน่าจะช่วยกันหยุดแกนนำม็อบ โดยประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ควรรู้เท่าทันเป้าหมายของขบวนการต่างชาติที่จะทำให้ประเทศไทยอ่อนแอ และถือโอกาสเข้ามาเอาประเทศไทยเป็นประเทศคานงัด ชนะสงครามการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคนี้" ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
เสียงก้ำกึ่ง"เชื่อ-ไม่เชื่อ"ข่าวรัฐประหาร
ด้านสวนดุสิตโพล สำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1,517 คน ใน 3 ประเด็นหลัก ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมือง ณ วันนี้ พบว่า ประเด็นกระแสข่าวการทำรัฐประหาร กลุ่มตัวอย่างมีทั้งเชื่อและไม่เชื่อ โดยไม่เชื่อ 58.08% และ เชื่อ 41.92% คิดว่าน่าจะเกิดรัฐประหารขึ้นได้ 46.67% ส่วนประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ คิดว่าไม่น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ 41.79%
จากผลการสำรวจ ถึงแม้ประชาชนจะไม่เชื่อกระแสการทำรัฐประหาร แต่ก็ยังมองว่า มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ แสดงให้เห็นว่าประชาชนได้เรียนรู้จากอดีตที่ผ่านมาว่า เมื่อเกิดความขัดแย้ง และมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้น การทำรัฐประหารมักจะตามมาเสมอ ทั้งนี้ เห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ยังไม่ใช่ทางออก ถึงจะช่วยลดความขัดแย้ง มีความเป็นกลาง แต่ก็อาจไม่ได้รับการยอมรับ
'เพนกวิน' ชวนปู่ย่าตายายร่วมม็อบ 19 ก.ย.
ด้าน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ "เพนกวิน" นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำเยาวชนปลดแอก ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak" ระบุว่า "อยากชวนปู่ย่าตายาย มาร่วมกับลูกหลาน ทวงเงินเบี้ยคนชรา ที่ท่าพระจันทร์วันที่ 19 กันยายน จะได้ไหมครับ"
สำหรับความเคลื่อนไหวชุมนุมในต่างจังหวัดผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ที่อนุสรณ์สถานถังแดง ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เครือข่ายประชาชนคนพัทลุงปลดแอก 8 องค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมกันแถลงจุดยืน แสงดงความรู้สึกต่อเหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ พร้อมยืนหยัดที่จะต่อสู้ไปด้วยกับนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ในนามเครือข่ายประชาชนคนพัทลุงปลดแอก
โดยก่อนแถลงการณ์ มีนายสันติชัย ชายเกตุ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้การกล่าวสดุดีวีรชน ที่เสียชีวิตและเรียกร้องต่อสู้กับเผด็จการ ในยุคถีบลงเขาเผาลงถัง และนายสมคิด ทองสง นักเคลื่อนไหวท้องถิ่น ได้อ่านบทกวี เพื่อต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ
ทั้งนี้ เครือข่ายประชาชนพัทลุงปลดแอก ได้ประกาศจุดยืน ข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ดังนี้ 1. หยุดคุกคามนักเรียน นักศึกษา และประชาชนในทันที และเปิดพื้นที่ให้มีการชุมนุมใน ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งสร้างจากภาษีของประชาชน 2. ให้เจ้าหน้าที่รัฐ ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ ศาล ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการรักษา คุ้มครองและเพิ่มพูน สิทธิเสรีภาพของประชาชน 3. สนับสนุนการแก้รธน.60 4. ขอให้ประชาชน สนับสุนนการต่อสู้ของนักเรียนนักศึกษา และต่อต้านรัฐประหาร ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ เมื่อมีการยึดอำนาจ และ 5. ขอให้ประชาชนออกมาร่วมกัน ยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ และมาสร้างชาติ ที่เป็นของประชาชน ทำให้คนไทยเท่าเทียมกัน และเสมอหน้ากัน ในทางกฎหมาย ในทางเศรฐกิจ และในสังคม
ไม่ห่วงม็อบแรงถึงขั้นล้มรัฐบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึง การชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ย.นี้ โดยแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย อย่าไอจามใส่กัน และถ้าทุกคนใส่หน้ากากอนามัย ก็ไม่มีการระบาดของโรค
ส่วนการชุมนุมดังกล่าวจะ รุนแรงหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้อยู่ในกติกา ในกฎหมาย ชุมนุมด้วยความสงบ และข้อเรียกร้องต่างๆ ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาล คณะรัฐมนตรี และส.ส. ก็รับฟังทุกความเห็น ทุกข้อเรียกร้อง และจะนำมาพิจารณาหารือกัน หากทุกคนทำเพื่อประโยชน์บ้านเมือง คงไม่ปัญหา และมั่นใจว่าทุกคนจะทำเพื่อประโยชน์บ้านเมือง
เมื่อถามว่าการชุมนุมครั้งนี้ จะถึงขั้นล้มรัฐบาลได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฎหมาย และรัฐบาลก็ยังไม่ได้ทำอะไรผิด บริหารราชการแผ่นดินทุกวัน สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด เราก็ทำอย่างเต็มที่ ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจ ก็เป็นผลมาจากโควิด แต่เราก็ยังดูแลประชาชนเต็มความสามารถ
วานนี้ (13 ก.ย.) นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง "หยุดแกนนำม็อบ" กรณีศึกษาจากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,575 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 9-12 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 85.1 เชื่อว่า ม็อบต่างๆ มีขบวนการนักการเมืองและต่างชาติหนุนอยู่เบื้องหลัง ในขณะที่ ร้อยละ 14.9 เชื่อว่าไม่มี
ที่น่าเป็นห่วง คือ ภาพลักษณ์ของ"เพนกวิน" พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำม็อบที่เคยนั่งทานชีสเค้ก กับเจ้าหน้าที่รัฐของต่างชาติ สร้างความเสื่อมเสียต่อตัวเองและประเทศชาติ ร้อยละ 85.2 ในขณะที่ ร้อยละ 14.8 ระบุไม่เสื่อมเสีย นอกจากนี้ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 63.1 ระบุ ภาพลักษณ์ของ "เพนกวิน-ไมค์ ระยอง" แกนนำม็อบ ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ทำงานให้ใครบางคน มีฝ่ายการเมืองอยู่เบื้องหลัง หรือทำงานให้ต่างชาติผู้หนุนอยู่เบื้องหลัง ในขณะที่ ร้อยละ 36.9 ระบุ ทำเพื่อผลประโยชน์ชาติ
ที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 75.1 เชื่อว่า มีขบวนการต่างชาติจริง ที่จ้องทำลายเสาหลักของประเทศไทยให้อ่อนแอ สั่นคลอน ไร้ระเบียบ จลาจล ควบคุมไม่ได้ เพื่อเป็นข้ออ้างในการเข้ามาจัดระเบียบใหม่ หวังกอบโกยผลประโยชน์จากประเทศไทย โดยมีนักการเมืองไทย และแกนนำม็อบร่วมมือกับต่างชาติ ในขณะที่ ร้อยละ 24.9 ไม่เชื่อว่ามี
นอกจากนี้คนไทยเกือบทั้งประเทศ เป็นส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 92.2 ระบุ ความเครียดว่าม็อบต่างๆ จะซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจ ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 7.8 บอกไม่เครียด
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลนี้ชี้ให้เห็นว่า คนไทยส่วนใหญ่กำลังเครียด ว่าม็อบต่างๆ จะเป็นอีกเหตุปัจจัยสำคัญที่ซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตต่าง ๆ ที่เกิดจากโควิด-19 สร้างความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศให้หนักขึ้นไปอีก การขยายผลความขัดแย้งรุนแรงบานปลายจึงไม่ส่งผลดีต่อทุกคนในชาติ ที่คนไทยส่วนใหญ่กำลังเชื่อว่า มีขบวนการต่างชาติและนักการเมืองไทยบางคน และแกนนำม็อบ กำลังทำให้เสาหลักของชาติ เช่น กระบวนการยุติธรรม สถาบันหลักของชาติ กองทัพ สั่นคลอน อ่อนแอ จนควบคุมไม่อยู่
"ฝ่ายตรงข้ามกำลังยั่วยุให้เกิดเสียงปืนแตก ชีวิตเด็กและเยาวชนสูญเสีย มือที่สามก็จะเข้ามาซ้ำเติมให้บ้านเมืองหยุดเติบโต จึงน่าจะช่วยกันหยุดแกนนำม็อบ โดยประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ควรรู้เท่าทันเป้าหมายของขบวนการต่างชาติที่จะทำให้ประเทศไทยอ่อนแอ และถือโอกาสเข้ามาเอาประเทศไทยเป็นประเทศคานงัด ชนะสงครามการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคนี้" ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
เสียงก้ำกึ่ง"เชื่อ-ไม่เชื่อ"ข่าวรัฐประหาร
ด้านสวนดุสิตโพล สำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1,517 คน ใน 3 ประเด็นหลัก ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมือง ณ วันนี้ พบว่า ประเด็นกระแสข่าวการทำรัฐประหาร กลุ่มตัวอย่างมีทั้งเชื่อและไม่เชื่อ โดยไม่เชื่อ 58.08% และ เชื่อ 41.92% คิดว่าน่าจะเกิดรัฐประหารขึ้นได้ 46.67% ส่วนประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ คิดว่าไม่น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ 41.79%
จากผลการสำรวจ ถึงแม้ประชาชนจะไม่เชื่อกระแสการทำรัฐประหาร แต่ก็ยังมองว่า มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ แสดงให้เห็นว่าประชาชนได้เรียนรู้จากอดีตที่ผ่านมาว่า เมื่อเกิดความขัดแย้ง และมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้น การทำรัฐประหารมักจะตามมาเสมอ ทั้งนี้ เห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ยังไม่ใช่ทางออก ถึงจะช่วยลดความขัดแย้ง มีความเป็นกลาง แต่ก็อาจไม่ได้รับการยอมรับ
'เพนกวิน' ชวนปู่ย่าตายายร่วมม็อบ 19 ก.ย.
ด้าน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ "เพนกวิน" นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำเยาวชนปลดแอก ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak" ระบุว่า "อยากชวนปู่ย่าตายาย มาร่วมกับลูกหลาน ทวงเงินเบี้ยคนชรา ที่ท่าพระจันทร์วันที่ 19 กันยายน จะได้ไหมครับ"
สำหรับความเคลื่อนไหวชุมนุมในต่างจังหวัดผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ที่อนุสรณ์สถานถังแดง ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เครือข่ายประชาชนคนพัทลุงปลดแอก 8 องค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมกันแถลงจุดยืน แสงดงความรู้สึกต่อเหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ พร้อมยืนหยัดที่จะต่อสู้ไปด้วยกับนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ในนามเครือข่ายประชาชนคนพัทลุงปลดแอก
โดยก่อนแถลงการณ์ มีนายสันติชัย ชายเกตุ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้การกล่าวสดุดีวีรชน ที่เสียชีวิตและเรียกร้องต่อสู้กับเผด็จการ ในยุคถีบลงเขาเผาลงถัง และนายสมคิด ทองสง นักเคลื่อนไหวท้องถิ่น ได้อ่านบทกวี เพื่อต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ
ทั้งนี้ เครือข่ายประชาชนพัทลุงปลดแอก ได้ประกาศจุดยืน ข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ดังนี้ 1. หยุดคุกคามนักเรียน นักศึกษา และประชาชนในทันที และเปิดพื้นที่ให้มีการชุมนุมใน ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งสร้างจากภาษีของประชาชน 2. ให้เจ้าหน้าที่รัฐ ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ ศาล ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการรักษา คุ้มครองและเพิ่มพูน สิทธิเสรีภาพของประชาชน 3. สนับสนุนการแก้รธน.60 4. ขอให้ประชาชน สนับสุนนการต่อสู้ของนักเรียนนักศึกษา และต่อต้านรัฐประหาร ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ เมื่อมีการยึดอำนาจ และ 5. ขอให้ประชาชนออกมาร่วมกัน ยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ และมาสร้างชาติ ที่เป็นของประชาชน ทำให้คนไทยเท่าเทียมกัน และเสมอหน้ากัน ในทางกฎหมาย ในทางเศรฐกิจ และในสังคม
ไม่ห่วงม็อบแรงถึงขั้นล้มรัฐบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึง การชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ย.นี้ โดยแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย อย่าไอจามใส่กัน และถ้าทุกคนใส่หน้ากากอนามัย ก็ไม่มีการระบาดของโรค
ส่วนการชุมนุมดังกล่าวจะ รุนแรงหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้อยู่ในกติกา ในกฎหมาย ชุมนุมด้วยความสงบ และข้อเรียกร้องต่างๆ ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาล คณะรัฐมนตรี และส.ส. ก็รับฟังทุกความเห็น ทุกข้อเรียกร้อง และจะนำมาพิจารณาหารือกัน หากทุกคนทำเพื่อประโยชน์บ้านเมือง คงไม่ปัญหา และมั่นใจว่าทุกคนจะทำเพื่อประโยชน์บ้านเมือง
เมื่อถามว่าการชุมนุมครั้งนี้ จะถึงขั้นล้มรัฐบาลได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฎหมาย และรัฐบาลก็ยังไม่ได้ทำอะไรผิด บริหารราชการแผ่นดินทุกวัน สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด เราก็ทำอย่างเต็มที่ ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจ ก็เป็นผลมาจากโควิด แต่เราก็ยังดูแลประชาชนเต็มความสามารถ
